ปี 2566 เป็นปีของกระต่ายที่กระโดดได้ไม่ไกลนัก ด้วยอุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นระยะ อาทิ GDP ปี 2566 ขยายตัว ?ต่ำกว่า? ที่คาด เครื่องยนต์เศรษฐกิจทำงานเต็มที่ได้ ?ไม่กี่ตัว? ที่เห็นชัด คือ การบริโภคยังขยายตัว สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 13 เดือนติดต่อกัน อัตราว่างงานต่ำราว 1% ขณะที่การท่องเที่ยวฟื้น แต่ยังไม่เต็มที่ ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยยังต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนยังฟื้นตัวช้า สะท้อนได้จากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยหดตัว 13 เดือนติดต่อกัน อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ต่ำกว่าระดับ 50% เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่ การส่งออกซึ่งมีสัดส่วนใน GDP ราว 60% หดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังภาคการส่งออกได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว ทำให้คาดการณ์ว่า มูลค่าส่งออกทั้งปี 2566 จะหดตัว 1-2% เทียบกับปี 2565 ที่ขยายตัว 5.7% และปี 2564 ขยายตัว 17.4%
เศรษฐกิจปี 2567 ยังรอลุ้นจะเป็นมังกรผงาดเต็มตัว โดย GDP ปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ล่าสุดหลายฝ่ายคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 จะขยายตัวราว 3.2% อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามบริบทแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลทั้งด้านบวกหนุนให้ GDP ขยายตัวมากกว่าที่คาด หรืออาจส่งผลในด้านลบ ทำให้ GDP ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ในเบื้องต้น มีสัญญาณว่า เครื่องยนต์เศรษฐกิจจะกลับมาทำงาน ?พร้อมกันทุกตัว? การบริโภคขยายต่อเนื่อง สะท้อนได้จากตลาดแรงงานฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคบริการ และได้แรงหนุนสำคัญจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ มาตรการกระตุ้นการบริโภคและบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐ การท่องเที่ยวขยับเข้าใกล้ก่อนโควิด-19 หลายฝ่ายคาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทยในปี 2567 จะมีจำนวนราว 35 ล้านคน หรือคิดเป็น 90% เทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 การลงทุนฟื้นตัวดีขึ้น โดยการส่งออกที่ฟื้นตัวจะเป็นตัวเร่งสำคัญให้มีการลงทุนผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่นกับที่หลายฝ่ายคาดหวังต่างชาติย้ายฐานการผลิตมาไทยภายหลังรัฐบาลเดินสาย Road Show และอานิสงส์จากปัญหา Geopolitics ที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดการย้ายฐานการผลิตบางส่วนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ล่าสุดในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนมีมูลค่ากว่า 5.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การส่งออกที่จะกลับมาขยายตัว และเป็น Engine of Growth อีกครั้ง จะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกำลังซื้อและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางปัญหา Supply Chain กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยสินค้าและบริการของไทยที่มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่ม ได้แก่ สินค้าเกษตรและอาหาร ธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว สินค้าเทคโนโลยีและดิจิทัล และสินค้ารักษ์โลก
EXIM BANK ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการไทย ลูกค้า และทุกท่านประสบแต่สิ่งดี ๆ พบกับ ?โอกาส? และ ?ความสำเร็จ? ตลอดปีและตลอดไป สวัสดีปีใหม่ครับ
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนธันวาคม 2566