ส่งออกถุงมือผ่าตัดไปเกาหลีใต้ : โอกาสดีจากธุรกิจการแพทย์ที่โตอย่างรวดเร็ว

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 24, 2010 14:28 —ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า

ข้อมูลที่น่าสนใจ

จำนวนประชากร : 50 ล้านคน

รายได้เฉลี่ยต่อหัว : 17,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

จำนวนผู้ป่วยต่างชาติ : 70,000 คนต่อปี

ปริมาณนำเข้าถุงมือผ่าตัด : 74 ล้านคู่ต่อปี

ความน่าสนใจของตลาด

  • ธุรกิจการแพทย์ของเกาหลีใต้มีแนวโน้มขยายตัวสูง โดยเฉพาะการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงาม ส่งผลให้ความต้องการถุงมือผ่าตัดขยายตัวสูงด้วย
  • ประชากรของเกาหลีใต้มีกำลังซื้อสูง (GDP per Capita อันดับ30 ของโลก) และให้ความสำคัญกับการผ่าตัดเสริมความงาม(กว่าร้อยละ 50 ของประชากรอายุ 25 ปีขึ้นไปเคยผ่าตัดศัลยกรรม)
  • เกาหลีใต้เป็นประเทศผู้นำเข้าถุงมือผ่าตัดรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากจีนและญี่ปุ่น

“ธุรกิจการแพทย์ของเกาหลีใต้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากทั้ง สัดส่วนจำนวนประชากรในประเทศที่สนใจผ่าตัดเสริมความงามในระดับสูง และอัตราขยายตัวของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่สูงถึงร้อยละ 30 ต่อปี จากปัจจุบันที่ผู้ป่วยต่างชาติในเกาหลีใต้ยังมีเพียง 70,000 คนต่อปี เทียบกับไทย ที่ 1.3 ล้านคนต่อปี”

ถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่

1) ถุงมือผ่าตัด (Surgical Glove)

2) ถุงมือตรวจโรค (Examination Glove)

โครงสร้างตลาด : พึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก

  • เกาหลีใต้ผลิตถุงมือผ่าตัดได้น้อยมาก เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบยางธรรมชาติและค่าจ้างแรงงานสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับสูง
  • ตลาดถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะมาเลเซียและไทยซึ่งเป็นแหล่งนำเข้า
ถุงมือผ่าตัดรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้
  • แม้การนำเข้าถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้ ปี 2552 มีมูลค่า 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 2.6 เนื่องจากได้รับผลกระทบ

จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่หากพิจารณามูลค่านำเข้าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2543-2552) จะเห็นได้ว่ามูลค่านำ เข้ามีอัตราขยายตัวเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 18.2 ต่อปี

ขั้นตอนและระเบียบการนำเข้าถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้ มีดังนี้

1) ผู้นำเข้าเตรียมเอกสารต่างๆ ได้แก่ ผลการทดสอบความปลอดภัยและความถูกต้องของสินค้า ผลการทดสอบมาตรฐานสินค้า ใบรับรองการอนุมัติผลการทดสอบ และใบอนุญาตการเป็นผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายในประเทศทั้งนี้ การทดสอบสินค้าต้องดำเนินการโดยห้องแล็บที่ได้รับการรับรองจาก KFDA (Korea Food and Drug Administration)

2) ผู้นำเข้าส่งเอกสารในข้อ 1 และตัวอย่างสินค้าที่ต้องการนำเข้าแก่คณะกรรมการตรวจคุณสมบัติของ KFDA

3) ผู้นำเข้าจะสามารถนำเข้าสินค้าได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตการนำเข้าจาก KFDA ซึ่งใช้เวลาราว 1-2 เดือนหลังจากผู้นำเข้าส่งเอกสารทั้งหมดแก่ KFDA

ลักษณะความต้องการและรสนิยม : นิยมถุงมือผ่าตัดขนาด 6-8.5 นิ้ว

 รายการ             ลักษณะ

 ขนาด               ถุงมือผ่าตัดขนาด 6-8.5 นิ้ว ได้รับความนิยมมากที่สุด

 ราคา               ราคานำเข้าอยู่ที่คู่ละ 0.10-0.14 ดอลลาร์สหรัฐ (FOB)

