ใครจะคาดคิดว่าการทดลองเลี้ยงผึ้งเพียงไม่กี่รังเมื่อหลายสิบปีก่อนจะพลิกชีวิตของคู่สามีภรรยาข้าราชการครูให้เกิดการเรียนรู้วิธีสร้างผลผลิตจากรังผึ้ง จนกลายเป็นอาณาจักรฟาร์มผึ้ง ?สุภาฟาร์มผึ้ง? ที่ส่งต่อกิจการให้กับทายาทได้ตราบถึงวันนี้
คุณสุวรัตนา ยาวิเลิศ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกิจการรุ่นที่ 2 ของบริษัท สุภาฟาร์มผึ้ง จำกัด บอกเล่าประสบการณ์การดำเนินธุรกิจที่เริ่มต้นจากการเลี้ยงผึ้งเป็นอาชีพเสริมของคุณพ่อคุณแม่ จนสามารถขยายกิจการผลิตน้ำผึ้งแบรนด์ ?สุภาฟาร์มผึ้ง? ขายภายในประเทศและส่งออกจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งยังมีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน เปิดฟาร์มผึ้งเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตรอนุรักษ์สำหรับผู้มีอาชีพเลี้ยงผึ้งและผู้สนใจทั่วไปอีกด้วย
สุภาฟาร์มผึ้งก่อตั้งในปี 2528 โดยคุณพ่อ-คุณแม่ คือ คุณสมบูรณ์-คุณสุภา ยาวิเลิศ เราเริ่มต้นจากการเรียนรู้วิธีเลี้ยงผึ้งกับชาวไต้หวันที่มาเช่าบ้านทำฟาร์มเลี้ยงผึ้งใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เราทดลองเลี้ยงเองเพียง 10 รังในปีแรก เมื่อเห็นว่าผึ้งเลี้ยงง่าย ผลผลิตที่ได้เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ให้คุณประโยชน์ด้านโภชนาการและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงจึงค่อย ๆ ขยายกิจการนำน้ำผึ้งไปออกบูทในงานต่าง ๆ จนมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และเริ่มต้นส่งออกในปี 2548 โดยเริ่มจากการทำเว็บไซต์จนมี Trader จากต่างประเทศติดต่อเข้ามามากขึ้น
ปัจจุบันเรามีผึ้งเลี้ยงเองกว่า 1,700 รัง สร้างผลผลิตป้อนตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินค้าของเราได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์ม GAP (Good Agricultural Practice) จากกรมปศุสัตว์ มาตรฐานการผลิตอาหาร GMP (Good Manufacturing Practice) และ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) รวมถึงมาตรฐานอาหารฮาลาล ตลาดหลัก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยผลิตภัณฑ์หลักที่ส่งออก 90% คือ น้ำผึ้ง จากดอกลำไย ดอกลิ้นจี่ และดอกไม้ป่า รวมถึงรวงรังผึ้ง ที่นำไปใช้ทำขนมได้หลากหลายเมนู นอกจากนี้เรายังต่อยอดแปรรูปน้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ สบู่ก้อน สบู่เหลว เครื่องสำอางจากนมผึ้ง เครื่องดื่มผสมน้ำผึ้ง เป็นต้น บริษัทมียอดขายประมาณ 72 ล้านบาทต่อปี มีมูลค่าส่งออกช่วงก่อนเกิด COVID-19 ประมาณ 2 ล้านบาทต่อปี
นอกจากการรักษาคุณภาพสินค้าและพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง สุภาฟาร์มผึ้งมีแนวคิดดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน โดยทำฟาร์มเปิดเพื่อเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนองค์ความรู้สำหรับผู้มีอาชีพเลี้ยงผึ้ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอนุรักษ์พร้อมให้ความรู้เรื่องผึ้งแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจ และยังเคยเป็นที่ศึกษาดูงานจากสมาชิกกว่า 70 ประเทศในการประชุมผึ้งโลก (Bee World Expo 2000) ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2543
น้ำผึ้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความหวานตามธรรมชาติ ให้พลังงาน คุณประโยชน์สูง ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพ จึงมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก น้ำผึ้งชนิดต่าง ๆ มีความหอมและความหวานแตกต่างกันตามพันธุ์ดอกไม้ของแต่ละประเทศ ผู้บริโภคหลายประเทศยังไม่รู้จัก
น้ำผึ้งไทย บริษัทจึงมองเห็นโอกาสขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วยความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอสินค้าของบริษัทที่ผ่านการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ทั้งด้านคุณภาพของฟาร์มและผลผลิตที่ได้ อีกทั้งการที่มีฟาร์มเลี้ยงผึ้งเป็นของตนเองทำให้เราสามารถจำหน่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสมได้
