นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ ธสน. ในช่วงครึ่งปีแรก 2555 ว่า ธสน. มีผลการดำเนินงานโดยรวมเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งในด้านการสนับสนุนบริการทางด้านการเงินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า การลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และด้านการสนองนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยในช่วงมกราคม-มิถุนายน 2555 ธสน. ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่รวมทั้งสิ้น 12,624 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนมียอดวงเงินอนุมัติสินเชื่อสะสมจำนวน 165,710 ล้านบาท และมียอดคงค้างเงินให้สินเชื่อที่ 65,166 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.5 และมีกำไรสุทธิสะสมจำนวน 510 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 69 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ทำให้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน มีสัดส่วน NPLs ต่อยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อที่ร้อยละ 4.75 ลดลงร้อยละ 0.35 จากสิ้นปีที่ผ่านมา ในขณะที่มีอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPLs ณ สิ้นเดือนมิถุนายนอยู่ที่ร้อยละ 104.07 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89.93 ณ สิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ด้านการสนับสนุนบริการทางด้านการเงินเพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ ธสน. มีวงเงินอนุมัติสะสมสำหรับบริการด้าน Trade Finance ณ สิ้นเดือนมิถุนายน จำนวน 94,685 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินให้ความสนับสนุนแก่ผู้ส่งออก SMEs จำนวน 40,211 ล้านบาท และมีปริมาณธุรกิจสะสมจากธุรกรรมการส่งออกและนำเข้าในช่วงมกราคม-มิถุนายนจำนวน 74,367 ล้านบาท นอกจากนี้ ธสน. ยังให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในด้านอื่นๆ เช่น จัดโครงการสัญจรอบรมให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในทุกภูมิภาค เพื่อให้เกิดความพร้อมมากขึ้นในธุรกิจส่งออก
ด้านการสนับสนุนการลงทุนและการพัฒนาประเทศ ธสน. ยังคงขยายบทบาทการสนับสนุนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งสินเชื่อระยะกลางและระยะยาว โดยมีวงเงินอนุมัติสินเชื่อสะสมจำนวน 71,025 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนโครงการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขยายกำลังการผลิต และสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงการนโยบายรัฐบาลตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง อาทิ โครงการมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจพาณิชยนาวี จำนวน 3,528 ล้านบาท และโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศเป้าหมาย จำนวน 4,116 ล้านบาท
ด้านบริการประกันการส่งออก ธสน. เป็นองค์กรรับประกันแห่งเดียวของประเทศที่ให้บริการประกันการส่งออก เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการในการทำการค้าระหว่างประเทศ โดย ธสน. ได้อนุมัติวงเงินสะสมสำหรับบริการประกันการส่งออกจำนวน 18,670 ล้านบาท และในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนมีมูลค่าส่งออกภายใต้การรับประกันจำนวน 72,761 ล้านบาท และจากภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ธสน. จึงเน้นการให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการถึงคุณลักษณะและประโยชน์ของบริการประกันการส่งออก เพื่อกระตุ้นให้ผู้ส่งออกใช้บริการประกันการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ส่งออก SMEs ธสน.จะพิจารณาลดค่าเบี้ยประกันและค่าประเมินความเสี่ยงของผู้ซื้อในต่างประเทศ
สำหรับภารกิจของ ธสน. ในเชิงนโยบาย นอกจากการให้ความสนับสนุนเพื่อเติมเต็มช่องว่างแก่ผู้ส่งออก SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นพร้อมกับการยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ไปสู่การเป็นผู้ส่งออกแล้ว ธสน.ยังพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการออกไปทำธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เพื่อสอดรับและเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อให้บริการด้านต่างๆ ของ ธสน. ครบวงจรและสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการไทยได้มากขึ้น
สำหรับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปในปัจจุบัน ธสน. มีมาตรการและบริการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการไทยจากปัญหาเศรษฐกิจยุโรปในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การพิจารณาผ่อนปรนดอกเบี้ยผิดนัด (Overdue Rate) กรณีผู้ส่งออกชำระหนี้ไม่ทันตามกำหนด การลดค่าธรรมเนียมเรียกเก็บและผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยรับซื้อเอกสารส่งออกเนื่องจากผู้ซื้อในต่างประเทศชำระหนี้ล่าช้า (Delayed Payment) บริการประกันการส่งออกเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า และบริการประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อในต่างประเทศเพื่อจะได้ทราบสถานะความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อในต่างประเทศ ตลอดจนสามารถเสนอเงื่อนไขการชำระเงินที่เหมาะสมให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศได้
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย--