ในช่วงเวลาที่การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ขยับใกล้เข้ามา ผู้ประกอบการหลายรายต่างมองหาช่องทางที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้กันมากขึ้น ฟิลิปปินส์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอุดมสมบูรณ์ ของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจต่างๆ ที่ต้องอาศัยทรัพยากรดังกล่าวเป็นวัตถุดิบ อาทิ เหมืองแร่ การค้าวัสดุก่อสร้าง และรับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งมีตลาดรองรับขนาดใหญ่ด้วยประชากรราว 100 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย (ราว 250 ล้านคน) ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่ดีของชาวฟิลิปปินส์ ยังช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้ประกอบการต่างชาติและลูกจ้างท้องถิ่นเป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันฟิลิปปินส์ยังมีปัญหาด้านความไม่พร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลงทุนในฟิลิปปินส์จึงควรพิจารณาถึงโอกาสการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษควบคู่ไปด้วย เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานใน พื้นที่ดังกล่าวมีความพร้อมมากกว่าพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งยังมีสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจหลายประการ
เขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Philippine Economic Zone Authority (PEZA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย Special Economic Zone Act of 1995 ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ฟิลิปปินส์มีเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 396 แห่ง ซึ่งรวมที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้างกระจายอยู่ทั่วประเทศ (ส่วนใหญ่อยู่บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นที่ตั้งของ กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์) นักลงทุนจึงมีทางเลือกค่อนข้างมากในการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจที่ตนมีศักยภาพในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เหมาะกับโครงการลงทุนมากที่สุด
เทคโนโลยีสารสนเทศ 187 69 อุตสาหกรรม 65 25 อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป 18 6 ท่องเที่ยว 17 7 ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ 2 0 รวม 289 107 หมายเหตุ : ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ที่มา : PEZA
เป็นที่น่าสังเกตว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศมีสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 64.6 ของจำนวนเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมดของฟิลิปปินส์ เนื่องจากธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นธุรกิจที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ให้การสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง อาทิ กิจการรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ (Business Process Outsourcing : BPO) ถือเป็นธุรกิจดาวเด่นของฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะธุรกิจ Call Center ซึ่งมีอัตราการขยายตัวของรายได้เฉลี่ยราวร้อยละ 15 ต่อปี จากการที่บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย นิยมว่าจ้างศูนย์ Call Centerในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น โดยอาศัยข้อได้เปรียบด้านความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษของชาวฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของธุรกิจ BPO ยังส่งผลให้การก่อสร้าง อาคารสำนักงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปดำเนิน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และขยายตลาดสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างและเครื่องจักรขณะที่เขตเศรษฐกิจพิเศษประเภทอุตสาหกรรมมีจำนวนรองลงมา คิดเป็นร้อยละ 22.7 โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญมาก ประกอบกับแรงงานฟิลิปปินส์มีความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างดี จึงถือเป็นโอกาสในการขยายการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษอีก 3 ประเภท คือ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ท่องเที่ยว และท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ก็ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวพร้อมรองรับธุรกิจที่นักลงทุนไทยมีความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ต้องการของตลาดฟิลิปปินส์ อาทิ ธุรกิจเกษตรแปรรูป (เช่น ธุรกิจผลิตผักผลไม้แปรรูป อาหารทะเลกระปอง ขนมปังกรอบ และนมพร้อมดื่ม) การท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (เช่น ธุรกิจโรงพยาบาลและ ธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ) เพื่อตอบรับกระแสใส่ใจสุขภาพและความงามในฟิลิปปินส์ที่เพิ่มขึ้นมาก
นอกจากความสะดวกสบายจากโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครันแล้ว นักลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียม รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกด้วย อาทิ
ประเภทธุรกิจ สิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียม สิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ ธุรกิจผลิตสินค้าเพื่อส่งออก/ - ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประเภทของ สำหรับทุกธุรกิจ ธุรกิจด้านเทคโนโลยี โครงการ ดังนี้ - ได้รับการอำนวย สารสนเทศ - โครงการนำร่อง : 6 ปี ความสะดวกในขั้นตอน - โครงการที่ไม่ใช่โครงการนำร่อง : 4 ปี การนำเข้า-ส่งออก - โครงการลงทุนเพื่อขยายงาน : 3 ปี - สามารถจ้างชาวต่างชาติ ภายหลังจากช่วงเวลาที่ได้รับการยกเว้นภาษี จะ มาทำงานในฟิลิปปินส์ใน เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของรายได้ ตำแหน่ง Supevis
- ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ เครื่องจักรและชิ้นส่วนต่างๆ Techicia และ Avis
- ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเรือ และภาษี/ - นักลงทุน/พนักงาน ค่าธรรมเนียมในการส่งออก ต่างชาติ รวมทั้งคู่สมรส - ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Ae Tax : VAT) และบุตรธิดา (อายุไม่เกิน
สำหรับการซื้อสินค้าท้องถิ่น(ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของ PEZA) 21 ปี) จะได้รับวีซ่าพิเศษ
- ยกเว้นภาษี/ค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต/ ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทาง ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้รัฐบาลท้องถิ่น เข้า-ออกฟิลิปปินส์ได้ (ไม่ครอบคลุมถึงภาษีที่ดินและโรงเรือน หากอยู่ใน หลายครั้ง
ช่วงเวลาที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ฯ)
- ยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ธุรกิจท่องเที่ยว/ธุรกิจ - ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 4 ปี ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ภายหลังจากช่วงเวลาที่ได้รับการยกเว้นภาษี จะ
เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของรายได้
- ยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องมือ/อุปกรณ์ที่ใช้ในกิจการ
- ยกเว้นภาษี VAT สำหรับการซื้อสินค้าและ
บริการท้องถิ่นรวมถึงโทรคมนาคม กระแสไฟฟา และน้ำประปา
- ยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภายหลังจากช่วงเวลาที่ได้รับการยกเว้นภาษี จะ
เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของรายได้
- ยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์และเครื่องจักร
พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร
- ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเรือ ภาษีและ
ค่าธรรมเนียมในการส่งออก
- ยกเว้นภาษี VAT สำหรับการซื้อสินค้าและบริการท้องถิ่น
รวมถึงโทรคมนาคม กระแสไฟฟา และน้ำประปา
- ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้รัฐบาลท้องถิ่น
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ไทย), PEZA
ผู้ที่สนใจลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.peza.v.ph และยื่นคำร้องไปยัง PEZA พร้อมค่าสมัคร 3,600 เปโซ (ราว 2,600 บาท) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างดี และศึกษาข้อมูลด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน ทั้งกฎระเบียบด้านการลงทุน ธรรมเนียมในการติดต่อธุรกิจในฟิลิปปินส์ และวิธีการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น อาทิ ปญหาทางการเมือง และภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งมักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมทั้งควรขอรับคำปรึกษาจากหน่วยงานไทยที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อให้การลงทุนในฟิลิปปินส์เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2557--