ไตรมาสแรกของปี 2553 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท ทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งปีที่ 230 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 จำนวน 68,660 ล้านบาท
ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกในปี 2553 ของ EXIM BANK ว่า EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินใหม่สำหรับสินเชื่อและรับประกันการส่งออกเพื่อสนับสนุนแก่ผู้ส่งออกและนักธุรกิจไทยจำนวนทั้งสิ้น 4,208 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 มียอดคงค้างเงินให้สินเชื่อจำนวน 53,029 ล้านบาท และภาระผูกพันประกันการส่งออกจำนวน 27,384 ล้านบาท
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 EXIM BANK ได้แต่งตั้งไดวาและมิซูโฮเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตรอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Notes: FRN) ของ EXIM BANK ให้แก่นักลงทุนสถาบันจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับการขยายตัวของการให้สินเชื่อของ EXIM BANK ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถขายได้ครบจำนวนตั้งแต่วันที่เริ่มเสนอขาย นอกจากนี้ EXIM BANK ยังประสบความสำเร็จจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งเป็นบริการใหม่ของทางธนาคาร ในการจับคู่ธุรกิจให้เกิดการร่วมทุนระหว่างบริษัท ซูมิโตโม รับเบอร์ อินดัสตรี จำกัดของญี่ปุ่นและกลุ่มบริษัทไทยอีสเทิร์นของไทย โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,100 ล้านบาท ขณะเดียวกัน EXIM BANK มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ร่วมกับสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) และธนาคารออมสินลงนามในความร่วมมือระหว่างกันเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว ใน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงถนน R3 (เชียงราย-คุนหมิง ผ่าน สปป.ลาว) วงเงิน 405 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงถนนและระบบระบายน้ำใน นครหลวงเวียงจันทน์ วงเงิน 250 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 655 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2553 EXIM BANK มีแผนเพิ่มเครือข่ายการให้บริการภายในประเทศ โดยเปิดสาขาย่อย ณ ที่ทำการของธนาคารออมสินเพิ่มอีก 3 สาขา เพื่อให้ EXIM BANK สามารถให้บริการแก่ผู้ประกอบการได้ทั่วถึงและครบวงจรมากยิ่งขึ้น
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มิถุนายน 2553--