อินเดียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่อันดับ 7 ของโลก แบ่งเป็น 29 รัฐ (States) และ 7 ดินแดนสหภาพ (Union Territory) อีกทั้งมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงมีความหลากหลายทั้งภูมิประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรม ดังนั้น การเข้าใจ Location จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจในอินเดีย บทความฉบับนี้จึงคัดเลือก 7 รัฐใหญ่ที่สุดของอินเดีย (วัดตาม GDP) มาวิเคราะห์ใน 5 มิติสำคัญ ได้แก่ Market Size, Purchasing Power, FDI Attractiveness, Ease of Doing Business, Infrastructure Readiness เพื่อสะท้อนโอกาสทางธุรกิจในแต่ละรัฐ
“State Highlights”
Financial Hub of India
มีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจอินเดียมากที่สุด
เมืองหลวง : มุมไบ
ประชากร : 112 ล้านคน
GDP per Capita : 3,189 USD
มีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน โดยเมืองปูเน่เป็น Hub ยานยนต์ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ และมี MNCs เข้าไปตั้งฐานการผลิต จึงเป็นโอกาสส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อเชื่อมโยง Supply Chain นอกจากนี้ ด้วยตลาดขนาดใหญ่และกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะเมืองมุมไบ จึงเป็นโอกาสส่งออกสินค้าเจาะตลาดกลุ่ม Middle Class
Manufacturing Hub of India
เมืองหลวง : เจนไน
ประชากร : 72 ล้านคน
GDP per Capita : 2,876 USD
เหมาะกับการเข้าไปลงทุนในหลายอุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอ อาหารแปรรูป ยานยนต์ และ IT สะท้อนจากบริษัทต่างชาติส่วนใหญ่เลือกรัฐนี้เป็นพื้นที่แรกในการเข้าไปลงทุน ปัจจุบันมี SEZs 40 แห่งมากที่สุดในประเทศ ประกอบกับมีแรงงานทักษะ โดยเฉพาะวิศวกรมากที่สุดในประเทศ
IT Hub of India
มี Technology Cluster ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
เมืองหลวง : เบงกาลูรู
ประชากร : 61 ล้านคน
GDP per Capita : 3,258 USD
ปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจมีความพร้อมทุกด้าน เอื้อทั้งการเข้าไปลงทุนและส่งออกสินค้า ซึ่งสามารถทำตลาดสินค้าราคาแพงได้ เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวดีและประชากรมีกำลังซื้อสูง แม้ตลาดจะค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับ 7 รัฐใหญ่ (แต่ประชากรเกือบเท่าไทยทั้งประเทศ)
ตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
เมืองหลวง : ลัคนาว
ประชากร : 199 ล้านคน
GDP per Capita : 953 USD
แม้เป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศแต่กำลังซื้อไม่สูง อีกทั้งยังเป็นรัฐที่ไม่ติดทะเล ทำให้ต้นทุนขนส่งสินค้าค่อนข้างสูงและใช้เวลาขนส่งนาน ดังนั้น อาจไม่ใช่พื้นที่ลำดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการไทยจะเลือกเข้าไปเจาะตลาดหรือทำธุรกิจ
New Engine of Growth
เมืองหลวง : คานธีนาการ์
ประชากร : 60 ล้านคน
GDP per Capita : 2,654 USD
เป็นรัฐที่เติบโตเร็ว โดยมีเมืองเศรษฐกิจสำคัญอย่าง Ahmedabad เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม จึงมีความพร้อมด้านคลัสเตอร์โครงสร้างพื้นฐาน และกฎระเบียบที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกันมีท่าเรือขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เมื่อผนวกกับแรงงานทักษะจำนวนมาก สะท้อนโอกาสในการเข้าไปตั้งฐานการผลิต โดยเฉพาะเพื่อการส่งออก
แหล่งเพาะปลูกสินค้าเกษตรหลักของอินเดีย
เมืองหลวง : กัลกัตตา
ประชากร : 91 ล้านคน
GDP per Capita : 1,681 USD
เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ไทยที่สุดแต่กำลังซื้อไม่สูง จึงอาจต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่แข่งขันได้ในการเจาะตลาด โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค ขณะเดียวกันมีโอกาสส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตร สอดรับกับการเติบโตของภาคเกษตรกรรม
อยู่ใจกลางของ DMIC*
เมืองหลวง : จัยปูร์
ประชากร : 69 ล้านคน
GDP per Capita : 1,676 USD
รัฐมีนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เทคโนโลยีชีวภาพ และเกษตรแปรรูป อย่างไรก็ตามความพร้อมของอุตสาหกรรมสนับสนุนยังมีข้อจำกัด จึงอาจเป็นอุปสรรคในการเข้าไปลงทุน เป็นที่น่าสังเกตว่า Rajasthan อยู่ในเส้นทาง DMIC สะท้อนความต้องการวัสดุก่อสร้างและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการขยายตัวของสังคมเมือง
รัฐที่มีศักยภาพลำดับต้นๆ ของอินเดียส่วนใหญ่อยู่บริเวณฝั่งตะวันตกและตอนใต้ของประเทศ ซึ่งแต่ละรัฐมีความโดดเด่นและมีปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจที่แตกต่างกัน อาทิ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน คลัสเตอร์อุตสาหกรรม กฎระเบียบ และขนาดตลาด เป็นต้น ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรมองอินเดียในลักษณะ 1 รัฐ เท่ากับ 1 ประเทศ เพื่อศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละรัฐก่อนจะรุกเข้าไปทำธุรกิจ
Disclaimer : ข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนกรกฎาคม 2562