ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนตื่นตัวในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน ทำให้ธุรกิจสุขภาพ (Wellness Business) เติบโตได้ดีทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการดูแลป้องกันและรักษาสุขภาพ ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ฯลฯ รวมไปถึงอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผู้บริโภคตื่นตัวกับการรับประทานอาหารให้เป็นยา เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา แต่ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าอาหารเพื่อสุขภาพ ?ไม่อร่อย? คุณศิริลักษณ์ ด่านทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท ตั้งมั่นมาก จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มธัญพืชชนิดผง 3 in 1 Plant-based ในนามแบรนด์ PANA ได้ทลายความเชื่อนี้ เพราะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสามารถทำให้อร่อยและมีประโยชน์กับร่างกายได้
คุณศิริลักษณ์เปิดเผยถึงที่มาของการผลิตเครื่องดื่มธัญญพืช (Plant-based) ว่า มีความตั้งใจอยากจะทำธุรกิจ โดยพื้นฐานครอบครัวให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากช่วงที่เป็นวัยรุ่นมักจะไม่สบายบ่อย จึงเริ่มปรับวิธีการรับประทานอาหารโดยลดบริโภคเนื้อสัตว์ รับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด ศึกษาหาข้อมูลเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพมาเรื่อย ๆ จนพบว่าอาหารบางอย่างไม่ควรรับประทาน จึงให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่จะนำมาประกอบอาหาร ต้องสด สะอาด ไม่มีการปนเปื้อนหรือตกค้างของสารเคมี ผลจากการใส่ใจเรื่องอาหารทำให้ไม่ป่วยบ่อย รู้สึกแข็งแรงขึ้น แถมยังประหยัดเงินที่จะต้องไปจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลอีกด้วย
?เป็นคนชื่นชอบการดื่มกาแฟ ชอบกลิ่นกาแฟ และดื่มกาแฟดำเป็นประจำ แต่ก็มีบางครั้งที่ยังอยากได้รสหวานมัน แต่ก็ไม่อยากได้น้ำตาลและไขมันจากครีมเทียม จึงอยากสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมา และเชื่อมั่นว่าต้องมีกลุ่มคนที่รักสุขภาพอีกจำนวนไม่น้อยต้องการของอร่อยที่ดีต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน จึงปรึกษาเพื่อนที่ทำโรงงานผลิตอาหารให้ช่วยคิดว่าจะหาอะไรเป็นวัตถุดิบที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลและให้ความมันแทนครีมเทียม และยังต้องอร่อย รสชาติไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม? คุณศิริลักษณ์กล่าว
หลังจากพยายามอยู่หลายสูตร ในที่สุดก็สามารถค้นหาวัตถุดิบทดแทนความหวานและมีความมันจากธรรมชาติคือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวโพด มะพร้าว และถั่วเหลือง โดยนำวัตถุดิบทั้งหมดมาบดละเอียดให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่ใช้ระบบสเปรย์ดราย ซึ่งสามารถใช้ทดแทนครีมเทียมกับน้ำตาลได้และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อได้วัตถุดิบที่สามารถแทนครีมเทียมและน้ำตาลแล้ว ก็ตัดสินใจผลิตเครื่องดื่มชนิดผง 3 in 1 Plant-based 3 รสชาติ คือ ชาไทย กาแฟ และช็อกโกแลต
คุณศิริลักษณ์กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้คำนึงถึงหลัก 3 อย่างคือ ?Easy, Tasty and Healthy? คือผลิตภัณฑ์ต้องพกพาง่าย สะดวกต่อการบริโภค สินค้าของ PANA จึงสามารถชงดื่มได้ทั้งในน้ำร้อนและน้ำเย็น ละลายง่าย มีรสชาติดี อร่อย มีความหวานมัน และมีประโยชน์ต่อร่างกายเพราะผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับคนแพ้นมวัว คนรับประทานมังสวิรัติหรือ วีแกน และผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่พึ่งอินซูลิน
หลังจากพัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้สูตรคงที่แล้ว คุณศิริลักษณ์กล่าวว่า ในช่วงแรกได้นำผลิตภัณฑ์ไปให้คนในครอบครัวและเพื่อนฝูงทดลองดื่ม ได้รับการตอบรับดีมาก จนมั่นใจที่จะนำออกจำหน่าย โดยเลือกใช้ช่องทางสื่อสารการตลาดทางออนไลน์ เพื่อจะได้เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ แต่การขายสินค้าออนไลน์ก็ยังมีจุดอ่อนเพราะแม้ลูกค้าจะได้รับข้อมูลแล้วแต่ไม่ได้รับรู้รสชาติ การทำให้ลูกค้าเปิดใจว่าอาหารสุขภาพมีรสชาติอร่อยก็ทำได้ สิ่งที่ลูกค้าสอบถามเป็นอย่างแรกคือ ข้อมูลโภชนาการ ส่วนผสม และวัตถุดิบที่นำมาใช้ ดังนั้นลูกค้าต้องได้ชิมได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงถึงจะเป็นการทำการตลาดอย่างยั่งยืน จึงเริ่มไปออกบูทตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ เมื่อสินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นลูกค้าที่ติดใจจะสั่งซื้อซ้ำ
?สำหรับตลาดในประเทศเครื่องดื่ม 3 in 1 Plant-based ของ PANA สามารถหาซื้อได้บนแพลตฟอร์มออนไลน์และในซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำ ส่วนการขยายไปตลาดต่างประเทศ ได้นำสินค้าไปออกงาน Thaifex ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่างประเทศ ปัจจุบันแบรนด์ PANA มี 3 รสชาติ ได้แก่ ชาไทย ช็อกโกแลต และกาแฟ และในอนาคตจะพัฒนารสชาติอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น ? คุณศิริลักษณ์กล่าว
คุณศิริลักษณ์เล่าว่า ได้มีโอกาสเข้าร่วมคอร์สอบรมสัมมนาที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าของ EXIM BANK จัดขึ้น ได้รับความรู้เรื่องการทำธุรกิจ และได้ทราบว่า EXIM BANK ยินดีที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่มีสินค้าและพร้อมที่จะส่งออก จึงขอเข้ารับคำปรึกษาในเรื่องการทำเอกสารให้ได้มาตรฐาน การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออก และการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศให้มีความถูกต้องเตรียมพร้อมที่จะส่งออกในอนาคต? คุณศิริลักษณ์กล่าว
การทำธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า รู้ว่าสินค้าของเราคืออะไร สามารถให้รายละเอียดที่ให้ชัดเจนได้ สินค้าที่มีคุณภาพดีจะขายได้ด้วยตัวเอง และเมื่อทำการตลาดควบคู่กันไปคนจะรู้จักแบรนด์มากขึ้น สินค้าดีแต่ถ้าไม่มีตลาดหรือไม่รู้ว่าจะขายใครก็จะไปไม่รอด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจ
ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนมีนาคม 2567