"เก็บตกจากต่างแดนฉบับนี้" จึงรวบรวมลักษณะเด่นและพฤติกรรมที่น่าสนใจของผู้บริโภคชาวบราซิล รวมถึงตัวอย่างสินค้าไทยที่มีโอกาสส่งออกไปบราซิล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่สนใจจะส่งออกไปบราซิล มีรายละเอียด ที่น่าสนใจ ดังนี้
- ชาวบราซิลราว 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดอาศัยใน 5 เมืองสำคัญ โดยเฉพาะ Sao Paulo (ศูนย์กลางธุรกิจและการเงินของบราซิล) Rio de Janeiro (เมืองท่องเที่ยวสำคัญ) และ Brasilia (เมืองหลวงของบราซิล) ซึ่งชาวบราซิลที่อาศัย ในเมืองสำคัญดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง มีทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลาย รวมทั้งเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น จึงมักเลือกซื้ออาหารอินทรีย์ (Organic Food) และอาหารที่มีไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน (Light or Fat-free Food)นอกจากนี้ การที่ชาวบราซิลทั้งชายและหญิงใส่ใจ ในการรักษาบุคลิกภาพของตนและชื่นชอบการดูแลรูปลักษณ์ให้ดูดีอยู่เสมอ ทำให้ตลาดสินค้าเครื่องสำอาง อาทิ ครีมบำรุงผิว ครีมลบเลือนริ้วรอย ครีมกันแดด และน้ำหอมระงับกลิ่นกาย มีโอกาสขยายตัวอีกมาก
- ชาวบราซิลนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะอาหารมื้อกลางวัน ซึ่งชาวบราซิลถือว่าเป็นอาหารมื้อสำคัญ โดยนิยมออกไปรับประทานนอกบ้าน ตามร้านอาหารหรือภัตตาคารกับเพื่อนร่วมงานหรือครอบครัว ทั้งนี้ ชาวบราซิล ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่รับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยครั้งกว่าชาวบราซิล ที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ และชนบทห่างไกลถึง 2 เท่า ร้านอาหารที่ชาวบราซิลนิยมมาก คือ ร้านอาหารแบบบริการตนเอง ซึ่งให้ลูกค้าตักอาหารและนำไป ชั่งน้ำหนักเพื่อคิดราคา สำหรับร้านอาหารต่างชาติ อาทิ ร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารเกาหลีได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวบราซิล ขณะที่ร้านอาหารไทยยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากมีจำนวนสาขาน้อย อย่างไรก็ตาม ความนิยมอาหารไทยเริ่มมีทิศทางดีขึ้น สังเกตได้จากร้านอาหารที่มีชาวเอเชียเป็นเจ้าของ หลายร้านนิยมนำรายการอาหารไทยเสริมไว้ในรายการอาหารหลัก โดยอาหารไทยที่ได้รับความนิยม คือ แกงเขียวหวานไก่ และต้มข่าไก่
- การโฆษณาและขายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์เป็นช่องทางการตลาดที่ทรงอิทธิพล Euromonitor เปิดเผยว่าปัจจุบันชาวบราซิลราว 80 ล้านคน หรือราวร้อยละ 40 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน อีกทั้งมีแนวโน้ม หันมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น โดยคาดว่ายอดจำหน่ายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 ของมูลค่าจำหน่ายสินค้าทั้งหมดในปี 2559 เทียบกับปี 2555 ที่มียอดดังกล่าวอยู่ที่ร้อยละ 5 ทั้งนี้ สินค้าที่ชาวบราซิลนิยมซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต อาทิ โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ หนังสือ และแผ่น CD เพลงหรือภาพยนตร์ เว็บไซต์ที่ชาวบราซิลนิยมใช้หาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า อาทิ www.Mercadolivre.com.br, www.Submarino.com.br และ www.Buscape.com.br
- ชาวบราซิลนิยมเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยเฉพาะ Walmart, Carrefour, Extra และ P?o de A??car เพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคหลายประเภท หลากหลายตราสินค้าให้เลือก การเปรียบเทียบราคาและคุณภาพทำได้ง่าย อีกทั้งมีสาขาจำนวนมากทำให้สะดวกในการซื้อ ดังนั้น การหาลู่ทางวางจำหน่ายสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคชาวบราซิลได้อย่าง มีประสิทธิภาพ
- ชาวบราซิลนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าจำนวนมากในช่วงเทศกาลสำคัญ อาทิ งานคาร์นิวัล (Carnival) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลองสำคัญประจำปี โดยนิยมใช้เวลาร่วมฉลองกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท รวมถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพราะเป็นช่วงที่ชาวบราซิลมีกำลังซื้อสูงสุด ในรอบปี หลังได้รับเงินโบนัสประจำปีและเป็นช่วงที่ชาวบราซิลนิยมหยุดพักผ่อนเพื่อใช้เวลาว่างอยู่กับครอบครัวหรือเดินทางท่องเที่ยว ดังนั้น การโฆษณาสินค้าและวางจำหน่ายสินค้าใหม่ในช่วงดังกล่าว จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้าให้เพิ่มขึ้นได้
สินค้าอาหาร สินค้าเกษตรและอาหารส่งออกของไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับสินค้าอาหารของไทยที่มีโอกาสขยายตลาดบราซิล มีดังนี้
