ส่องสินค้าและธุรกิจที่น่าสนใจในฟิลิปปินส์

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 12, 2013 07:29 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

แม้ว่าปัจจุบันผู้ประกอบการไทยยังให้ความสนใจฟิลิปปินส์ไม่มากนัก แต่หากพิจารณาให้ลึกลงไปแล้วฟิลิปปินส์นับเป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งมีความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประเทศอื่นในอาเซียนด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปีในช่วงปี 2551-2555 ตลาดขนาดใหญ่ด้วยประชากรราว 104 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย (248 ล้านคน)แรงงานที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี และประชากรจำนวนมากสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีส่งผลให้ประชากรกลุ่มดังกล่าวมีโอกาสเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ และสร้างรายได้กลับเข้าประเทศกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทำให้กำลังซื้อของประชากรในประเทศเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ฟิลิปปินส์ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จึงเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องอาศัยทรัพยากรดังกล่าวเป็นวัตถุดิบ จากปัจจัยทั้งหมดข้างต้นผู้ประกอบการไทยจึงไม่ควรมองข้ามฟิลิปปินส์ซึ่งโอกาสทางธุรกิจยังเปิดกว้าง ทั้งในด้านการส่งออกสินค้าและการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ

สินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกไปฟิลิปปินส์
  • อะไหล่และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ในปี 2555 ไทยส่งออกสินค้าประเภทรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบไปฟิลิปปินส์รวมมูลค่า 997 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.5 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทยไปฟิลิปปินส์ โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนจากการที่ระบบขนส่งมวลชนยังกระจายไม่ทั่วถึงส่งผลให้ชาวฟิลิปปินส์มีความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ถนนในฟิลิปปินส์มีสภาพไม่ดีนักรถยนต์จึงต้องได้รับการซ่อมแซมอยู่เสมอ นอกจากนี้ อะไหล่รถยนต์ของไทยยังมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาดฟิลิปปินส์ จึงนับเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าว
  • ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และส่วนประกอบ การขยายตัวของอาคารที่พักอาศัย ร้านค้าปลีกประเภทต่างๆรวมทั้งร้านอาหาร ส่งผลให้ความต้องการสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำความเย็นสำหรับเก็บรักษาอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น ขณะที่สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของฟิลิปปินส์เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน แม้ว่าปัจจุบันชาวฟิลิปปินส์วัยหนุ่มสาวนิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น แต่ก็ยังต้องการตู้เย็นสำหรับแช่อาหารพร้อมรับประทาน เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ค่อนข้างเร่งรีบ และต้องการความสะดวกสบายควบคู่กันไป ทั้งนี้ในปี 2555 ไทยส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวไปฟิลิปปินส์มูลค่า 61.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.3 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทยไปฟิลิปปินส์ซึ่งยังน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรแสวงหาลู่ทางขยายการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้เพื่เจาะตลาดฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น
  • เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ประชากรส่วนใหญ่ของฟิลิปปินส์มีรายได้ระดับปานกลางจึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับระดับราคาและคุณภาพของสินค้า โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ทั้งนี้ ในปี 2555 ไทยส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวไปฟิลิปปินส์มูลค่า 161 ล้านดอลลาร์สหรัฐคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.3 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทยไปฟิลิปปินส์ ซึ่งนับว่ายังค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม
ปัจจุบันกระแสความนิยมเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสมุนไพรและน้ำหอมระเหยรวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ฟิลิปปินส์มีข้อจำกัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้มีความหลากหลายจึงเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายการส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวไปฟิลิปปินส์ โดยควรให้ความสำคัญกับการบรรจุหีบห่อ และติดฉลากภาษาอังกฤษบนผลิตภัณฑ์
