ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายธุรกิจมีการเติบโตในแบบที่เราคุ้นชิน กล่าวคือ เริ่มจากธุรกิจเล็ก ๆ แล้วค่อยขยายกิจการจนประสบความสำเร็จในระดับประเทศ และเติบโตสู่การเป็นธุรกิจระดับโลก ซึ่งเรียกการเติบโตของธุรกิจลักษณะนี้ว่า Organic Growth หรือ การเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ยังมีการสร้างการเติบโตของธุรกิจอีกแบบหนึ่งที่ใช้เวลาสั้นกว่า เรียกว่า Inorganic Growth เกิดจากการควบรวมหรือการซื้อกิจการ (Merger & Acquisition : M&A) ซึ่งเป็นทางลัดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจอย่างก้าวกระโดด โดยอาศัยปัจจัยแห่งความสำเร็จหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความมั่นคงของเงินทุน ความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง ซึ่ง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) องค์กรระดับโลกสัญชาติไทย ภายใต้การนำของ คุณชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการบริษัท ที่ลงทุนในธุรกิจด้านการผลิตและการให้บริการภาคอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตในลักษณะนี้ คล้ายกับความสำเร็จของ Berkshire Hathaway (BRK) ของ Warren Buffett มหาเศรษฐีนักลงทุนอันดับ 1 ของโลก กระทั่งได้รับสมญานามว่าเป็น ?Berkshire Hathaway (BRK) แห่งเอเชีย?
บริษัทของเราทำธุรกิจหลายอย่าง หลัก ๆ แล้วเป็นการเข้าซื้อกิจการด้านพลังงานทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งธุรกิจผลิตสายไฟ โดยมีบริษัทย่อย คือ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด มีโรงงานผลิตหลักอยู่ในไทย 3 แห่ง ในเวียดนาม 1 แห่ง และล่าสุดเข้าซื้อกิจการของ LEONI Kabel GmbH (LEONI Kabel) ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศเยอรมนี และ LEONIsche Holding Inc (LEONIsche) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตและจำหน่ายสายเคเบิลสำหรับรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และสำหรับสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีโรงงานอยู่ 10 แห่งใน 7 ประเทศทั่วโลก ทำให้เราเป็นบริษัทผลิตสายไฟในรถยนต์ขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก
ในการขยายธุรกิจหรือไปซื้อกิจการอื่น Size และการเข้าถึง Supply Chain รวมไปถึงการเข้าถึงลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญมาก การขยายธุรกิจไปต่างประเทศมีความจำเป็นต้องบริหารความเสี่ยงการลงทุนให้มีความหลากหลาย เราจะมองเพียงประเทศเพื่อนบ้านไม่พอแล้ว ยุทธศาสตร์ของเราจึงมุ่งเป้าขยายการลงทุนให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก
ผมรู้จัก EXIM BANK มาหลายปีระหว่างที่เดินทางไปประเทศแถบแอฟริกาในนามกระทรวงการต่างประเทศในฐานะของตัวแทนนักลงทุนไทย ผมเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์อยู่ด้วย จึงมีโอกาสพบกับผู้บริหาร EXIM BANK ทำให้เข้าใจในบทบาทและวิธีการทำงานของ EXIM BANK ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยผู้ประกอบการทุกขนาด ทั้งธุรกิจเล็ก กลาง ใหญ่ ในการพาธุรกิจออกเดินทางไปค้าขายในต่างประเทศ ธุรกิจส่วนใหญ่มักจะติดขัดในเรื่องความเข้าใจ เงินตราต่างประเทศ กระแสเงินทุนหมุนเวียน รวมไปถึงความรู้ต่าง ๆ ในการลงทุน ซึ่ง EXIM BANK สามารถเข้ามาช่วยสนับสนุนในเรื่องเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีมาก และผมก็มองเห็นโอกาสที่จะให้ EXIM BANK มาสนับสนุนธุรกิจของเราด้วย จนกระทั่งล่าสุด EXIM BANK ได้เข้ามาสนับสนุนการซื้อกิจการของ LEONI โครงการขนาดใหญ่ทั้งของเราและของ EXIM BANK มูลค่าการลงทุน 560 ล้านยูโร EXIM BANK ให้คำแนะนำด้วยความเข้าใจในธุรกิจของเรา รวมถึงอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับวงเงินต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และที่สำคัญคือ รวดเร็ว ทันเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยความสำเร็จของการเข้าไปสู้แข่งราคาในการซื้อกิจการ ต้องขอบคุณ EXIM BANK ในการสนับสนุนครั้งนี้
สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกรุ่นใหม่ ผมมีคำแนะนำว่าต้องกล้า อย่ากลัว อย่ากังวลในสิ่งที่เรามองไม่เห็น ยิ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ยิ่งต้องรู้ว่าโอกาสและทางเลือกมีอยู่ทั่วโลก แต่เมื่อเราเดินออกไปนอกบ้านหรือออกไปตลาดต่างประเทศ ความเสี่ยงต้องมีอยู่แล้ว เราต้องอาศัยผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ ซึ่ง EXIM BANK แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าช่วยเราได้เยอะมาก ทั้งให้คำปรึกษาแนะนำ ช่วยลดความกังวล ทำให้มีความมั่นใจและประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจในตลาดโลกอย่างมั่นคง
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนมิถุนายน 2565