ส่องเทรนด์โลก: 3 กลยุทธ์การรุกตลาด ท่ามกลางความผันผวนทางการค้าในปี 2568

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 5, 2025 15:27 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

โลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความผันผวนทางเศรษฐกิจและการค้าจากสงครามการค้าระลอกใหม่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะใช้มาตรการทางภาษีกับจีนและประเทศคู่ค้าเพื่อลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ตลอดจนดึงดูดเงินลงทุนกลับสหรัฐฯ ทำให้สถานการณ์การค้าโลกในปี 2568 คาดการณ์ความเสี่ยงได้ยาก อีกทั้งมีโอกาสที่สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการทางภาษีกับไทยเพราะสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าไทยสูงเป็นอันดับ 12 โดยส่องเทรนด์โลกฉบับนี้จึงขอนำเสนอ 3 กลยุทธ์ที่จะช่วยลดความผันผวนในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทย ดังนี้

กลยุทธ์ที่ 1 : หาตลาดศักยภาพใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง

เริ่มจากการสำรวจหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเน้นไปที่แนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตโดดเด่นและไม่ค่อยเผชิญความผันผวนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) เพื่อช่วยลดความผันผวนของการพึ่งตลาดสหรัฐฯ และจีนที่เป็นคู่ขัดแย้งหลักในสงครามการค้าครั้งนี้ โดยประเทศที่มีศักยภาพคงเป็นตลาดใดไปไม่ได้นอกจากอินเดีย เนื่องจากเป็นประเทศวางตัวเป็นกลาง (Conflict-free Country) และเศรษฐกิจมีแนวโน้มโตเฉลี่ย 6.5% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้นยังมีศักยภาพจากขนาดตลาดผู้บริโภคด้วยประชากรกว่า 1,440 ล้านคน ขยับแซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2566 โดยกว่า 900 ล้านคนอยู่ในวัยแรงงาน ซึ่งเป็นช่วงวัยของการทำงานและจับจ่ายใช้สอย ทำให้การบริโภคเป็นเครื่องยนต์หลัก (สัดส่วนราว 58% ของ GDP) ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง โดย McKinsey คาดว่า ขนาดเศรษฐกิจอินเดียจะโตแตะระดับ 19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2590 เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4 เท่าจากระดับปัจจุบัน ซึ่งจะยกระดับรายได้และทำให้ชนชั้นกลางกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของประเทศ ทำให้มีความต้องการสินค้าตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสินค้าความงามและสุขภาพ

กลยุทธ์ที่ 2 : เสนอราคาที่เข้าถึงได้

ท่ามกลางสถานการณ์การค้าโลกที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะสงครามการค้าที่มีแนวโน้มซ้ำเติมเศรษฐกิจหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีนที่เศรษฐกิจอาจชะลอตัวมากกว่าที่คาด ไปจนถึงเยอรมนีที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเปราะบาง โดยจะขยายตัวได้ไม่ถึง 1% ในปีหน้า ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาโลกต้องเผชิญกับเงินเฟ้อในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคในหลายประเทศยังระมัดระวังในการใช้จ่าย ทำให้ราคาสินค้าที่เข้าถึงได้มีความสำคัญมากขึ้นต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งสะท้อนออกมาตามเทรนด์การบริโภคใหม่ ๆ อาทิ สินค้ายั่งยืนที่ราคาเข้าถึงได้ (Affordable Sustainability) โดย Euromonitor สำรวจพบว่า ในปี 2567 แม้ 60% ของกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคกว่า 4 หมื่นคนทั่วโลก พยายามมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการเลือกซื้อสินค้าสีเขียวในชีวิตประจำวัน แต่มีผู้บริโภคราว 15% เท่านั้นที่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้าดังกล่าว และ 40% ระบุว่าราคาเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจซื้อสินค้าดังกล่าว ดังนั้น กลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสมและอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ยังคงมีความสำคัญ และยังจำเป็นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจของตลาดบางประเทศที่ชะลอตัว

กลยุทธ์ที่ 3 : ทำความเข้าใจตลาดให้มากกว่าคู่แข่งอื่น

ไม่ว่าจะรุกตลาดใดก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การเข้าใจตลาดให้มากกว่าคู่แข่งอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้งเพื่อเข้าถึงโอกาสมหาศาลที่ซ่อนอยู่อย่างตลาดฮาลาล เนื่องจากต้องเข้าใจถึงหลักการพื้นฐานของศาสนาเพื่อให้กระบวนการผลิต การให้บริการ ตลอดจนการจำหน่าย ไม่ขัดต่อหลักของศาสนา ซึ่งตลาดฮาลาลเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงจากจำนวนชาวมุสลิมทั่วโลกที่มีอยู่ราว 2 พันล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของประชากรโลก และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของประชากรโลก ภายในปี 2593 โดยสินค้าอาหารฮาลาลมีสัดส่วนใหญ่ที่สุดราว 60% ของอุตสาหกรรม ฮาลาลทั้งหมด (ไม่รวมการเงินอิสลาม) ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสของไทย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิต ทั้งนี้ ตลาดฮาลาลที่น่าสนใจในมุมของจำนวนชาวมุสลิมในประเทศมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อินโดนีเซีย 243 ล้านคน ปากีสถาน 223 ล้านคน และอินเดีย 200 ล้านคน ขณะที่หากพิจารณาตลาดฮาลาลที่น่าสนใจในแง่ของศักยภาพผู้บริโภคที่มีรายได้สูง คงหนีไม่พ้นซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี (GDP per Capita) สูงกว่าไทยราว 3 เท่า รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี สูงกว่าไทยราว 6 เท่าเป็นต้น

จะเห็นได้ว่าการค้าโลกในปีนี้มีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้ผู้ส่งออกควรต้องติดตามสถานการณ์การค้าโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อก้าวผ่านทุกอุปสรรคและเดินหน้าคว้าโอกาสภายใต้ความไม่แน่นอนไปให้ได้อย่างราบรื่น

Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดย EXIM BANK จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด

ที่มา: ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เดือนมกราคม 2568


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