เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2551 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 1 วัน) ลงจาก 3.75% เหลือ 2.75% นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 16 เดือน เนื่องจากวิกฤติการเงินโลกเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยชัดเจนและ รุนแรงขึ้นทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2551 ชะลอตัวลงมากและมีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง ขณะที่การใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจต้องสะดุดลงจากปัญหาการเมือง อย่างไรก็ตาม ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในตลาดเงินยังไม่ชัดเจน เนื่องจากธนาคาร พาณิชย์ต้องประเมินความเสี่ยงด้านการชำระหนี้ รวมถึงสภาพคล่องก่อนดำเนินการปรับอัตราดอกเบี้ย
ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ : World Semiconductor Trade Statistics คาดการณ์ยอดจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปี 2552 มีแนวโน้มลดลง 2.2% เทียบกับปี 2551 เนื่องจากวิกฤติการเงินโลกส่งผลให้ความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีเซมิคอนดัก เตอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญลดต่ำลง ทั้งนี้ ล่าสุดผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์หลายราย เร่งปรับตัวเพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติดังกล่าว ดังนี้
| ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ | แนวทางการปรับตัว | ----------------------------------------------------------------------------- | Samsung Electronics Co. | หยุดการผลิตหน่วยความจำ 2 ชนิด | | (ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก) | ภายในสิ้นปี 2552 | ----------------------------------------------------------------------------- | Toshiba Corp. (ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ | เลื่อนแผนการสร้างโรงงานใหม่ | | อันดับ 2 ของโลก) | | ----------------------------------------------------------------------------- | MeiYa (บริษัทร่วมทุนระหว่าง Nanya | เลื่อนแผนการสร้างโรงงานใหม่ | | Technology Corp. Micron Technology Inc. | | | และ Elpida Memory Inc.) | | ----------------------------------------------------------------------------- | Qimonda AG and Infineon Technologies | ลดจำนวนพนักงาน | | AG (ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของเยอรมนี) | | -----------------------------------------------------------------------------
พาณิชยนาวี : สถานการณ์ธุรกิจพาณิชยนาวีในปัจจุบัน อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง เนื่องจากปัจจุบันมีเรือคอนเทนเนอร์จอดนิ่งไม่มีผู้ใช้บริการ อยู่ที่ท่าเรือสิงคโปร์ประมาณ 20-30 ลำ ขณะที่มีเรือเทกองจอดอยู่ตามท่าเรือต่าง ๆ ทั่วเอเชียราว 100 ลำ เนื่องจากปริมาณการนำเข้าและส่งออก สินค้าทั่วโลกลดลงราว 20-30% ตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ค่าระวางเรือปรับลดลงมาก โดยเฉพาะในเส้นทางสาย เอเชีย-ยุโรป ที่ปรับลงกว่า 50%
-------------------- อัตราค่าระวางเรือ --------------------
(ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้)
เส้นทาง(ต้นทางจากไทย) ตุลาคม 2550 ตุลาคม 2551 20 ฟุต 40 ฟุต 20 ฟุต 40 ฟุต เซี่ยงไฮ้ 310-340 530-580 155 270 ฮ่องกง 170-190 280-380 160 250 สหรัฐฯ ฝั่งตะวันตก 1,350-1,425 1,800-1,900 1,400 1,750 สหรัฐฯ ฝั่งตะวันออก 2,350-2,425 3,180-3,280 2,705 3,380 ยุโรป 1,300 2,500 525 1,050 ดูไบ 1,100 1,850 650 1,100 บาห์เรน 1,600 2,750 1,050 1,600 การาจี 1,400 2,700 1,150 1,900 ญี่ปุ่น 530 860 425 660 ที่มา : สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย International
เวียดนามประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจหลังประกาศลดอัตราดอกเบี้ย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2551 นาย Nguyen Tan Dung นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับ ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยเตรียมใช้งบประมาณราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการบริโภค ภายในประเทศ พร้อมทั้งให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดอัตราภาษีต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ ทั้งนี้ การประกาศมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam : SBV) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (Prime Rate) จาก 11% เหลือ 10% พร้อมทั้งประกาศปรับลดสัดส่วนการดำรงเงินสดสำรองตามกฎหมาย (Compulsory Reserve) สำหรับเงินฝากสกุลด่อง และเงินฝากสกุลดอลลาร์สหรัฐลง 2% เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ระบบการเงินในประเทศ ทั้งนี้ ในช่วงผ่านมา SBV ผ่อนคลายการดำเนินนโยบายการเงินมากขึ้นหลังจากอัตราเงินเฟ้อของเวียดนามเริ่มปรับตัวลดลง ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของเวียดนาม ในเดือนพฤศจิกายน 2551 อยู่ที่ระดับ 24.2% ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 28.3% ในเดือนสิงหาคม 2551
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2551--