ธรรมเนียมติดต่อธุรกิจ(เม็กซิโก)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 7, 2011 15:04 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

เม็กซิโกเป็นตลาดการค้าที่น่าสนใจในภูมิภาคลาตินอเมริกา เนื่องจากตลาดเม็กซิโกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ด้วยประชากรประมาณ 110 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง มีรายได้เฉลี่ย 9,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีหรือกว่า 2 เท่าของไทย อีกทั้งเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งส่งผลให้เม็กซิโกเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคลาตินอเมริกา รองจากบราซิล

เม็กซิโกเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนกับไทยมายาวนาน The Economist Intelligence Unit (EIU) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจและธุรกิจชั้นนำของโลก คาดว่าเศรษฐกิจเม็กซิโกจะขยายตัวเฉลี่ย 4% จนถึงปี 2555 โดยเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 3 ของไทยในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง รองจากสหรัฐฯ และแคนาดา อีกทั้งมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยมีสาเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลเม็กซิโกตั้งเป้าจะลงทุนในโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงดังกล่าวทำให้คาดว่าความต้องการนำเข้าสินค้าเพื่อใช้ในโครงการลงทุนและการบริโภคในประเทศจะขยายตัวตาม

ทั้งนี้เพื่อให้การเจรจาธุรกิจกับชาวเม็กซิกันเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จ ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาธรรมเนียมปฏิบัติที่สำคัญดังนี้

1. การแต่งกาย ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีควรแต่งกายด้วยชุดสุภาพตามสากลนิยม โดยสุภาพบุรุษควรสวมกางเกงขายาว เสื้อเชิ้ต ผูกเนกไท และสวมสูทสีเข้ม ควรหลีกเลี่ยงการสวมกางเกงที่ดูลำลองและตัดเย็บด้วยผ้าที่มีลักษณะคล้ายผ้ายีนส์ ขณะที่สุภาพสตรีควรสวมกระโปรงยาวคลุมเข่าและเสื้อแขนยาว จะสวมสูทหรือไม่ก็ได้ ควรระวังการสวมกระโปรงสั้นเหนือเข่าหรือเสื้อคอกว้างและเปิดไหล่ รองเท้ากึ่งลำลองที่ดูคล้ายรองเท้าแตะ เนื่องจากถือว่าไม่สุภาพ ทั้งนี้หากเป็นการพบปะสังสรรค์กันอย่างไม่เป็นทางการหรือในวันหยุด อาจเลือกสวมกางเกงยีนส์ซึ่งถือเป็นชุดลำลองได้ แต่ไม่ควรสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น

2. การเรียกชื่อและการทักทาย ชื่อของชาวเม็กซิกันประกอบด้วยชื่อตัว นามสกุลของบิดา และนามสกุลของมารดาตามลำดับ เช่น Tello Valencia Santos ทั้งนี้ ในการติดต่อธุรกิจกับชาวเม็กซิกันไม่ควรเรียกชื่อตัว เนื่องจากเป็นชื่อที่ใช้เรียกเฉพาะสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่ควรเรียกคู่เจรจาด้วยนามสกุลของบิดาซึ่งถือเป็นการให้เกียรติกัน ทั้งนี้หากคู่เจรจามีคำนำหน้าชื่อ อาทิ ดอกเตอร์หรือศาสตราจารย์ การเรียกชื่อควรขึ้นต้นด้วยคำนำหน้าชื่อและตามด้วยนามสกุลของบิดา

สำหรับการทักทายของชาวเม็กซิกัน หากเป็นผู้ชายด้วยกันจะทักทายด้วยการจับมือและสวมกอดกัน แต่หากเป็นการทักทายระหว่างผู้หญิงด้วยกัน เมื่อคุ้นเคยกันสักระยะหนึ่งแล้ว อาจมีการจูบที่แก้มข้างใดข้างหนึ่งโดยไม่ให้ริมฝีปากสัมผัสแก้ม (Air Kiss) นอกเหนือจากการจับมือและสวมกอดซึ่งเป็นการทักทายแบบปกติ ขณะที่บุรุษทักทายสุภาพสตรี ควรรอให้สุภาพสตรียื่นมือให้ก่อน จึงค่อยยื่นมือไปสัมผัสพร้อมทั้งขยับมือขึ้นลงเบาๆ เป็นการทักทาย

3. ภาษาที่ใช้ในการเจรจาธุรกิจ เม็กซิโกใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ ทำให้การติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ รวมถึงการติดต่อเจรจาธุรกิจ อาจต้องใช้ล่ามภาษาสเปน อย่างไรก็ตาม ข้าราชการระดับกลางและระดับสูง รวมถึงผู้บริหารของบริษัทเอกชน สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เนื่องจากส่วนใหญ่จบการศึกษาจากสหรัฐฯ

4. การนัดหมาย ควรตรวจสอบวันหยุดประจำปี รวมถึงช่วงเทศกาลต่างๆ ของเม็กซิโกก่อนทำการนัดหมาย ควรนัดหมายล่วงหน้าราว 2 สัปดาห์และยืนยันการนัดหมายก่อนถึงวันนัดหมาย 1 สัปดาห์ พร้อมทั้งแจ้งให้คู่เจรจาทราบเมื่อเดินทางมาถึงสถานที่นัดหมาย รวมทั้งควรมีบุคคลอ้างอิงหรือบุคคลที่ได้รับการยอมรับนับถือจากผู้ที่ต้องการนัดหมายเป็นผู้แนะนำให้ ซึ่งจะทำให้การนัดหมายและการเจรจาธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจกับชาวเม็กซิกันควรให้เวลาและความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรที่ดีเพื่อสร้างความไว้วางใจก่อนเริ่มเจรจาธุรกิจ

