ภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปโดยครอบครัวชินวัตรแล้ว พบว่าครึ่งหนึ่งของคนกรุงเทพฯ มีความรู้สึกไว้วางใจนายยกรัฐมนตรีลดลง และคิด
ว่าไม่เกิดผลดีต่อประเทศโดยส่วนรวม
ภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปโดยครอบครัวชินวัตรปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อให้เกิดกระแสข่าวเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีอย่างต่อ
เนื่อง จนกระทั่งต้องมีการมอบหมายให้ชี้แจงการขายหุ้นโดยโฆษกของตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ดังนั้นธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์
ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จึงทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ในเรื่อง “ผลกระทบหลังขายหุ้นชินคอร์ป” โดย
สอบถามคนกรุงเทพฯ จำนวน 1203 ตัวอย่าง จากทุกระดับการศึกษา อาชีพ อายุ และเพศ ผลการสำรวจสรุปได้ดังนี้
1. ผลกระทบต่อประเทศในส่วนรวมภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 56.3 คิดว่าไม่เป็นผลดีต่อ
ประเทศ ร้อยละ 30.9 เฉยๆ และร้อยละ 12.8 คิดว่าเป็นผลดีต่อประเทศ
2. ความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 53.2 ไว้วางใจลดน้อยลง ร้อย
ละ 34.3 เฉยๆ และร้อยละ 12.5 ไว้วางใจมากขึ้น
3. สำหรับความคิดเห็นว่าการขายหุ้นชินคอร์ปครั้งนี้เป็นการขายสมบัติของชาติทำลายอธิปไตยการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศนั้น
ร้อยละ 37.5 ไม่มีความคิดเห็น ร้อยละ 36.6 เห็นด้วย และร้อยละ 25.8 ไม่เห็นด้วย
4. การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ปนั้น ร้อยละ 86.5 คิดว่าเปิดเผยบางส่วน ร้อยละ 13.5 เปิดเผยข้อมูล
ครบถ้วน
5. ความพอใจในการอธิบายการขายหุ้นชินคอร์ป โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความโปร่งใสและตรงไปตรงมา ร้อยละ 52.8 ไม่พอใจ ร้อย
ละ 32.8 ไม่มีความเห็น และร้อยละ 14.2 พอใจ
6. ส่วนการติดตามการแถลงข่าวของโฆษกตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ในกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปนั้นร้อยละ 82.2 ได้ติดตามข่าว โดย
ร้อยละ 43.9 เชื่อถือน้อย ร้อยละ 41.5 เชื่อถือปานกลาง ร้อยละ 14.6 เชื่อถือมาก ในขณะที่ร้อยละ 17.8 ไม่ได้ติดตามข่าว
7. สำหรับการเรียกร้องของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีเสียสละบริจาคเงิน 26,000 ล้านบาทให้หลวงเพื่อช่วย
เหลือคนจนนั้น ร้อยละ 68.5 เห็นด้วย ร้อยละ 31.5 ไม่เห็นด้วย
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปจำแนกตามเพศ
เพศ ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
ชาย 15.9 50.5 33.6 100
หญิง 9.9 55.3 34.8 100
รวม 12.5 53.2 34.3 100
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ป จำแนกตามอายุ
อายุ ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
15-19 15.9 31.7 52.4 100
20-24 15.5 19.4 35.2 100
25-29 10.5 52.6 36.8 100
30-39 10.9 54.3 34.8 100
40-49 11.5 66.2 22.3 100
50-59 13.3 64.4 22.2 100
60 ปีขึ้นไป 8.3 66.7 25 100
รวม 12.5 53.2 34.3 100
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ป จำแนกตามระดับการศึกษา
ระดับการศึกษา ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
ประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 35 50 25.6 100
มัธยมศึกษา/ปวช. 17.4 40.1 42.5 100
อนุปริญญา/ปวส. 14.1 44.5 41.3 100
ปริญญาตรีหรือสูงกว่า 7.9 65.8 26.4 100
รวม 12.5 53.2 34.3 100
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ป จำแนกตามอาชีพ
อาชีพ ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ 9.3 62.1 28.6 100
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัท 12.3 53.9 33.8 100
ประกอบธุรกิจส่วนตัว 13.9 50 36.1 100
ช่วยธุรกิจ/งานครอบครัว 27.8 41.7 30.5 100
แม่บ้าน 11.1 50 39.3 100
นักเรียน/นักศึกษา 8.9 51.8 39.3 100
รวม 12.58 53.2 34.3 100
