1. ความเป็นมาของโพลล์
“การท่องเที่ยว” เป็นอุตสาหกรรมบริการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง จะเห็นได้จากรายได้ของประเทศในด้านนี้จะสูงกว่าราย
ได้จากอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะในขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยในฐานะที่มีทรัพยากรทางการท่อง
เที่ยวที่มีศักยภาพสูงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของคนไทย คือความเข้าใจและทัศนคติเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมาก
ขึ้น การเปิดคาสิโนและการจัดบริการทางเพศเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวหากมีการสำรวจความคิดเห็นเพื่อชี้นำสังคมและนำไปสู่การ
ส่งเสริมการ ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ก็จะเป็นประโยชน์และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมอันเป็นการรักษาสภาพ- แวดล้อมและวัฒนธรรมทาการท่องเที่ยว
อันดีงามของสังคมไทยตลอดไป
2. วัตถุประสงค์ของการสำรวจ
2.1 เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อกิจกรรมทางการ ท่องเที่ยวของไทย
2.2 เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวของประชาชนทั่วไป และนำไปใช้ในการชี้นำสังคม
ไทยด้านการท่องเที่ยวที่เหมาะสม และมีมูลค่าเพิ่มต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
3. ระเบียบวิธีวิจัย
การสำรวจภาคสนามของโพลล์นี้สำรวจจากประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยจำแนกตามเพศ อายุ อาชีพ และระดับการศึกษา โดย
ศึกษาจากตัวอย่างจำนวน 1,032 ราย ส่วนการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้นักศึกษาออกไปสัมภาษณ์ประชาชนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างโดยตรงในช่วงวันที่ 5-6
สิงหาคม 2544
4. ผลการสำรวจ
4.1 จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 57 )
และรองลงมาเป็นเพศชาย (ร้อยละ 43)
ส่วนอายุของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-24 ปี (ร้อยละ 43)
รองลงมาอายุระหว่าง 25-44 ปี (ร้อยละ 27)
อายุ 45 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 18)
และอายุต่ำกว่า 20 ปี (ร้อยละ 12) ตามลำดับ
สำหรับอาชีพของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างเอกชน (ร้อยละ 35)
รองลงมามีอาชีพแม่บ้านและนักศึกษา (ร้อยละ 23)
และว่างงาน (ร้อยละ 22)
ราชการและรัฐวิสาหกิจ (ร้อยละ 13)
และประกอบธุรกิจส่วนตัว (ร้อยละ 5 ) ตามลำดับ
ในด้านการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับ ปวส. / อนุปริญญา (ร้อยละ 43)
รองลงมาคือ ปริญญาตรีขึ้นไป (ร้อยละ 26)
มัธยม / ปวช. (ร้อยละ 19)
และต่ำกว่ามัธยมศึกษา (ร้อยละ 12) ตามลำดับ
4.2 ข้อค้นพบที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
ก. คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่อยากให้คนยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด (ร้อยละ 41) รองลงมาคือ คนอเมริกัน (ร้อยละ
22) และคนญี่ปุ่น (ร้อยละ 21) ตามลำดับ
โดยที่คนกรุงเทพฯ ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป อยากให้คนยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด ในขณะที่วัยรุ่นหรือผู้ที่มีอายุน้อยกว่า
20 ปี มีความคิดเห็นที่แตกต่าง คือ อยากให้คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่าชาติอื่น
ข. คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต้องการไปเที่ยวเมืองและประเทศต่าง ๆ ในต่างประเทศ อันดับสูงสุด คือ กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น รองลงมาคือ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซิดนีย์ ประเทศ ออสเตรเลีย และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตามลำดับ ในส่วนของสถานที่
