เงินหมด! นักพนันบอลรับพนันเงินต่อคู่น้อยลง
ธุรกิจบัณฑิตย์โพล โดยศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สำรวจความคิดเห็นของชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกี่ยวกับการพนันฟุตบอลโลกในสัปดาห์ที่ 3 ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 โดยจำนวนตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้มีทั้งสิ้น 1,122 คน กระจายตาม อาชีพ อายุ และการศึกษา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2553 พบว่า
ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 30 ระบุว่าเคยเล่นพนันบอลซึ่งใกล้เคียงกับผลการสำรวจในครั้งแรกและครั้งที่สองที่ระบุว่ามีชาวกรุงเทพฯ เล่นพนันบอลถึงร้อยละ 31 โดยอายุของนักพนันบอลจะอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 18-29 ปีถึงร้อยละ 69 และเมื่อสอบถามว่าในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ท่านเล่นพนันบอลหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 34 ของผู้ที่เคยเล่นพนันบอลมาก่อน ระบุว่าเล่นพนันซึ่งลดลงกว่าการสำรวจครั้งที่ 1 และ 2 เพียงร้อยละ 1 โดยกลุ่มนักพนันบอลกลุ่มนี้ เป็นพนักงานเอกชนมากที่สุด (ร้อยละ 33) รองลงมานักเรียน/นักศึกษา (ร้อยละ 29) อย่างไรก็ดี ในการสำรวจครั้งนี้สัดส่วนของนักเรียน/นักศึกษาที่ระบุว่าเล่นพนันบอลเท่ากับการสำรวจในครั้งที่ 2
สำหรับการแทงพนันผ่านโต๊ะบอลยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดถึงร้อยละ 89 เมื่อสอบถามถึงผลการพนันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (26 มิ.ย.-3 ก.ค. 2553) พบว่า ใน 1 คนจะแทงพนันผ่านโต๊ะบอลด้วยวงเงินประมาณ 2,000 บาทต่อคู่ ซึ่งน้อยกว่าผลการสำรวจครั้งที่แล้วที่ระบุว่านักพนัน 1 คนจะแทงพนันบอลเฉลี่ยคู่ละ 3,800 บาท และครั้งที่ 1 ที่ระบุว่านักพนัน 1 คน จะแทงพนันบอลเฉลี่ยคู่ละ 3,500 บาท
เมื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา พบว่า ใน 1 คนจะแทงพนันบอลเฉลี่ยคู่ละ 1,800 — 2,700 บาท โดยจะแทงเฉลี่ยลดลงคู่ละ 600 บาท ซึ่งมีถึงร้อยละ 40 ที่อ้างว่าได้พนันฟุตบอลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีสัดส่วนลดลงถึงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว แต่เท่ากับสัปดาห์แรกของการสำรวจ
นอกจากนี้ เมื่อถามกลุ่มนักเล่นพนันบอลว่า “ถ้าหากมีร้านรับแทงพนันถูกกฎหมายในประเทศไทยแล้วจะยังแทงพนันกับโต๊ะบอลที่ผิดกฎหมายต่อไปอีกหรือไม่” ร้อยละ 84 ระบุว่าจะไม่แทงพนันกับโต๊ะบอลที่ผิดกฎหมายอีกต่อไป ซึ่งจะเพิ่มขึ้นกว่าอาทิตย์ที่แล้วร้อยละ 6
และเมื่อสอบถามชาวกรุงเทพฯ ที่ไม่เล่นพนันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ว่า “ถ้าหากมีร้านรับแทงพนันถูกกฎหมายในประเทศไทยท่านจะเล่นพนันฟุตบอลหรือไม่” พบว่าร้อยละ 11 ระบุว่าจะเล่น โดยคาดว่าใน 1 คนจะเล่นด้วยวงเงินประมาณ 5,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าสัปดาห์ที่แล้วถึง 3,000 บาท ในจำนวนนี้เป็นเป็นนักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 37 รองลงมาเป็นลูกจ้างเอกชนถึงร้อยละ 28
ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงฟอร์มการเล่น ร้อยละ 39 ของชาวกรุงเทพฯ ระบุว่าชอบฟอร์มการเล่มของทีมชาติเยอร์มันมากที่สุด รองลงมาคือทีมชาติอาเจนติน่า (ร้อยละ 15) และ ชอบทีมชาติสโลวาเกีย (ร้อยละ14) สำหรับทีมที่มีฟอร์มการเล่นได้ที่น่าผิดหวังมากที่สุด คือ ทีมชาติอังกฤษ (ร้อยละ 40) รองลงมา คือ ทีมชาติบราซิล (ร้อยละ 22) และทีมชาติอิตาลี (ร้อยละ 12) ตามลำดับ
--ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์--