EXIM BANK จับมือธนาคารกรุงไทยขยายฐานผู้ใช้บริการประกันการส่งออกคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศท่ามกลางวิกฤตการเงินโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 11, 2008 15:05 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

EXIM BANK พร้อมประกันการส่งออกให้แก่ลูกค้าธนาคารกรุงไทย โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่คู่ค้าในตลาดการค้าหลักทั่วโลกมีปัญหาการชำระเงินค่าสินค้าเนื่องจากขาดสภาพคล่องหรือล้มละลายเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางภาวะวิกฤตการเงินโลก

ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการให้ความร่วมมือภายใต้บริการประกันการส่งออกระหว่างทั้งสองธนาคาร ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงไทยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 โดย EXIM BANK จะให้บริการประกันการส่งออกแก่ลูกค้าของธนาคารกรุงไทย เพื่อผลักดันการเติบโตของภาคส่งออกทั้งในตลาดเดิมและตลาดใหม่ท่ามกลางวิกฤตการเงินโลกในปัจจุบัน

นอกจากการเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้ส่งออกไทยขยายธุรกิจได้ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศในปัจจุบันแล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้ยังจะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยสามารถเสนอเงื่อนไขการชำระเงินที่ผ่อนปรนและแข่งขันได้ โดยใช้บริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อในต่างประเทศไปจนถึงการช่วยติดตามหนี้ในกรณีที่มีปัญหา

ลูกค้าธนาคารกรุงไทยจะได้รับประโยชน์ในการติดต่อขอรับบริการแบบ One Stop Service กล่าวคือ สามารถขอรับบริการสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยและบริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK ได้ในคราวเดียวกัน ทั้งนี้บริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK แบ่งเป็น 1) EXIM SURE เป็นบริการประกันการส่งออกที่เหมาะสำหรับผู้ส่งออกที่ต้องการให้ EXIM BANK ช่วยติดตามดูแลการส่งออกทุก Shipment ที่ส่งไปยังคู่ค้าอย่างใกล้ชิด 2) EXIM FLEXI เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2551 เป็นบริการประกันการส่งออกแบบใหม่ซึ่งปรับลดค่าเบี้ยประกัน ลดขั้นตอนการทำงาน ของธนาคารและผู้ส่งออก และเพิ่มผลประโยชน์ในส่วนของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ส่งออกที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับผู้ซื้อแต่ไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า

ข้อมูลจากสถาบันประกันการส่งออกชั้นนำของโลกระบุว่า จำนวนของธุรกิจที่ล้มละลายในประเทศต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าในปี 2552 จำนวนธุรกิจที่ล้มละลายในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 43,800 แห่ง (จาก 28,322 แห่งในปี 2550) ส่วนในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสจะเพิ่มขึ้นเป็น 23,200 แห่ง (จาก 19,484 แห่งในปี 2550) และ 57,900 แห่ง(จาก 50,014 แห่งในปี 2550) ตามลำดับ เป็นต้น

ตั้งแต่เปิดบริการประกันการส่งออกในปี 2538 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 13 ปี EXIM BANK ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 272 ล้านบาท โดย 80% เกิดจากผู้ซื้อปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า อีก 18% ผู้ซื้อล้มละลาย และ 2% ผู้ซื้อปฏิเสธรับมอบสินค้า ธุรกิจส่งออกที่ได้รับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนมากที่สุดได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ(57%) รอ งลงมาได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ (13%) อาหารกระป๋อง (9%) ผลิตภัณฑ์พลาสติก (9%) และยางรถจักรยาน (2%)

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2551--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