- ข้าว ชาวบราซิลมีวัฒนธรรมการบริโภคข้าว สังเกตได้จากอาหารจานหลักของชาวบราซิลนิยมรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ โดยเฉพาะ Arroz com Feij?o ที่ประกอบด้วยข้าวกับซุปถั่วข้นๆ และเนื้อสัตว์ และ Feijoada คือสตูถั่วกับเนื้อสัตว์หรือไส้กรอกรับประทานคู่กับข้าว นอกจากนี้ การขยายตัวของร้านอาหารเอเชียในย่านธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของบราซิล ซึ่งมีการนำรายการอาหารไทยมาไว้บริการลูกค้า ยังช่วยสร้างโอกาสในการส่งออก ข้าวหอมมะลิของไทยที่มีรสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเพิ่มขึ้นด้วย
- อาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งและอาหารทะเลกระป๋องแปรรูป โดยเฉพาะทูน่าและปลาซาร์ดีนบรรจุกระป๋องทั้งแบบในน้ำมันพืช ซอสมะเขือเทศและน้ำมันมะกอก ซึ่งสามารถนำมาดัดแปลงทำอาหารได้หลากหลาย ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคชาวบราซิลที่เน้นอาหารราคาประหยัดและต้องการความสะดวกรวดเร็วในการปรุง
- วัตถุดิบและเครื่องปรุงรส โดยเฉพาะเส้นก๋วยเตี๋ยว สำหรับใช้ทำผัดไทยล้วนเป็นสินค้าที่ร้านอาหารมีแนวโน้มต้องการเพิ่มขึ้น เพราะเป็นวัตถุดิบสำคัญรวมถึงน้ำปลา น้ำพริกเผา กะปิ ซอสหอยนางรม น้ำกะทิบรรจุกระป๋อง น้ำจิ้มไก่ ที่จำเป็นต่อการปรุงอาหารไทยซึ่งมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ผงปรุงรสสำเร็จรูป เป็นสินค้าที่มีโอกาสขยายตัวเช่นกัน สำหรับผู้บริโภคชาวบราซิลที่ต้องการปรุงอาหารไทยรับประทานเองที่บ้าน
- น้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำมังคุด น้ำสับปะรด น้ำมะพร้าวและผลไม้กระป๋อง โดยเฉพาะเงาะ ลิ้นจี่ และลำไยบรรจุกระป๋อง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ไม่สามารถปลูกได้ในบราซิลหรือบางชนิดปลูกได้แต่มีรสชาติและคุณภาพด้อยกว่าของไทย
- อัญมณีและเครื่องประดับ Euromonitor ประเมินว่าตลาดอัญมณีและเครื่องประดับของบราซิลมีมูลค่าราว 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2556 และคาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวได้อีก ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวบราซิลที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสในการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยซึ่งมีชื่อเสียง ด้านคุณภาพและราคาสมเหตุผล โดยเฉพาะเครื่องประดับทอง 18 ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มสุภาพสตรีที่มีอายุระหว่าง 25-44 ปี ซึ่งอยู่ในวัยทำงานและ เริ่มประสบความสำเร็จในสายอาชีพ จึงนิยมเลือกซื้อทั้งแหวน สร้อยคอ และต่างหูทองคำประดับเพชรหรือพลอยที่มีสีสันสดใส สำหรับสวมใส่เข้ากับชุดทำงานเพื่อเสริมบุคลิกภาพ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นที่มีกำลังซื้อไม่มากนักนิยมเลือกซื้อ เครื่องประดับเงิน และเครื่องประดับเทียม ที่ออกแบบตามสมัยนิยมและสอดแทรกลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่งดงามของบราซิล หรือวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวอินเดียแดงเข้าไว้ในตัวเรือน ดังนั้น ผู้ประกอบการที่สนใจเจาะตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในบราซิล ควรรู้จักกับรสนิยมเฉพาะดังกล่าว เพื่อใช้ออกแบบสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
งานแสดงสินค้าที่สำคัญในบราซิล ในปี 2558 มีงานแสดงสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยควรหาโอกาสเยี่ยมชมหรือนำสินค้าเข้าร่วมงาน ซึ่งนอกจาก จะมีส่วนช่วยสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ จากการพบปะคู่ค้าและผู้บริโภคชาวบราซิลโดยตรงแล้ว ยังใช้เป็นโอกาสสำรวจทิศทางและแนวโน้มตลาดสินค้าส่งออก ไปพร้อมๆ กันด้วย อาทิ งาน FENINJER ซึ่งเป็นงานแสดงอัญมณีและเครื่องประดับใหญ่ที่สุดของบราซิล จัดขึ้นที่ Sao Paulo ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2558 และงาน SIAL Brazil 2015 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่สำคัญของบราซิลและภูมิภาคลาตินอเมริกา จัดขึ้นที่เมือง Sao Paulo ระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน 2558
แม้บราซิลเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการค้า แต่ผู้ส่งออกไทยที่สนใจเจาะตลาดบราซิลควรระลึกเสมอว่าการทำการค้ากับบราซิล ยังมีข้อจำกัดบางประการ อาทิ อุปสรรคด้านภาษา เนื่องจากชาวบราซิลใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการและเจรจาธุรกิจ ผู้ส่งออกไทยจึงควรหาล่ามในการเจรจาติดต่อธุรกิจกับชาวบราซิลด้วยเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจ ไม่ตรงกัน นอกจากนี้ ผู้ส่งออกสินค้าที่มีน้ำหนักมากและสินค้าที่มีกำไรค่อนข้างต่ำ ควรพิจารณาเรื่อง ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากระยะทางไกลกันมาก อีกทั้งผู้ประกอบการไทยควรศึกษากฎระเบียบการค้าการลงทุน ที่เกี่ยวข้องให้เข้าใจก่อนตัดสินใจบุกตลาดบราซิล
Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2558--