  • สินค้าอาหาร ฟิลิปปินส์มีประชากรจำนวนมาก จึงมีความต้องการสินค้าอาหารอยู่ในระดับสูงอย่างไรก็ตาม ฟิลิปปินส์มีเทคโนโลยีการเกษตรที่ไม่ทันสมัยนัก ทำให้ไม่สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอกับความต้องการ จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศเป็นหลัก สินค้าอาหารสำคัญที่ฟิลิปปินส์นำเข้าอาทิ ข้าว ผลิตภัณฑ์นม อาหารปรุงแต่งสำเร็จรูป และผลไม้อบแห้ง นอกจากนี้ แม้ว่าฟิลิปปินส์ได้รับวัฒนธรรมด้านอาหารจากสเปน เนื่องจากเคยอยู่ภายใต้การปกครองของสเปนมานานกว่า 200 ปี แต่วัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารและเครื่องปรุงรสอาหารของฟิลิปปินส์คล้ายกับของไทย อาทิ ข้าว หมูกรอบ กะปิ น้ำปลาและมะขามเปียก จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปฟิลิปปินส์
ธุรกิจที่มีศักยภาพในการลงทุนในฟิลิปปินส์
  • ธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ เช่น ทองแดง โครเมียมและถ่านหิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง ขณะที่ฟิลิปปินส์ยังขาดแคลนเงินทุนและสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าวได้อย่างเต็มที่แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ เนื่องจากฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟ จึงมีสินแร่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน หยก และพลอย ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากฟิลิปปินส์ยังขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น อาทิ ถนน ท่าเรือ สะพานและระบบชลประทาน ซึ่งยังต้องก่อสร้างอีกมาก ขณะที่ผู้ประกอบการสามารถใช้วัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นวัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติในฟิลิปปินส์ได้ ไม่ว่าจะเป็น ทราย หินปูน และหินอ่อน ในการรับเหมาก่อสร้าง
  • ธุรกิจแปรรูปอาหาร มีปัจจัยเกื้อหนุนจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของประชากรชาวฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ U.S. Department of Commerce คาดว่าประชากรฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 113 ล้านคนในปี 2563ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอาหารแปรรูปมีแนวโน้มขยายตัวเช่นกัน นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังมีพืชผลทางการเกษตรและสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ แต่กระบวนการผลิตยังมีประสิทธิภาพไม่มากนัก ส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้า
สินค้าประเภทดังกล่าว จึงเป็นช่องทางที่น่าสนใจของนักลงทุนไทยในการเข้าไปเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค
  • ธุรกิจสปา กระแสรักสุขภาพและความงามที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันกิจการสปาในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น Day Spa (สปาที่ให้บริการระยะสัน้ ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ) Destination Spa (สปาที่มีกิจกรรมเพื่อสุขภาพครบวงจร อาทิ บริการอาหารเพื่อสุขภาพและฟิตเนส) Hotel/Resort Spa (สปาที่ตั้งอยู่ภายในหรือบริเวณเดียวกับโรงแรมและรีสอร์ต) Club Spa(สปาที่ให้บริการเฉพาะสมาชิก) และ Medical Spa (สปาที่จัดตั้งโดย พ.ร.บ. สถานพยาบาล โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยกำกับดูแล) สอดคล้องกับการที่ฟิลิปปินส์กำลังพัฒนาเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่ฟิลิปปินส์หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้าขณะที่ธุรกิจสปาเป็นธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพจากประสบการณ์และความชำนาญที่สั่งสมมาเป็นเวลานานส่งผลให้ธุรกิจสปาไทยมีชื่อเสียงและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ดังนั้น ธุรกิจสปาจึงนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้ประกอบการไทยจะส่งออกสินค้าหรือเข้าไปลงทุนในฟิลิปปินส์ ควรศึกษาข้อมูลด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดและรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบด้านการค้าการลงทุน ธรรมเนียมในการติดต่อธุรกิจ รวมทั้งควรเดินทางไปสำรวจตลาดเพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของชาวฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้าไทยได้รับการยอมรับในหมู่ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ การส่งออกสินค้าไทยไปฟิลิปปินส์จึงควรเน้นที่สินค้าคุณภาพดีในราคาไม่สูงนัก เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของประชากร ส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง (รายได้ต่อคนต่อปีอยู่ที่ราว 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ในส่วนของ การลงทุน ผู้ประกอบการควรเลือกลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมีสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่ค่อนข้างพร้อมรองรับการลงทุน และให้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ พร้อมทัง้ ควรขอรับคำปรึกษาจากหน่วยงานไทย ที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อให้การลงทุนในฟิลิปปินส์เป็นไปอย่างราบรื่น

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