ท่องเที่ยวในประเทศ-ไทยที่คนไทยต้องการไปเที่ยวมากที่สุด อันดับแรก คือ ภูเก็ต รองลงมา คือ เชียงใหม่ และกระบี่ ตามลำดับ
ค. ความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ เกี่ยวกับการเปิดคาสิโนเพื่อการท่องเที่ยว พบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ คิดว่าการเปิด
คาสิโนจะไม่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากขึ้น (ร้อยละ 56) ส่วนที่เห็นว่าจะส่งเสริมกิจกรรมดังกล่าว มีจำนวนน้อยกว่า คือ
ร้อยละ 31 และ ที่ไม่แน่ใจมีเพียงร้อยละ 13 เท่านั้น โดยที่คนกรุงเทพไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย ระดับการศึกษา และอาชีพใดก็ตาม ต่างเห็นสอดคล้องกัน
ว่าไม่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากขึ้น
4.3 ข้อมูลสนับสนุน
รายละเอียดเพิ่มเติมปรากฏในตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1 ร้อยละของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย
กลุ่มเชื้อชาติ ร้อยละ
ยุโรป 41
อเมริกัน 22
ญี่ปุ่น 21
จีน 5
ตะวันออกกลาง 2
มาเลเซีย 1
อื่น ๆ 8
ตารางที่ 2 ลำดับของเมืองและประเทศในต่างประเทศที่คนกรุงเทพฯ ต้องการไปเที่ยวมากที่สุด
ลำดับที่ เมือง ประเทศ
1 โตเกียว ญี่ปุ่น
2 ปารีส ฝรั่งเศส
3 ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
4 ลอนดอน อังกฤษ
5 แมนเชสเตอร์ อังกฤษ
6 นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
7 ลอสแองเจอร์ลิส สหรัฐอเมริกา
ตารางที่ 3 ลำดับของเมืองท่องเที่ยวในประเทศไทยที่คนกรุงเทพฯ ต้องการไปเที่ยวมากที่สุด
ลำดับที่ เมือง
1 ภูเก็ต
2 เชียงใหม่
3 กระบี่
4 สุราษฎร์ธานี
5 เชียงราย
6 เลย
7 ชลบุรี
ตารางที่ 4 ร้อยละของคนกรุงเทพฯ ที่มีความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องจ่ายค่าบริการต่าง ๆ สูงกว่าคนไทย
ความคิดเห็น ร้อยละ
เห็นด้วย 47
ไม่เห็นด้วย 46
ไม่แน่ใจ 7
รวม 100
ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์
ภูเก็ต : เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนกรุงเทพ
ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์ ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชา-ชนในเขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 5-6
สิงหาคม 2544 เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อสะท้อนความต้องการและความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวไทย ซึ่งผลการ
สำรวจครั้งนี้ได้ข้อค้นพบที่สำคัญ ดังนี้
1. ชาวต่างชาติที่คนกรุงเทพอยากให้เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากที่สุด คือ คนยุโรป รอง- ลงมาคือ คนอเมริกัน และคนญี่ปุ่นตาม
ลำดับ และเป็นที่น่าสังเกตว่าเฉพาะคนกรุงเทพที่มีอายุน้อย หรือกลุ่มวัยรุ่น (ต่ำกว่า 20 ปี) อยากให้คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่าชาติอื่น ในขณะที่
คนกรุงเทพฯกลุ่มอื่น ๆ ที่มีอายุมากกว่าอยากให้ชาวยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด
2. เมืองและประเทศที่คนกรุงเทพต้องการไปเที่ยวมากที่สุด คือ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชียเช่นเดียวกับไทย ส่วนที่
ต้องการไปเที่ยวในลำดับรองลงมา ได้แก่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
3. สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่คนกรุงเทพต้องการไปเที่ยวมากที่สุด คือ ภูเก็ต รอง-ลงมาคือ เชียงใหม่ และกระบี่ ตามลำดับ
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า อันดับ 1 และอันดับ 3 เป็นเมืองที่อยู่ ภาคใต้และมีธรรมชาติเป็นเกาะและทะเล ในขณะที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ
ได้รับความนิยมน้อยกว่าภูเก็ต
4. คนกรุงเทพส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ชาวต่างชาติต้องจ่ายค่าบริการต่าง ๆ เช่น ที่พัก และค่าเข้าชมโบราณสถาน เป็นต้น สูงกว่าคนไทย
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--