ราคาจำหน่ายอยู่ที่คู่ละ 370-380 วอน หรือราว 0.30-0.31 ดอลลาร์สหรัฐ

รสนิยม ในอดีตแพทย์เกาหลีใต้ส่วนใหญ่เชื่อมั่น มาตรฐานถุงมือผ่าตัดของสหรัฐฯ มากที่สุด

เนื่องจากแพทย์ส่วนใหญ่จบการศึกษาจากสหรัฐฯ ทำให้มีความเคยชินและมั่นใจใน

คุณภาพสินค้าสหรัฐฯ แต่ในข้อเท็จจริงถุงมือผ่าตัดของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่นำเข้าจาก

มาเลเซียและไทย ก่อนนำไปติดตราผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเกาหลีใต้ลดการใช้ถุงมือผ่าตัดจากสหรัฐฯ แต่หันไปใช้ถุงมือผ่าตัด

จากมาเลเซียและไทยที่มีราคาถูกกว่าแทน

การบรรจุหีบห่อ         สินค้าจำนวน 1 กล่อง ประกอบด้วยถุงมือผ่าตัดจำนวน 200 คู่ ถุงมือผ่าตัดแต่ละคู่แยกบรรจุในถุงพลาสติกใส

ช่องทางการจัดจำหน่าย มี 3 รูปแบบ ได้แก่

1) ผู้นำเข้า>ผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศ>ผู้บริโภค

2) ผู้นำเข้า>ผู้บริโภค

3) ผู้บริโภคสั่งซื้อโดยตรง

โอกาสของผู้ส่งออกไทย : AKFTA เพิ่มโอกาสในการส่งออก

  • ประเทศไทยมีความได้เปรียบด้านต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะปลูกยางพาราใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งนี้ โครงสร้างต้นทุนการผลิตถุงมือผ่าตัดประกอบด้วยต้นทุนวัตถุดิบยางพาราสูงที่สุดด้วยสัดส่วนร้อยละ 30 ของต้นทุนการผลิตโดยรวมประเทศไทยดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางจากนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการผลิตถุงมือผ่าตัด โดยปัจจุบันมีโรงงานผลิตถุงมือผ่าตัดของไทยที่ร่วมทุนกับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และเยอรมนี
  • ถุงมือผ่าตัดของไทยได้รับการยอมรับในตลาดเกาหลีใต้มากขึ้น สะท้อนจากมูลค่าส่งออกถุงมือผ่าตัดของไทยไปเกาหลีใต้ในปี 2552 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ104.1 ขณะที่มูลค่าส่งออกของคู่แข่งอย่างมาเลเซียขยายตัวเพียงร้อยละ 7.6
  • อัตราภาษีนำเข้าถุงมือยางที่เกาหลีใต้เรียกเก็บจากไทยอยู่ที่ร้อยละ 0 จากผลของข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) ขณะที่การนำเข้าถุงมือยางจากประเทศอื่นๆ ต้องเสียภาษีร้อยละ 8 ทั้งนี้ จากการศึกษาของฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธสน. พบว่า ราคามีผลต่อการตัดสินใจนำเข้าถุงมือผ่าตัดในเกาหลีใต้ สังเกตได้จากปริมาณถุงมือผ่าตัดที่นำเข้าเพิ่มขึ้นเมื่อราคานำเข้าลดลง ดังนั้น ข้อตกลง AKFTA จึงน่าจะยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับถุงมือผ่าตัดส่งออกจากไทยมากขึ้น
          ราคานำเข้าถุงมือผ่าตัดลดลง 1%         >        ปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.8%

“แม้อัตราการใช้สิทธิ์ AKFTA ของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากข้อตกลงเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2553 อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ส่งออกไทยจะหันมาใช้สิทธิ์จากข้อตกลงนี้มากขึ้นในระยะต่อไป” ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้อสังเกต : ผู้ส่งออกถุงมือยางของไทยมีเพียงร้อยละ 10 ที่ส่งออกถุงมือผ่าตัด ขณะที่อีกร้อยละ 90 ส่งออกถุงมือตรวจโรค ซึ่งผู้ส่งออกถุงมือตรวจโรคสามารถขยายการผลิตเพื่อส่งออกถุงมือผ่าตัดเพิ่มขึ้น หากสามารถพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นได้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภาวะการแข่งขันในตลาด : มาเลเซียเป็นคู่แข่งสำคัญ แต่ไทยได้เปรียบด้านวัตถุดิบ

