ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจภายในและต่างประเทศในครึ่งแรกของปี 2551 ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK ได้ทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ที่มีบริการทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินให้แก่ธุรกิจของ
คนไทยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้านรวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกและภาวะเงินเฟ้อในประเทศไทย ทั้งนี้ ในด้านการสนับสนุนการส่งออกและ
นำเข้าในครึ่งแรกของปีนี้ EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและวงเงินรับประกันการส่งออกจำนวน 10,896 ล้านบาท และมีวงเงินที่อยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาอีกกว่า 4,424 ล้านบาท
ส่วนวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจภายในประเทศภายใต้บทบาทใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบลอจีสทิกส์ อาทิ การขนส่งทางบกและทางน้ำ ศูนย์กระจายสินค้า และการพัฒนา
เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,509 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญาอีกจำนวน 3,364 ล้านบาท ขณะที่วงเงินอนุมัติสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพลังงาน
และพลังงานทดแทนมีจำนวน 100 ล้านบาท อีก 2,957 ล้านบาทเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญา
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สนับสนุนและส่งเสริมการนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตมาใช้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าส่งออกไทย โดยอนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้วจำนวน 3,741 ล้านบาท
และมีวงเงินที่อยู่ระหว่างเซ็นสัญญาอีกจำนวน 3,500 ล้านบาท
ในครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและค้ำประกันให้นักลงทุนไทยจำนวน 1,389 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติอีกจำนวน 5,885 ล้านบาท รวมทั้งประสบ
ความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดโครงการความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB), Gramercy Advisors/Arco Capital Management Family of Funds (Arco) และ Foreign Trade
Bank (FTB) ของกัมพูชา เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินเป็นวงเงินกู้รวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่โครงการพัฒนาระบบสายส่งไฟฟ้าของ (Cambodia) Power Transmission Lines Company Limited เริ่มต้นจาก
ชายแดนไทยไปบันเตียเมียนเจย พระตะบอง และเสียมราฐ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นครั้งแรกที่ ADB ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการ
ลงทุนของเอกชนในกัมพูชา
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2551--
-พห-
เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK ได้ทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ที่มีบริการทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินให้แก่ธุรกิจของ
คนไทยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้านรวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกและภาวะเงินเฟ้อในประเทศไทย ทั้งนี้ ในด้านการสนับสนุนการส่งออกและ
นำเข้าในครึ่งแรกของปีนี้ EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและวงเงินรับประกันการส่งออกจำนวน 10,896 ล้านบาท และมีวงเงินที่อยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาอีกกว่า 4,424 ล้านบาท
ส่วนวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจภายในประเทศภายใต้บทบาทใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบลอจีสทิกส์ อาทิ การขนส่งทางบกและทางน้ำ ศูนย์กระจายสินค้า และการพัฒนา
เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,509 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญาอีกจำนวน 3,364 ล้านบาท ขณะที่วงเงินอนุมัติสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพลังงาน
และพลังงานทดแทนมีจำนวน 100 ล้านบาท อีก 2,957 ล้านบาทเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญา
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สนับสนุนและส่งเสริมการนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตมาใช้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าส่งออกไทย โดยอนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้วจำนวน 3,741 ล้านบาท
และมีวงเงินที่อยู่ระหว่างเซ็นสัญญาอีกจำนวน 3,500 ล้านบาท
ในครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและค้ำประกันให้นักลงทุนไทยจำนวน 1,389 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติอีกจำนวน 5,885 ล้านบาท รวมทั้งประสบ
ความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดโครงการความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB), Gramercy Advisors/Arco Capital Management Family of Funds (Arco) และ Foreign Trade
Bank (FTB) ของกัมพูชา เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินเป็นวงเงินกู้รวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่โครงการพัฒนาระบบสายส่งไฟฟ้าของ (Cambodia) Power Transmission Lines Company Limited เริ่มต้นจาก
ชายแดนไทยไปบันเตียเมียนเจย พระตะบอง และเสียมราฐ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นครั้งแรกที่ ADB ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการ
ลงทุนของเอกชนในกัมพูชา
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2551--
-พห-