การจะเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว นอกจากผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งความต้องการของตลาด กฎระเบียบด้านการลงทุน หรือธรรมเนียมในการติดต่อธุรกิจ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักลงทุนควรศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ คือ ระบบภาษี [กฎหมายภาษีของ สปป.ลาว ฉบับล่าสุด คือ Amended Tax Law (No. 05/NA, 20 December 2011) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตัง้ แต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 และปรับปรุงจาก Tax Law (No. 04/NA, 19 May 2005)] เนื่องจากภาษีถือเป็นต้นทุนสำคัญอีกประการหนึ่งที่นักลงทุนต้องแบกรับในการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ภาษีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน สปป.ลาว มีดังนี้
- ภาษีกำไรหรือภาษีเงินได้นิติบุคคล (Profit Tax) สปป.ลาว เรียกเก็บภาษีกำไรจากบริษัทต่างชาติและบริษัทท้องถิ่นในอัตราเท่ากันที่ร้อยละ 24 ของกำไรสุทธิก่อนหักภาษี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ทัง้ นี้ ธุรกิจเกี่ยวกับการผลิต การนำเข้า และการจำหน่ายยาสูบต้องเสียภาษีกำไรในอัตราร้อยละ 26 ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ที่โดยปกติเสียภาษีกำไรในอัตราต่ำกว่าร้อยละ 24 สามารถเสียภาษีในอัตราเดิมได้ส่วนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว (Lao Securities Exchange : LSX) เสียภาษีกำไรลดลงร้อยละ 5 จากอัตราปกติเป็นระยะเวลา 4 ปี นับตั้ง แต่วันที่เข้าจดทะเบียนใน LSX
กำไรสุทธิก่อนหักภาษี (กีบ) อัตราภาษี (ร้อยละ) ไม่เกิน 3,600,000 0 3,600,001 - 8,000,000 5 8,000,001 — 15,000,000 10 15,000,001 — 25,000,000 15 25,000,001 — 40,000,000 20 40,000,001 ขึ้นไป 24 ที่มา : Tax Department, Ministry of Finance (Lao PDR)
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล สปป.ลาว จะได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีที่ระบุในกฎหมายส่งเสริมการลงทุนฉบับปี 2552 โดยแบ่งตามระดับความสำคัญของกิจการและเขตพื้นที่การลงทุน ดังนี้
ระดับความสำคัญของกิจการ แบ่งเป็น
ระดับ 1 กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสูงสุด อาทิ โรงแรม 4 ดาว และสถาบันการศึกษา
ระดับ 2 กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนปานกลาง อาทิ ธุรกิจผลิตรถจักรยานยนต์
ระดับ 3 กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนต่ำ อาทิ ธุรกิจผลิตเครื่องดื่ม และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
เขตพื้นที่การลงทุน แบ่งเป็น
เขตที่ 1 พื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร และขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน
เขตที่ 2 พื้นที่ที่มีสาธารณูปโภคพื้นฐานจำกัด
เขตที่ 3 เขตเมืองใหญ่ และมีสาธารณูปโภคพื้นฐานพร้อม
ระดับความสำคัญของกิจการ เขตที่ 1 เขตที่ 2 เขตที่ 3 ระดับ 1 ยกเว้นภาษีกำไร 10 ปี ยกเว้นภาษีกำไร 6 ปี ยกเว้นภาษีกำไร 4 ปี ระดับ 2 ยกเว้นภาษีกำไร 6 ปี ยกเว้นภาษีกำไร 4 ปี ยกเว้นภาษีกำไร 2 ปี ระดับ 3 ยกเว้นภาษีกำไร 4 ปี ยกเว้นภาษีกำไร 2 ปี ยกเว้นภาษีกำไร 1 ปี ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เวียงจันทน์
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ในการยกเว้นหรือลดหย่อนอัตราภาษีกำไรของทุกโครงการจะเริ่ม ณ วันแรกที่กิจการเริ่มดำเนินการ ยกเว้น กิจการผลิตสินค้าใหม่ กิจการค้นคว้า และสร้างเทคโนโลยีใหม่ จะเริ่มตั้งแต่วันที่โครงการมีผลกำไร และเมื่อระยะเวลารับสิทธิประโยชน์สิ้นสุดลง นักลงทุนจะต้องเสียภาษีกำไรในอัตราปกติตามที่กฎหมายกำหนด
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) ชาวลาวต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราก้าวหน้าตั้งแต่ร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 24 ของรายได้สุทธิก่อนหักภาษี ขณะที่ชาวต่างชาติที่ทำงานในสปป.ลาว เกินกว่า 180 วันในแต่ละปี และได้รับรายได้จากต่างประเทศ ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 10 ยกเว้นกรณีที่ได้รับการยกเว้นตามความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน อย่างไรก็ตามในอนาคตชาวต่างชาติที่ทำงานใน สปป.ลาว น้อยกว่า 180 วันต้องเสียภาษีในอัตราดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้รายละเอียดของอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของชาวลาว มีดังนี้
- รายได้ในรูปของเงินเดือน ค่าจ้าง และโบนัส ดังนี้
รายได้สุทธิ (กีบ) อัตราภาษี (ร้อยละ) ไม่เกิน 1,000,000 0 1,000,001 - 3,000,000 5 3,000,001 - 6,000,000 10 6,000,001 - 12,000,000 12 12,000,001 - 24,000,000 15 24,000,001 - 40,000,000 20 40,000,001 ขึ้นไป 24 ที่มา : Tax Department, Ministry of Finance (Lao PDR)
- รายได้อื่นๆ อาทิ
ประเภทของรายได้ อัตราภาษี (ร้อยละ) รายได้จากเงินปนั ผล รายได้จากการขายหุ้น (อาจได้รับยกเว้นหากมี 10 ความตกลงระหว่างรัฐบาล สปป.ลาว กับบริษัทที่เกี่ยวข้อง) รายได้จากอสังหาริมทรัพย์ เช่น ค่าเช่าบ้าน 10 รายได้จากการขายสิทธิในการถือครองที่ดิน 5 รายได้จากทรัพย์สินทางปญั ญาและสิทธิบัตร 5 ที่มา : Tax Department, Ministry of Finance (Lao PDR)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax : VAT) เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากการขายสินค้าตั้งแต่การขายส่งจากโรงงานจนถึงผู้ค้าปลีกในอัตราเดียวที่ร้อยละ 10 โดยมีผลบังคับใช้แทนภาษีการค้า (Business Turnover Tax : BTT) ทัง้ นี้ กิจการที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 400 ล้านกีบอยู่ภายใต้ระบบภาษีดังกล่าว
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ การนำเข้าสินค้าทุกประเภทต้องเสียค่าธรรมเนียมการนำเข้า (Administrative Fee on Imports) ร้อยละ 5 ของมูลค่านำเข้าที่แจ้งต่อกรมศุลกากร ส่วนโครงการลงทุนในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การลงทุนสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ ต้องจ่ายค่าภาคหลวง (Royalty Fee) เป็นร้อยละของรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า
- การปรับปรุงกฎหมายภาษีและกฎหมายส่งเสริมการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาสอดรับกับนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาล สปป.ลาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะบรรลุอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี และยังเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา สปป.ลาว สู่การเป็นประเทศเป้าหมายหลักเพื่อการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม) อันจะนำไปสู่การหลุดพ้นจากประเทศที่มีระดับการพัฒนาน้อยที่สุด (Least Developed Countries : LDCs) ในอนาคต
Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤศจิกายน 2556--