หลายประเด็นที่มีการอภิปรายและนำเสนอในการประชุม G20 Summit ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล้วนมีความสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น “Four Prescriptions” ของประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีน หรือ 4 ปัจจัยที่จำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ได้แก่ ความคิดริเริ่ม (Innovative) ความมีพลัง (Invigorated) การติดต่อเชื่อมโยง (Interconnected) และการมีส่วนร่วม (Inclusive) นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการจัดตั้งระบบ Electronic World Trade Platform (e-WTP) ซึ่ง Jack Ma ผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจ e-Commerce ของจีน ได้นำเสนอต่อที่ประชุม Business 20 Summit (B20) ซึ่งเป็นการประชุมของผู้นำในภาคธุรกิจก่อนหน้าการประชุม G20 Summit ประเด็นดังกล่าวมีการกล่าวถึงเป็นวงกว้างและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากที่ประชุมในฐานะกลไกที่จะพลิกโฉมการทำธุรกิจของ SMEs ในเวทีการค้าโลกในอนาคต
แนวคิดที่นำไปสู่การจัดตั้ง e-WTP
สำหรับแนวคิดในการจัดตั้ง e-WTP มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการผลักดันให้เกิดการค้าในรูปแบบ e-Commerce และอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจ SMEs เข้าสู่ตลาดการค้าโลก เนื่องจากในระยะข้างหน้าภาคธุรกิจต้องเตรียมตัวเข้าสู่ยุคการดำเนินธุรกิจแบบดิจิทัล กล่าวคือ มีการนำเทคโนโลยีการซื้อขายรูปแบบใหม่มาใช้ การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตและการใช้ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่มีความสามารถในการปรับตัวเพื่อตอบรับกระแสดังกล่าวได้ดีกว่าผู้ประกอบการ SMEs ขณะที่ e-WTP จะเป็นระบบที่เข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถซื้อขายสินค้าได้สะดวกและรวดเร็ว เพิ่มอำนาจต่อรองให้สูงขึ้น และสร้างโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ในอีกด้านหนึ่ง e-WTP จะเป็นกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งนำโดยภาคธุรกิจและขับเคลื่อนด้วยธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทางการค้าอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-border E-Commerce) รวมทั้งการกำหนดกฎระเบียบที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการด้านภาษี และระเบียบพิธีการศุลกากร ซึ่งจะเป็นมาตรฐานสำคัญเพื่อให้เกิดการค้าที่มีความโปร่งใสและยุติธรรม
ความสำเร็จของโครงการ Cross-border E-Commerce Comprehensive Pilot Area จะมีส่วนผลักดันให้การจัดตั้ง e-WTP เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับที่ประเด็นดังกล่าวถูกบรรจุอยู่ในรายงานนโยบายประจำปีของการประชุม B20 Summit ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่ข้อเสนอจากภาคธุรกิจได้ถูกบรรจุอยู่ในรายงานดังกล่าวเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม G20 Summit ทั้งนี้ การดำเนินการจัดตั้ง e-WTP ให้ประสบผลสำเร็จนั้นต้องได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศเหล่านั้นได้รับประโยชน์จากการขยายการค้าผ่านช่องทาง Cross-border E-Commerce ไปทั่วโลก โดย e-WTP จะมีส่วนช่วยสนับสนุนเทคโนโลยีด้านการชำระเงินและโลจิสติกส์เป็นสำคัญ อันจะเป็นการพลิกโฉมการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญในเวทีการค้าโลก สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ไทยควรเร่งปรับตัวให้สอดรับกับกระแสเทคโนโลยีการค้าขายรูปแบบใหม่ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขยายตลาดการค้าไปต่างประเทศทันทีที่ e-WTP เริ่มใช้งานอย่างสมบูรณ์
Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ ไม่ว่าโดยทางใด
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนตุลาคม 2559--