-พห-
“การท่องเที่ยว” เป็นอุตสาหกรรมบริการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง จะเห็นได้จากรายได้ของประเทศในด้านนี้จะสูงกว่าราย
ได้จากอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะในขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยในฐานะที่มีทรัพยากรทางการท่อง
เที่ยวที่มีศักยภาพสูงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของคนไทย คือความเข้าใจและทัศนคติเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมาก
ขึ้น การเปิดคาสิโนและการจัดบริการทางเพศเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวหากมีการสำรวจความคิดเห็นเพื่อชี้นำสังคมและนำไปสู่การ
ส่งเสริมการ ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ก็จะเป็นประโยชน์และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมอันเป็นการรักษาสภาพ- แวดล้อมและวัฒนธรรมทาการท่องเที่ยว
อันดีงามของสังคมไทยตลอดไป
2. วัตถุประสงค์ของการสำรวจ
2.1 เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อกิจกรรมทางการ ท่องเที่ยวของไทย
2.2 เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวของประชาชนทั่วไป และนำไปใช้ในการชี้นำสังคม
ไทยด้านการท่องเที่ยวที่เหมาะสม และมีมูลค่าเพิ่มต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
3. ระเบียบวิธีวิจัย
การสำรวจภาคสนามของโพลล์นี้สำรวจจากประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยจำแนกตามเพศ อายุ อาชีพ และระดับการศึกษา โดย
ศึกษาจากตัวอย่างจำนวน 1,032 ราย ส่วนการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้นักศึกษาออกไปสัมภาษณ์ประชาชนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างโดยตรงในช่วงวันที่ 5-6
สิงหาคม 2544
4. ผลการสำรวจ
4.1 จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 57 )
และรองลงมาเป็นเพศชาย (ร้อยละ 43)
ส่วนอายุของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-24 ปี (ร้อยละ 43)
รองลงมาอายุระหว่าง 25-44 ปี (ร้อยละ 27)
อายุ 45 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 18)
และอายุต่ำกว่า 20 ปี (ร้อยละ 12) ตามลำดับ
สำหรับอาชีพของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างเอกชน (ร้อยละ 35)
รองลงมามีอาชีพแม่บ้านและนักศึกษา (ร้อยละ 23)
และว่างงาน (ร้อยละ 22)
ราชการและรัฐวิสาหกิจ (ร้อยละ 13)
และประกอบธุรกิจส่วนตัว (ร้อยละ 5 ) ตามลำดับ
ในด้านการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับ ปวส. / อนุปริญญา (ร้อยละ 43)
รองลงมาคือ ปริญญาตรีขึ้นไป (ร้อยละ 26)
มัธยม / ปวช. (ร้อยละ 19)
และต่ำกว่ามัธยมศึกษา (ร้อยละ 12) ตามลำดับ
4.2 ข้อค้นพบที่สำคัญสรุปได้ดังนี้
ก. คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่อยากให้คนยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด (ร้อยละ 41) รองลงมาคือ คนอเมริกัน (ร้อยละ
22) และคนญี่ปุ่น (ร้อยละ 21) ตามลำดับ
โดยที่คนกรุงเทพฯ ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป อยากให้คนยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด ในขณะที่วัยรุ่นหรือผู้ที่มีอายุน้อยกว่า
20 ปี มีความคิดเห็นที่แตกต่าง คือ อยากให้คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่าชาติอื่น
ข. คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต้องการไปเที่ยวเมืองและประเทศต่าง ๆ ในต่างประเทศ อันดับสูงสุด คือ กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่น รองลงมาคือ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซิดนีย์ ประเทศ ออสเตรเลีย และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตามลำดับ ในส่วนของสถานที่
ท่องเที่ยวในประเทศ-ไทยที่คนไทยต้องการไปเที่ยวมากที่สุด อันดับแรก คือ ภูเก็ต รองลงมา คือ เชียงใหม่ และกระบี่ ตามลำดับ
