EXIM BANK พอใจผลการดำเนินงานปี 2551 พร้อมเดินหน้าบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ช่วยธุรกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 13, 2009 14:50 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

EXIM BANK มีผลการดำเนินงานปี 2551 เป็นที่น่าพอใจ วงเงินสินเชื่อและค้ำประกันอนุมัติใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนักลงทุนไทยในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 47.3% และปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้น 2.7% จากปี 2550 ในปี 2552 EXIM BANK จะดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ในเชิงรุกมากยิ่งขึ้นโดยผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งด้านการให้สินเชื่อ บริการประกันการส่งออก และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ธุรกิจไทยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ

ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความไม่มั่นคงทางการเมืองภายในประเทศ แต่ EXIM BANK ยังมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจในปี 2551 โดยมีวงเงินสินเชื่อและการค้ำประกันอนุมัติใหม่ให้แก่ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและกิจการที่ก่อให้เกิดรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศและนักธุรกิจไทยไปทำธุรกิจในต่างประเทศรวม 29,793 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้น 47.3% เทียบกับปี 2550 มีปริมาณธุรกิจจำนวน 120,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากปี 2550 ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2551 มีจำนวน 50,748 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3.8%

ในปี 2551 EXIM BANK มีกำไรก่อนการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 1,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากปี 2550 แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ ทำให้ EXIM BANK มีสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มมากขึ้น จึงต้องตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 1,161 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2551 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 506 ล้านบาทในปี 2550

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ภายหลังได้เข้าพบและหารือกับนายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังถึงทิศทางเศรษฐกิจและแนวทางการดำเนินงานของ EXIM BANK เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2552 EXIM BANK จะเดินหน้าบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยจัดให้มีบริการครบวงจรทั้งด้านสินเชื่อ บริการประกันการส่งออก และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการไทยโดยสอดคล้องกับปณิธานของ EXIM BANK ที่จะ “สนับสนุนมากกว่าการส่งออก…เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ” เพื่อให้ทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับภาคการส่งออกของไทยอยู่รอด เติบโต และแข่งขันได้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ด้านลอจีสทิกส์ (Logistics) อาทิ ศูนย์การกระจายสินค้า ท่าเรือ ธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ 2) ด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานทดแทนและพลังงานชีวมวล ได้แก่ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะ การผลิตเอทานอล และการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ และ 3) ด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค

ดร.อภิชัย กล่าวต่อไปว่า ในปี 2552 EXIM BANK จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ส่งออกไทย โดยผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ รวมทั้งธนาคารพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ส่งออกไทยใช้บริการประกันการส่งออกซึ่งครอบคลุมบริการประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อ/ธนาคารผู้ซื้อเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศในภาวะวิกฤตการเงินโลกปัจจุบัน โดยคาดว่า EXIM BANK จะได้รับการเพิ่มทุนจากกระทรวงการคลังจำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้สำหรับให้บริการประกันการส่งออกแก่ผู้ประกอบการไทยในภาวะวิกฤตการเงินโลกปัจจุบัน ทำให้ผู้ส่งออกไทยสามารถเสนอเงื่อนไขการชำระเงินที่แข่งขันได้ให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศและมีความมั่นใจในการเริ่มต้นหรือขยายการส่งออกไปยังตลาดเดิมหรือตลาดใหม่ๆ ทั้งนี้ EXIM BANK จะขยายการให้บริการประกันการส่งออกผ่านความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีแผนขยายสาขาย่อยเพิ่มมากขึ้นโดยความร่วมมือกับธนาคารออมสินและสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการคลังในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สถาบันการเงินของรัฐโดยใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของกันและกันอย่างเกื้อกูลเพื่อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถเข้าถึงบริการในรูปแบบ “1 สาขา 2 ธนาคาร” ณ ที่ทำการของธนาคารออมสินหรือ EXIM BANK

สำหรับบทบาทในเชิงรุกเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ EXIM BANK จะจัดตั้ง “ทีมผู้เชี่ยวชาญประเทศ” และ “ทีมผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรม” ที่มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกในประเทศและอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งนี้ EXIM BANK จะมุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในกลุ่มประเทศ CIVIL ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และ สปป.ลาว ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ อาทิ การจัดตั้งบริษัท ไทย เอ็กซิม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งจะเปิดสาขาแรกที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2552

“ในภาวะวิกฤตการเงินโลก EXIM BANK พร้อมจะดำเนินบทบาทเชิงรุกในการเป็นเครื่องมือของรัฐที่จะบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก แต่ EXIM BANK จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังในรูปของการเพิ่มทุนอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อให้ EXIM BANK มีขีดความสามารถที่จะช่วยเหลือผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยได้อย่างเต็มที่” ดร.อภิชัย กล่าว

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์ 2552--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