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--
-พห-
ว่าไม่เกิดผลดีต่อประเทศโดยส่วนรวม
ภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปโดยครอบครัวชินวัตรปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อให้เกิดกระแสข่าวเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีอย่างต่อ
เนื่อง จนกระทั่งต้องมีการมอบหมายให้ชี้แจงการขายหุ้นโดยโฆษกของตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ดังนั้นธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์
ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จึงทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ในเรื่อง “ผลกระทบหลังขายหุ้นชินคอร์ป” โดย
สอบถามคนกรุงเทพฯ จำนวน 1203 ตัวอย่าง จากทุกระดับการศึกษา อาชีพ อายุ และเพศ ผลการสำรวจสรุปได้ดังนี้
1. ผลกระทบต่อประเทศในส่วนรวมภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 56.3 คิดว่าไม่เป็นผลดีต่อ
ประเทศ ร้อยละ 30.9 เฉยๆ และร้อยละ 12.8 คิดว่าเป็นผลดีต่อประเทศ
2. ความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 53.2 ไว้วางใจลดน้อยลง ร้อย
ละ 34.3 เฉยๆ และร้อยละ 12.5 ไว้วางใจมากขึ้น
3. สำหรับความคิดเห็นว่าการขายหุ้นชินคอร์ปครั้งนี้เป็นการขายสมบัติของชาติทำลายอธิปไตยการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศนั้น
ร้อยละ 37.5 ไม่มีความคิดเห็น ร้อยละ 36.6 เห็นด้วย และร้อยละ 25.8 ไม่เห็นด้วย
4. การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ปนั้น ร้อยละ 86.5 คิดว่าเปิดเผยบางส่วน ร้อยละ 13.5 เปิดเผยข้อมูล
ครบถ้วน
5. ความพอใจในการอธิบายการขายหุ้นชินคอร์ป โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความโปร่งใสและตรงไปตรงมา ร้อยละ 52.8 ไม่พอใจ ร้อย
ละ 32.8 ไม่มีความเห็น และร้อยละ 14.2 พอใจ
6. ส่วนการติดตามการแถลงข่าวของโฆษกตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ในกรณีการขายหุ้นชินคอร์ปนั้นร้อยละ 82.2 ได้ติดตามข่าว โดย
ร้อยละ 43.9 เชื่อถือน้อย ร้อยละ 41.5 เชื่อถือปานกลาง ร้อยละ 14.6 เชื่อถือมาก ในขณะที่ร้อยละ 17.8 ไม่ได้ติดตามข่าว
7. สำหรับการเรียกร้องของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีเสียสละบริจาคเงิน 26,000 ล้านบาทให้หลวงเพื่อช่วย
เหลือคนจนนั้น ร้อยละ 68.5 เห็นด้วย ร้อยละ 31.5 ไม่เห็นด้วย
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ปจำแนกตามเพศ
เพศ ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
ชาย 15.9 50.5 33.6 100
หญิง 9.9 55.3 34.8 100
รวม 12.5 53.2 34.3 100
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ป จำแนกตามอายุ
อายุ ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
15-19 15.9 31.7 52.4 100
20-24 15.5 19.4 35.2 100
25-29 10.5 52.6 36.8 100
30-39 10.9 54.3 34.8 100
40-49 11.5 66.2 22.3 100
50-59 13.3 64.4 22.2 100
60 ปีขึ้นไป 8.3 66.7 25 100
รวม 12.5 53.2 34.3 100
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ป จำแนกตามระดับการศึกษา
ระดับการศึกษา ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
ประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 35 50 25.6 100
มัธยมศึกษา/ปวช. 17.4 40.1 42.5 100
อนุปริญญา/ปวส. 14.1 44.5 41.3 100
ปริญญาตรีหรือสูงกว่า 7.9 65.8 26.4 100
รวม 12.5 53.2 34.3 100
ร้อยละของผู้มีความรู้สึกไว้วางใจนายกรัฐมนตรีภายหลังการขายหุ้นชินคอร์ป จำแนกตามอาชีพ
อาชีพ ความรู้สึกไว้วางใจ รวม
มากขึ้น ลดน้อยลง เฉย ๆ
รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ 9.3 62.1 28.6 100
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัท 12.3 53.9 33.8 100
ประกอบธุรกิจส่วนตัว 13.9 50 36.1 100
ช่วยธุรกิจ/งานครอบครัว 27.8 41.7 30.5 100
แม่บ้าน 11.1 50 39.3 100
นักเรียน/นักศึกษา 8.9 51.8 39.3 100
รวม 12.58 53.2 34.3 100
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--
-พห-