ค. ความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ เกี่ยวกับการเปิดคาสิโนเพื่อการท่องเที่ยว พบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ คิดว่าการเปิด
คาสิโนจะไม่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากขึ้น (ร้อยละ 56) ส่วนที่เห็นว่าจะส่งเสริมกิจกรรมดังกล่าว มีจำนวนน้อยกว่า คือ
ร้อยละ 31 และ ที่ไม่แน่ใจมีเพียงร้อยละ 13 เท่านั้น โดยที่คนกรุงเทพไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย ระดับการศึกษา และอาชีพใดก็ตาม ต่างเห็นสอดคล้องกัน
ว่าไม่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากขึ้น
4.3 ข้อมูลสนับสนุน
รายละเอียดเพิ่มเติมปรากฏในตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1 ร้อยละของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย
กลุ่มเชื้อชาติ ร้อยละ
ยุโรป 41
อเมริกัน 22
ญี่ปุ่น 21
จีน 5
ตะวันออกกลาง 2
มาเลเซีย 1
อื่น ๆ 8
ตารางที่ 2 ลำดับของเมืองและประเทศในต่างประเทศที่คนกรุงเทพฯ ต้องการไปเที่ยวมากที่สุด
ลำดับที่ เมือง ประเทศ
1 โตเกียว ญี่ปุ่น
2 ปารีส ฝรั่งเศส
3 ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
4 ลอนดอน อังกฤษ
5 แมนเชสเตอร์ อังกฤษ
6 นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
7 ลอสแองเจอร์ลิส สหรัฐอเมริกา
ตารางที่ 3 ลำดับของเมืองท่องเที่ยวในประเทศไทยที่คนกรุงเทพฯ ต้องการไปเที่ยวมากที่สุด
ลำดับที่ เมือง
1 ภูเก็ต
2 เชียงใหม่
3 กระบี่
4 สุราษฎร์ธานี
5 เชียงราย
6 เลย
7 ชลบุรี
ตารางที่ 4 ร้อยละของคนกรุงเทพฯ ที่มีความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องจ่ายค่าบริการต่าง ๆ สูงกว่าคนไทย
ความคิดเห็น ร้อยละ
เห็นด้วย 47
ไม่เห็นด้วย 46
ไม่แน่ใจ 7
รวม 100
ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์
ภูเก็ต : เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนกรุงเทพ
ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์ ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชา-ชนในเขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 5-6
สิงหาคม 2544 เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อสะท้อนความต้องการและความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวไทย ซึ่งผลการ
สำรวจครั้งนี้ได้ข้อค้นพบที่สำคัญ ดังนี้
1. ชาวต่างชาติที่คนกรุงเทพอยากให้เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากที่สุด คือ คนยุโรป รอง- ลงมาคือ คนอเมริกัน และคนญี่ปุ่นตาม
ลำดับ และเป็นที่น่าสังเกตว่าเฉพาะคนกรุงเทพที่มีอายุน้อย หรือกลุ่มวัยรุ่น (ต่ำกว่า 20 ปี) อยากให้คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทยมากกว่าชาติอื่น ในขณะที่
คนกรุงเทพฯกลุ่มอื่น ๆ ที่มีอายุมากกว่าอยากให้ชาวยุโรปมาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด
2. เมืองและประเทศที่คนกรุงเทพต้องการไปเที่ยวมากที่สุด คือ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชียเช่นเดียวกับไทย ส่วนที่
ต้องการไปเที่ยวในลำดับรองลงมา ได้แก่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
3. สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่คนกรุงเทพต้องการไปเที่ยวมากที่สุด คือ ภูเก็ต รอง-ลงมาคือ เชียงใหม่ และกระบี่ ตามลำดับ
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า อันดับ 1 และอันดับ 3 เป็นเมืองที่อยู่ ภาคใต้และมีธรรมชาติเป็นเกาะและทะเล ในขณะที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ
ได้รับความนิยมน้อยกว่าภูเก็ต
4. คนกรุงเทพส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ชาวต่างชาติต้องจ่ายค่าบริการต่าง ๆ เช่น ที่พัก และค่าเข้าชมโบราณสถาน เป็นต้น สูงกว่าคนไทย
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--
-พห-