ชาวเม็กซิกันพักกลางวันค่อนข้างนานเนื่องจากมื้อกลางวันถือเป็นมื้ออาหารหลัก ผู้บริหารและพนักงานระดับสูงในบริษัทเอกชนอาจพักกลางวันานถึง 3 ชั่วโมง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการโทรศัพท์ติดต่อธุรกิจในช่วงเวลาดังกล่าว แต่การนัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจระหว่างมื้ออาหารเช้าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันเป็นปกติในเม็กซิโก ซึ่งสามารถนัดหมายได้ตั้งแต่เวลา 8.00-11.00 น. แต่ไม่ควรใช้เวลาเกิน 2 ชั่วโมง ขณะที่การนัดหมายเพื่อพูดคุยทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยระหว่างกันนิยมทำในช่วงมื้อกลางวัน ส่วนช่วงเวลาอาหารค่ำของชาวเม็กซิกันค่อนข้างดึกราว 21.00 น.

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องแปลกใจว่าชาวเม็กซิกันมักมาถึงสถานที่นัดหมายช้ากว่าเวลาที่นัดกันราว 15-20 นาที ขณะที่เมื่อได้รับเชิญไปบ้านของชาวเม็กซิกันเพื่อรับประทานอาหารเย็นหรือในกรณีที่นัดหมายกันเป็นกลุ่มใหญ่ สามารถไปถึงสถานที่นัดหมายช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ได้ราว 30 นาที ทั้งนี้ ช่วงเวลาทำการโดยทั่วไปในเม็กซิโกอยู่ระหว่าง 9.0-14.00 น. และ 16.00-18.00 น. โดยมีช่วงพักกลางวันอยู่ระหว่าง 14.00-16.00 น.

เวลาทำการของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในเม็กซิโก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
          หน่วยงาน                    วันทำการ            เวลาทำการ
          * ภาครัฐ                   วันจันทร์-ศุกร์          9.00 หรือ 10.00-18.00 น.

(พักกลางวันราว 1-2 ชั่วโมงในเวลา 14.00 น.)

          * ภาคเอกชน                วันจันทร์-ศุกร์          8.00-18.00 น.

(พักกลางวันราว 1-2 ชั่วโมงในเวลา 14.00 น.)

          * ธนาคารทั่วไป              วันจันทร์-ศุกร์          9.00-17.00 น.

          * สาขาของธนาคารขนาดใหญ่    วันจันทร์-ศุกร์          8.00-19.00 น.
            ในกรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวง  วันเสาร์              9.00-12.00 น.

ของเม็กซิโก +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

5. การเจรจาต่อรอง การเจรจาต่อรองกับชาวเม็กซิกันมักใช้เวลานาน จึงควรจัดทำเอกสารประกอบเป็นลายลักษณ์อักษร อาทิ จดหมาย บันทึก รายงาน หรือเอกสารอื่นๆ เพื่อเป็นหลักฐานว่าการเจรจาได้ข้อยุติอย่างไรและคู่เจรจามีความเห็นในประเด็นที่ได้พูดคุยกันอย่างไร ทั้งนี้ ความไว้วางใจและมิตรภาพระหว่างคู่เจรจาจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะมีส่วนช่วยให้การเจรจาต่อรองประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

6. การเลี้ยงสังสรรค์ ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับงานและสถานที่เนื่องจากชาวเม็กซิกันค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องการแต่งกาย สำหรับหัวข้อสนทนาสามารถพูดคุยถึงเรื่องครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยว เทศกาล และกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลและการต่อสู้วัวกระทิงซึ่งเป็นกีฬาที่ชาวเม็กซิกันชื่นชอบ จะช่วยสร้างความคุ้นเคยระหว่างกันได้รวดเร็วขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นทางศาสนา การเมือง สงคราม และผู้ลักลอบเข้าประเทศ เนื่องจากอาจเป็นการจุดชนวนความแตกแยกทางความคิดและก่อให้เกิดการโต้แย้งกันในที่สุด

7. การมอบของขวัญ ในการติดต่อธุรกิจกับชาวเม็กซิกัน แม้การมอบของขวัญไม่ใช่ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ก็เป็นการแสดงความปรารถนาดีต่อกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจให้แก่คู่เจรจาได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้หากได้รับคำเชิญจากชาวเม็กซิกันให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน สิ่งที่ควรนำไปมอบเป็นของขวัญ อาทิช่อดอกไม้ซึ่งเป็นของขวัญที่นิยมและชื่นชอบมากของชาวเม็กซิกัน ไวน์ รวมทั้งของฝากที่ขึ้นชื่อของประเทศผู้มาเยือน สิ่งที่ผู้ส่งออกไทยควรนำไปมอบเป็นของขวัญคือ ภาพลายไทย ถ้วยชาม งานไม้แกะสลัก หรือของตกแต่งบ้านอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมไทยที่สวยงามและมีคุณค่าทางจิตใจ ทำให้ชาวเม็กซิกันรู้สึกดีและเกิดความเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุปนิสัยของชาวเม็กซิกันมีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก การติดต่อธุรกิจกับชาวเม็กซิกันจึงอาจมีการผ่อนปรนได้บ้างขึ้นอยู่กับโอกาสและสถานการณ์แวดล้อมเป็นสำคัญด้วย

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