EXIM BANK เดินหน้าปรับปรุงบทบาทการเป็น “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ดำเนินธุรกิจตาม พ.ร.บ. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และนักลงทุนไทยทั้งในและต่างประเทศ โดยอาศัยความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน ผู้แทนการค้า และสถาบันการเงินอื่นๆ
นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)แถลงนโยบายการดำเนินธุรกิจปี 2554 ว่า EXIM BANK จะทำหน้าที่ “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” โดยอาศัยความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ผู้แทนการค้าสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอื่นๆ และธนาคารพาณิชย์ โดย EXIM BANK จะดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประการ ประกอบด้วย1) สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการส่งออกและการนำเข้า 2) สินเชื่อโครงการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย และ 3) บริการประกันการส่งออก ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของ EXIM BANK ในการทำหน้าที่องค์กรรับประกันการส่งออก (Export Credit Agency)โดย EXIM BANK จะปรับปรุงการบริหารจัดการภายในเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าและขยายธุรกิจของธนาคารในอนาคต
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า จุดแข็งของ EXIM BANK คือ ความสามารถในการระดมทุนในต่างประเทศ ธนาคารจึงพร้อมเป็นเครื่องมือทางการเงินของรัฐในการทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการที่ขยายธุรกิจหรือขยายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศในโลกการค้าไร้พรมแดนปัจจุบัน ทั้งนี้ ASEAN จะกลายเป็นหนึ่งเดียวหรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ภายในปี 2558 EXIM BANK พร้อมสนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้กับธุรกิจต่างชาติที่จะเข้ามาทำการค้าและลงทุนในแถบนี้มากขึ้นเพื่ออาศัยประโยชน์จากความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2553--