การแข่งขันในตลาดถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่เป็นการแข่งขันระหว่างมาเลเซียกับไทยเป็นหลัก เนื่องจากทั้งสองประเทศครองส่วนแบ่งตลาดราวร้อยละ 80 ของปริมาณนำเข้าถุงมือผ่าตัดทั้งหมดของเกาหลีใต้ ทั้งนี้ มาเลเซียถือเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพสูง โดยเป็นผู้ส่งออกถุงมือผ่าตัดอันดับ 1 ของโลก อย่างไรก็ตาม มาเลเซียมีต้นทุนวัตถุดิบสูงกว่าไทย เนื่องจากต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบน้ำยางข้นจากไทย ขณะที่คู่แข่งอื่นๆ เช่น จีน ศรีลังกา สหรัฐฯ และอินเดีย มีส่วนแบ่งตลาดไม่มากนัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากถุงมือผ่าตัดจากสหรัฐฯ มีราคาแพง ประกอบกับผู้ประกอบการสหรัฐฯ เข้าไปร่วมทุนจัดตั้งโรงงานผลิตถุงมือผ่าตัดในมาเลเซียและไทยมากขึ้น ตลอดจนผู้บริโภคเริ่มให้ความเชื่อถือถุงมือผ่าตัดจากมาเลเซียและไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ กลยุทธ์การแข่งขันเน้นการแข่งขันด้านราคา โดยมีมาตรฐานคุณภาพเป็นปัจจัยกำกับ อย่างไรก็ตาม การเปิดเขตการค้าเสรี AKFTA ซึ่งทำให้ราคานำเข้าถุงมือผ่าตัดจากอาเซียนลดลง คาดว่าจะยิ่งส่งผลให้คู่แข่งในตลาดถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้ลดจำนวนลงเหลือเพียงมาเลเซียและไทย ซึ่งได้รับประโยชน์จากข้อตกลงดังกล่าวมากที่สุด

แนวโน้มตตลาด : เติบโตตามธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงาม

ตลาดถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายตัวของธุรกิจการแพทย์ โดยเฉพาะการศัลยกรรม เสริมความงาม ซึ่งปัจจุบันเรียกได้ว่าเกาหลีใต้เป็นศูนย์กลางศัลยกรรมเสริมความงามใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2563 จากปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติราว 70,000 คนต่อปี ขณะที่ประชากรในประเทศให้ความสำคัญกับการเสริมความงามและการรักษาพยาบาลอย่างมาก สะท้อนจากค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลของเกาหลีใต้ ปี 2550 อยู่ที่ 1,688 (PPP int. $/ คน/ปี)* ขยายตัวร้อยละ 9.6 ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 863 (PPP int. $/คน/ปี) ตลอดจนเศรษฐกิจของเกาหลีใต้มีความแข็งแกร่งและมีแนวโน้มขยายตัวดี โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปี 2553 และปี 2554 จะขยายตัวราวร้อยละ 4.5 และร้อยละ 5.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนข้างต้นคาดว่าจะส่งผลให้ความต้องการถุงมือผ่าตัดของเกาหลีใต้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

หมายเหตุ : * PPP int. $ เป็นการคิดค่าใช้จ่ายตามหลักความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity) ซึ่งขจัดผลของอัตราเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบอำนาจซื้อที่แท้จริงของแต่ละประเทศได้

“หาก GDP ของเกาหลีใต้ขยายตัวร้อยละ 1 จะส่งผลให้ปริมาณนำเข้าถุงมือผ่าตัดขยายตัวร้อยละ 3.7”

(ที่มา : ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธสน.)

ตัวชี้วัดการใช้จ่ายด้านสุขภาพของเกาหลีใต้

          ตัวชี้วัด                                                 ปี 2543       ปี 2550
          สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อ GDP (%)                          4.7           6.3
          สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของรัฐบาลต่อค่าใช้จ่ายรวมของรัฐบาล (%)    9.4          12.1
          ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพรายบุคคล(ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ปี)                 536         1,362
          ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพรายบุคคล(PPP int. $/คน/ปี)                 809         1,688

ประมาณการอัตราขยายตัว GDP ของเกาหลีใต้

              2552     2553     2554     2555     2556     2557     2558
   GDP (%)     0.2      4.5      5.0      4.1      4.1      4.0      4.0

หมายเหตุ : GDP ณ ราคาคงที่

ที่มา : IMF

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2553--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