Share โลกเศรษฐกิจ: ถอดรหัส 5 ข้อคิด...การลงทุนของไทยในต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 7, 2020 13:55 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

ท่ามกลางแรงกดดันต่อค่าเงินบาทในปัจจุบัน หลายหน่วยงานได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสร้างสมดุลของเงินทุนเคลื่อนย้ายและดุลการชำระเงินของประเทศไว้หลายวิธี โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาการลงทุนของไทยในต่างประเทศมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง และจะทวีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้นในฐานะเครื่องยนต์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศในระยะถัดไป โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

1. เครื่องยนต์ใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (New Growth Engine) ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตจากภาคส่งออกและการลงทุนในประเทศเป็นหลัก แต่ระยะหลังเครื่องยนต์ดังกล่าวเผชิญกับข้อจำกัดและความท้าทายรอบด้านจนเริ่มแผ่วกำลังลง จึงจำเป็นต้องหาแรงขับเคลื่อนใหม่มาเสริมทัพ หนึ่งในนั้นคือการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเดินหน้าและก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง(Middle Income Trap) บรรลุตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เช่นเดียวกับโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจของหลายประเทศที่ใช้การลงทุนในต่างประเทศเป็นเครื่องยนต์เสริมควบคู่กับเครื่องยนต์อื่น ๆ ในการยกระดับสู่ประเทศรายได้สูง เช่น เกาหลีใต้ส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศจนติด 1 ใน 10 ประเทศที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศสูงสุดของโลกและก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงตั้งแต่ปี 2536 มาเลเซียออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจนแซงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศตั้งแต่ปี 2550 และมีส่วนช่วยให้รายได้ประชาชาติต่อหัวขยายตัวก้าวกระโดด จนธนาคารโลกคาดว่ามาเลเซียจะเลื่อนชั้นเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2564

2. ขุมทรัพย์แห่งใหม่ (New Source of Income) ปัจจุบันตลาดในประเทศเริ่มชะลอตัวจากข้อจำกัดหลายด้าน ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มออกไปแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปี 2561 พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนฯ ถึง 231 บริษัทที่ไปลงทุนในต่างประเทศแล้ว คิดเป็น 40% ของบริษัทจดทะเบียนฯทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น รายได้จากตลาดต่างประเทศของกลุ่มบริษัทดังกล่าวเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี แซงหน้ารายได้จากตลาดในประเทศที่โตราว 9% ต่อปี (ปี 2559-2561) เช่นเดียวกับสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศต่อรายได้รวมก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 29% ในปี 2559 เป็น 31% ในปี 2561 จะเห็นได้ว่าตลาดต่างประเทศกำลังก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่สร้างความเติบโตและความมั่งคั่งแก่ธุรกิจไทย ในระยะถัดไป

3. สปริงบอร์ดใหม่สู่นวัตกรรมและตลาด (New Springboard for Innovation & Market) ธนาคารโลกชี้ว่า การลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการเข้าซื้อกิจการ เป็นอีกหนึ่งสปริงบอร์ดหรือช่องทางลัดที่ช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่จากบริษัทที่เข้าไปลงทุนได้อย่างรวดเร็ว เพื่อต่อยอดสู่การยกระดับธุรกิจและขยายตลาด เช่น กรณีบริษัท Lenovo ของจีนซื้อกิจการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ IBM ในปี 2548 เพื่อนำเทคโนโลยีของ IBM มาพัฒนาและต่อยอดจน Lenovo ก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำของตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโลกในปัจจุบัน

4. ทางด่วนสายใหม่ยกระดับ SMEs (New Highway to Upgrade SMEs) ปัจจุบันธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ออกไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อสร้างฐานการผลิตและกระจายความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพเล็งเห็นโอกาสและเริ่มออกไปลงทุน ทั้งลงทุนเองและเข้าไปเชื่อมโยงในรูปแบบ Supply Chain กับรายใหญ่ที่ลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ หากสามารถส่งเสริมและเพิ่มจำนวน SMEs ให้ออกไปต่างประเทศมากขึ้น จะเป็นอีกหนึ่งกลไกขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและยกระดับสู่กิจการขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น ตลอดจนช่วยเสริมรากฐานและเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เช่นเกาหลีใต้ส่งเสริม SMEs ให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศอย่างจริงจัง จนปัจจุบัน SMEs มีสัดส่วนราว 50% ของการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด

5. เครื่องมือใหม่เสริมเสถียรภาพ (New Tool for Economic Stability) ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเผชิญสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง ดังนั้น การลงทุนในต่างประเทศจึงมีส่วนสร้างสมดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดและลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท ดังเช่นบางประเทศที่แม้เกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง แต่ค่าเงินกลับไม่ได้แข็งค่า เช่น ไต้หวันที่ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP เกินดุลถึง 11% ในปี 2562 แต่จากการที่ไต้หวันออกไปลงทุนในต่างประเทศสูงกว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเกือบ 4 เท่า (ไทยอยู่ที่ 2.5 เท่า) เมื่อเสริมเข้ากับปัจจัยอื่น ๆ จึงมีส่วนช่วยให้เงินดอลลาร์ไต้หวันเฉลี่ยทั้งปีอ่อนค่าลง 2.4%

การลงทุนในต่างประเทศนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการขยายธุรกิจของผู้ประกอบการไทย รวมถึงเป็นเครื่องยนต์ในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้สูงขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนในต่างประเทศอย่างยั่งยืนควรให้ความสำคัญและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายรายได้แก่ชุมชนในพื้นที่ที่เข้าไปลงทุน เพื่อร่วมกันเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด

ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนมีนาคม 2563


แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