สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) ขับเคลื่อนประกันภัยท่องเที่ยวสู่ระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน ณ จังหวัดตาก
นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เปิดเผยว่า นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มอบหมายให้เป็นประธานเปิด ?โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกันภัยเชิงรุกสู่ระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน ปี 2567? โดยสำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) ซึ่งดูแลพื้นที่สำนักงาน คปภ. จังหวัดตาก บูรณาการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านประกันภัยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และจัดเสวนาหัวข้อ ?เที่ยวไทย อุ่นใจ ประกันภัยคุ้มครอง? ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล และตามแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน คปภ. ณ ห้องประชุมเกษมจาติกวณิช เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้ จังหวัดตากมีจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น เขื่อนภูมิพล ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม จำนวน 163,344 คน ต่อปี และมีผู้ประกอบการเรือที่จดทะเบียนกับกรมเจ้าท่า จำนวน 84 ลำ แบ่งเป็นเรือสำหรับโดยสาร จำนวน 28 ลำ เรือสำหรับบรรทุกสินค้า/ดันลากจูง จำนวน 56 ลำ โดยเมื่อผู้ประกอบการเรือหรือนักท่องเที่ยวหากได้ทำประกันภัยก็จะส่งผลให้ได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัย นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับการท่องเที่ยวในภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น จึงได้มีการขับเคลื่อนการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ ได้แก่ กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยเรือ และประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบการเรือที่จดทะเบียน ผู้ประกอบการเรืออยู่ระหว่างรอจดทะเบียน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว บุคลากรหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคเหนือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา และตำรวจท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อให้ตระหนักเห็นความสำคัญของการทำประกันภัย และสามารถใช้ระบบประกันภัยเป็นต้นแบบในการบริหารความเสี่ยง รวมถึงถ่ายทอดความรู้ด้านการประกันภัยเพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนได้ในวงกว้าง อันจะส่งผลให้เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
ที่มา: http://www.oic.or.th