EXIM E-NEWS ฉบับนี้เราจะพาไปรู้จักกับธุรกิจเครื่องหอมที่ผสมผสานความเป็นไทยและการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยโดยได้รับเกียรติจากคุณกมลนาถ เตชะพุทธพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุ๊ปส์สตัฟฟ์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องหอมภายใต้แบรนด์ “Breathe” มาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจและประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมานานกว่า 1
จุดเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจ
บริษัท อุ๊ปส์สตัฟฟ์ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี 2543 เริ่มต้นจากความชอบของตัวเองที่สนใจผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม ก่อนเริ่มทำธุรกิจนี้ได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องหอมอยู่ประมาณ 2 ปี เรียนรู้ประเภทของกลิ่น ศาสตร์ของกลิ่น บวกกับที่ตนเองจบการศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์ จึงคิดว่าถ้าอยากมีธุรกิจเป็นของตนเองจะต้องเริ่มจากสิ่งเราชอบและความสามารถที่มีอยู่ จึงนำศาสตร์ทั้ง 2 แขนงนี้มาผสมผสานกัน ระหว่างศาสตร์ของกลิ่นกับศาสตร์ด้านศิลปะ จนคิดค้นออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหอม ซึ่งมีทั้งน้ำหอมปรับอากาศ ก้านดอกไม้หอม เจล และตุ๊กตาน้ำหอมปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์ “Breathe” ส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยแต่ละประเทศจะมีความต้องการแตกต่างกันไปตามกระแสความนิยมของคนในประเทศนั้น เช่น คนญี่ปุ่นชอบเครื่องหอมที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ในขณะที่กลุ่มประเทศตะวันออกกลางชอบเครื่องหอมที่มีกลิ่นหอมมากๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยลักษณะของเครื่องหอมที่มีคุณภาพดีควรจะมีระดับความระเหยของกลิ่นครบทั้ง 3 ระดับ คือ Top Notes, Middle Notes และ Base Notes
การทำธุรกิจของ “อุ๊ปส์สตัฟฟ์” มุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยประเภท Fragrance Oil ที่มีค่าความบริสุทธิ์ของแอลกอฮอล์สูงถึง 99% ซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถรับประทานได้ ดังนั้น ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าไปสามารถมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “Breathe” ปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ โดยได้รับเอกสารรับรองข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี MSDS (Material Safety Data Sheet)
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
กลิ่นและดีไซน์ถือเป็นจุดเด่นของ “Breathe” เนื่องจากเราใช้น้ำหอมที่มีคุณภาพ กลิ่นที่ผู้บริโภคสูดดมเข้าไปจะไม่แรงจนทำให้รู้สึกเวียนหัว เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลาย ส่วนการออกแบบผลิตภัณฑ์จะเน้นดีไซน์เพราะนอกจากจะเป็นผลิตภัณท์เครื่องหอมแล้วยังสามารถนำไปใช้ประดับตกแต่งบ้านได้ด้วย โดยมีความทันสมัยและนำความเป็นธรรมชาติมาผสมผสาน
อุปสรรคและความท้าทายในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ
อุปสรรคและความท้าทายในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะภายในประเทศหรือระหว่างประเทศสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อเราตั้งใจเข้ามาทำธุรกิจนี้ก็ต้องพร้อมรับมือกับอุปสรรคที่จะเข้ามา แต่ถ้าตัวเราและบุคลากรในบริษัทมีความพร้อม สนุกไปกับงาน ก็จะสามารถรับมือกับทุกปัญหาได้ ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ในธุรกิจเครื่องหอมคู่แข่งทางการค้าไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว เพราะแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กุญแจสู่ความสำเร็จในวันนี้
คำว่า “ความสำเร็จ” ให้คำจำกัดความค่อนข้างยาก ถ้ามองในมุมของรายได้หรือความพอใจในอาชีพ ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ แต่ถ้ามองในมุมของคนทำธุรกิจยังคงไม่ประสบความสำเร็จ เพราะยังต้องการต่อยอดธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เราจึงต้องกำหนดเป้าหมายเพื่อให้เราได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง เมื่อทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จไปอีกระดับหนึ่ง และแสดงให้เห็นว่า เรายังไม่หยุดพัฒนา
ฝากถึงผู้ประกอบการและผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
ขอให้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบให้เจอ มองหาความสามารถที่มีและลงมือทำ การทำธุรกิจในปัจจุบันแตกต่างจากยุคก่อน ปัจจุบันนี้ใช้แค่ความขยันทำธุรกิจอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องพยายามฝึกฝนและสร้างตัวเองให้เก่งจนเชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆ มองความต้องการของลูกค้าเป็นเป้าหมาย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างดีที่สุด
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนมีนาคม 2561