คนกรุงเทพฯ นิยมซื้อหวยบนดินมากที่สุด และหนึ่งในสามคิดว่าในชีวิตนี้จะร่ำรวยเพราะหวยได้
จากการที่รัฐบาลสั่งห้ามสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกหวยบนดินชั่วคราว โดยอ้างว่าผิดกฎหมายนั้น ธุรกิจบัณฑิตโพลล์ ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ในหัวข้อ “หวย : สาเหตุและความคาดหวัง” โดยสอบถามคนกรุงเทพฯ จำนวน 1,254 คน จากทุกระดับอาชีพ การศึกษา รายได้และเพศ ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งผลการสำรวจสรุปได้ดังนี้
1. พฤติกรรมการซื้อหวยของชาวกรุงเทพฯ พบว่าร้อยละ 39.1 จะซื้อหวยบนดินอย่างเดียว ร้อยละ 21.3 ซื้อหวยบนดินและล็อตเตอรี่ ร้อยละ 7.8 ซื้อหวยบนดิน หวยใต้ดิน และล็อตเตอรี่ ร้อยละ 6.3 ซื้อหวยใต้ดินอย่างเดียว ร้อยละ 2.3 ซื้อหวยบนดินและใต้ดิน ร้อยละ 1.4 ซื้อหวยใต้ดินและล็อตเตอรี่ และพบว่ามีผู้ไม่เคยซื้อหวยเลยเพียง ร้อยละ 8.9 ส่วนจำนวนเงินที่ใช้ในการซื้อสลากรางวัลแต่ละประเภทจะอยู่ระหว่าง 100 — 200 บาทต่อครั้งโดยจำนวนเงินที่ซื้อต่ำสุดครั้งละ 20 บาท และสูงสุดประมาณ 5,000 บาท
2. ในกรณีที่ไม่มีการจำหน่ายหวยบนดิน ผู้ซื้อสลากรางวัลประเภทต่างๆ ถึงร้อยละ 52.7 ตั้งใจจะซื้อล็อตเตอรี่ ร้อยละ 32.7 จะหยุดการซื้อชั่วคราว และร้อยละ 14.6 จะไปซื้อหวยใต้ดิน
3. ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 44.5 ซื้อหวยบนดินเนื่องจากมีรางวัลแจ็กพอตเป็นตัวจูงใจ สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับการได้รางวัลแจ็กพอตรางวัลเดียวกับเฉลี่ยหลายรางวัลนั้น ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 75.1 ชอบการเฉลี่ยหลายรางวัล ร้อยละ 24.9 ชอบรางวัลเดียว
4. เมื่อถามถึงสาเหตุที่ซื้อหวยหรือล็อตเตอรี่นั้น ร้อยละ 36.5 ซื้อเพื่อความสนุกไม่ได้หวังอะไรมาก ร้อยละ 18.6 ซื้อเพราะหวังจะร่ำรวยเร็ว ร้อยละ 10.7 ซื้อเพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 8.7 ซื้อเพราะต้องการได้สิ่งที่อยากได้ซึ่งไม่สามารถซื้อได้จากรายได้ปัจจุบัน ร้อยละ 8.3 ซื้อเพราะต้องการได้เงินก้อนใหญ่มาใช้ ร้อยละ 7.0 ซื้อเพราะกลัวผิดหวังว่าถ้าไม่ได้ซื้อเลขนั้นแล้วเกิดหวยออกจริง ร้อยละ 4.4 ซื้อเพราะชอบการพนัน และร้อยละ 2.9 ซื้อเพราะต้องการได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
5. ส่วนตัวเลขที่จะนำไปซื้อหวยหรือล็อตเตอรี่ในแต่ละงวดได้นั้น ร้อยละ 37.1 บอกว่าได้มาจากความฝัน ร้อยละ 22.5 ได้มาจากเลขทะเบียน (เบอร์) เลขที่ได้มาใหม่ ร้อยละ 14.1 ได้จากญาติหรือเพื่อนบอก ร้อยละ 4.9 ได้จากการใบ้หวยจากสื่อต่างๆ ร้อยละ 4.6 ได้จากอายุคนตายที่สนิทชิดชอบและรู้จัก ร้อยละ 3.3 ได้จากวันสำคัญของบุคคลสำคัญและญาติในครอบครัว ร้อยละ 1.1 ได้จากวันสำคัญประจำปีและอีกร้อยละที่เหลือบอกว่าแล้วแต่จะนึกได้
6. สำหรับคำกล่าวที่ผู้ซื้อสลากรางวัลประเภทต่างๆ ชอบพูดกันเสมอว่า “ชีวิตนี้ตนจะร่ำรวยเพราะหวย” ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 35.6 เห็นว่าเป็นไปได้ ร้อยละ 64.4 เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ ส่วนความเชื่อที่ว่าในปัจจุบันยังคงมีหวยล็อคอยู่หรือไม่นั้น ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 77.0 เชื่อว่ามี ร้อยละ 12.8 ไม่มีความคิดเห็น และร้อยละ 10.2 เชื่อว่าไม่มี
7. ในกรณีไม่มีการถ่ายทอดสดการออกรางวัลทางโทรทัศน์นั้น ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 50.4 เห็นว่าการออกรางวัลอาจจะไม่โปร่งใส ร้อยละ 39.4 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 10.1 เห็นว่ายังโปร่งใสอยู่