ปัจจัยที่ต้องติดตามและจับตามองคือ อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเงินบาทแข็งค่า ทำให้ลูกค้าของเราในบางประเทศอาจชะลอการนำเข้าสินค้า ขณะที่คู่แข่ง เช่น จีน ผลิตน้ำผึ้งได้เองและขายในประเทศในราคาที่ค่อนข้างต่ำมาก จึงอาจเป็นจุดเปรียบเทียบสำหรับลูกค้าที่เน้นด้านราคา อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าจีนบางกลุ่มที่เชื่อมั่นในคุณภาพของน้ำผึ้งแท้ที่นำเข้ามากกว่าที่ผลิตในประเทศ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาการระบาดของโรค COVID-19 ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่บริษัทต้องปรับตัวอย่างมาก
การระบาดของโรค COVID-19 ทำให้มีมาตรการ Lockdown ในหลายประเทศ การส่งออกจึงได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลัก บริษัทจึงปรับกลยุทธ์โดยเพิ่มยอดขายในประเทศด้วยการหาลูกค้าโดยรับจ้างผลิตในลักษณะ Original Equipment Manufacturer (OEM) ส่งน้ำผึ้งโดยตรงให้แก่ลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร พร้อมทำการตลาดออนไลน์เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทั้งทาง Facebook และ YouTube ขณะเดียวกันก็ใช้เป็นช่องทางช่วยประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าที่ใช้น้ำผึ้งของเราด้วย นอกจากนี้บริษัทได้มองหาลูกค้าในตลาดใหม่เพิ่มเติม เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และตลาดในแอฟริกา
ด้านการบริหารจัดการภายใน บริษัทมีการปรับแผนการทำงาน เช่น ลดการทำงานของสาขาที่สนามบิน พนักงานหนึ่งคนต้องสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลาย และตั้งเป้าเพิ่มการแปรรูปสินค้าให้มากขึ้น เช่น ขนมขบเคี้ยวประเภท Energy Bar ขยายตลาดสู่กลุ่มคนรักสุขภาพและคนวัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น ซึ่งบริษัทจะค่อย ๆ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ให้คู่ค้าของเราในต่างประเทศได้รู้จักต่อไป
เราเรียนรู้และผลิตสินค้าให้ดี มีคุณภาพ จนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าได้อย่างยาวนานทั้งในและต่างประเทศ ไม่หยุดพัฒนาแปรรูปสินค้า ต่อยอดไปสู่สิ่งใหม่ ๆ และใช้ความเชี่ยวชาญในการเลี้ยงผึ้ง สร้าง ?สุภาฟาร์มผึ้ง? ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ ต้อนรับทุกคนที่สนใจเข้ามาศึกษาเรื่องผึ้ง ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้เรายังมี Supply จากชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งภาคเหนือ ซึ่งมารวมกลุ่มกันโดยเริ่มจากการที่เราช่วยหาตลาดให้สมาชิกในกลุ่ม ปัจจุบันมีสมาชิก 56 ฟาร์ม มีผึ้งรวมกว่า 10,000 รัง ได้รับการรับรอง GAP เช่นกัน ลูกค้าจึงมั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานเดียวกัน
ในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอคำสั่งซื้อจากลูกค้าในตลาดส่งออก ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 บริษัทได้รับการสนับสนุนด้านมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง และสินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้ และยังได้รับการแนะนำคู่ค้าทางธุรกิจจาก EXIM BANK ด้วย
การไม่หยุดเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็น แม้เราจะก้าวขึ้นมาเป็นฟาร์มผึ้งคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสินค้าคุณภาพดี มีราคาที่สมเหตุสมผล และอยู่ในเทรนด์สุขภาพที่มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่สุภาฟาร์มผึ้งก็ยังต้องพัฒนาสินค้าและปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้ทันโลก
?ต้องมีความรู้และประสบการณ์ทั้งในและนอกตำรา เรามี Passion รักและตั้งใจในสิ่งที่ทำ ไม่ได้หวังยอดขายเพียงแค่วันนี้ แต่ต้องอยู่ต่อไปได้นานอย่างยั่งยืน ไม่มีธุรกิจใดที่ไม่มีคู่แข่ง แต่เราต้องดูว่าเรามีจุดแข็งอย่างไร จะสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าอย่างไร ทุกวันนี้ผู้ประกอบการต้องเพิ่มนวัตกรรมให้สินค้าเกษตร สร้างมูลค่า พัฒนาสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ ทดลองต่อยอดไปเรื่อย ๆ เพื่อให้แบรนด์ก้าวไปสู่ความยั่งยืน? คุณสุวรัตนากล่าว
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนมีนาคม 2564