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--
-พห-
จากการที่รัฐบาลสั่งห้ามสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกหวยบนดินชั่วคราว โดยอ้างว่าผิดกฎหมายนั้น ธุรกิจบัณฑิตโพลล์ ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ในหัวข้อ “หวย : สาเหตุและความคาดหวัง” โดยสอบถามคนกรุงเทพฯ จำนวน 1,254 คน จากทุกระดับอาชีพ การศึกษา รายได้และเพศ ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งผลการสำรวจสรุปได้ดังนี้
1. พฤติกรรมการซื้อหวยของชาวกรุงเทพฯ พบว่าร้อยละ 39.1 จะซื้อหวยบนดินอย่างเดียว ร้อยละ 21.3 ซื้อหวยบนดินและล็อตเตอรี่ ร้อยละ 7.8 ซื้อหวยบนดิน หวยใต้ดิน และล็อตเตอรี่ ร้อยละ 6.3 ซื้อหวยใต้ดินอย่างเดียว ร้อยละ 2.3 ซื้อหวยบนดินและใต้ดิน ร้อยละ 1.4 ซื้อหวยใต้ดินและล็อตเตอรี่ และพบว่ามีผู้ไม่เคยซื้อหวยเลยเพียง ร้อยละ 8.9 ส่วนจำนวนเงินที่ใช้ในการซื้อสลากรางวัลแต่ละประเภทจะอยู่ระหว่าง 100 — 200 บาทต่อครั้งโดยจำนวนเงินที่ซื้อต่ำสุดครั้งละ 20 บาท และสูงสุดประมาณ 5,000 บาท
2. ในกรณีที่ไม่มีการจำหน่ายหวยบนดิน ผู้ซื้อสลากรางวัลประเภทต่างๆ ถึงร้อยละ 52.7 ตั้งใจจะซื้อล็อตเตอรี่ ร้อยละ 32.7 จะหยุดการซื้อชั่วคราว และร้อยละ 14.6 จะไปซื้อหวยใต้ดิน
3. ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 44.5 ซื้อหวยบนดินเนื่องจากมีรางวัลแจ็กพอตเป็นตัวจูงใจ สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับการได้รางวัลแจ็กพอตรางวัลเดียวกับเฉลี่ยหลายรางวัลนั้น ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 75.1 ชอบการเฉลี่ยหลายรางวัล ร้อยละ 24.9 ชอบรางวัลเดียว
4. เมื่อถามถึงสาเหตุที่ซื้อหวยหรือล็อตเตอรี่นั้น ร้อยละ 36.5 ซื้อเพื่อความสนุกไม่ได้หวังอะไรมาก ร้อยละ 18.6 ซื้อเพราะหวังจะร่ำรวยเร็ว ร้อยละ 10.7 ซื้อเพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 8.7 ซื้อเพราะต้องการได้สิ่งที่อยากได้ซึ่งไม่สามารถซื้อได้จากรายได้ปัจจุบัน ร้อยละ 8.3 ซื้อเพราะต้องการได้เงินก้อนใหญ่มาใช้ ร้อยละ 7.0 ซื้อเพราะกลัวผิดหวังว่าถ้าไม่ได้ซื้อเลขนั้นแล้วเกิดหวยออกจริง ร้อยละ 4.4 ซื้อเพราะชอบการพนัน และร้อยละ 2.9 ซื้อเพราะต้องการได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
5. ส่วนตัวเลขที่จะนำไปซื้อหวยหรือล็อตเตอรี่ในแต่ละงวดได้นั้น ร้อยละ 37.1 บอกว่าได้มาจากความฝัน ร้อยละ 22.5 ได้มาจากเลขทะเบียน (เบอร์) เลขที่ได้มาใหม่ ร้อยละ 14.1 ได้จากญาติหรือเพื่อนบอก ร้อยละ 4.9 ได้จากการใบ้หวยจากสื่อต่างๆ ร้อยละ 4.6 ได้จากอายุคนตายที่สนิทชิดชอบและรู้จัก ร้อยละ 3.3 ได้จากวันสำคัญของบุคคลสำคัญและญาติในครอบครัว ร้อยละ 1.1 ได้จากวันสำคัญประจำปีและอีกร้อยละที่เหลือบอกว่าแล้วแต่จะนึกได้
6. สำหรับคำกล่าวที่ผู้ซื้อสลากรางวัลประเภทต่างๆ ชอบพูดกันเสมอว่า “ชีวิตนี้ตนจะร่ำรวยเพราะหวย” ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 35.6 เห็นว่าเป็นไปได้ ร้อยละ 64.4 เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ ส่วนความเชื่อที่ว่าในปัจจุบันยังคงมีหวยล็อคอยู่หรือไม่นั้น ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 77.0 เชื่อว่ามี ร้อยละ 12.8 ไม่มีความคิดเห็น และร้อยละ 10.2 เชื่อว่าไม่มี
7. ในกรณีไม่มีการถ่ายทอดสดการออกรางวัลทางโทรทัศน์นั้น ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 50.4 เห็นว่าการออกรางวัลอาจจะไม่โปร่งใส ร้อยละ 39.4 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 10.1 เห็นว่ายังโปร่งใสอยู่
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--
-พห-