สรุปภาวะตลาดผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางของไทยในเยอรมนีเดือนกันยายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 7, 2010 09:59 —กรมส่งเสริมการส่งออก

อุตสาหกรรมในประเทศ

การผลิตรถยนต์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมแขนงสำคัญสำหรับสินค้าทำด้วยยาง ถึงแม้ว่าการจดทะเบียนรถใหม่ในประเทศจะลดน้อยลงจากปีก่อนก็ตาม แต่ความต้องการจากต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประเภทรถบรรทุกจากประเทศในเอเชียและตะวันออกกลางจึงทำให้ในภาพรวมตลาดเยอรมนีมีความต้องการผลิตภัณฑ์ทำด้วยยาง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตเครื่องจักรกล และที่ใช้ในด้านการแพทย์ เช่น ถุงมือยาง เป็นต้น

แหล่งนำเข้าของเยอรมนี

ตามตัวเลขสถิติการค้าของเยอรมนี ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2553 (ม.ค.-มิ.ย.) เยอรมนีนำเข้ายางพาราเป็นมูลค่า 1,209 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากปีก่อนระยะเดียวกันร้อยละ 103.5 ผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางมูลค่า 4,826 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากปีก่อนระยะเดียวกันร้อยละ 27.8 ในส่วนของผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางมีแหล่งนำเข้าที่สำคัญๆ ได้แก่ ฝรั่งเศส(ส่วนแบ่งตลาด 13%) เช็ก (9%) อิตาลี (7 %) โปแลนด์ (6%) สโลเวเกีย(5%) เป็นต้นสำหรับไทยมีการนำเข้าเป็นอันดับที่ 17 มูลค่า 113.4 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.2

สินค้าส่งออกของไทย

ผลิตภัณฑ์ทำด้วยยางของไทยที่ส่งออกไปเยอรมนีมูลค่ามากเป็นอันดับแรก จะเป็น

  • ถุงมือยางใช้ในด้านการแพทย์ ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดเยอรมนีร้อยละ 15 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ มาเลเชียมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 40 เนเธอร์แลนด์ร้อยละ 13 และออสเตรียร้อยละ 10 รองลงมาจะเป็น
  • ยางใหม่สำหรับยานพาหนะ ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดเยอรมนีร้อยละ 1 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ฝรั่งเศสมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 15 เช็คร้อยละ 11 และสโลเวเกียร้อยละ 8
  • หลอด ท่อยาง ไทยมีส่วนแบ่งร้อยละ 0.7 ฮังการี 12% อิตาลี 11% เช็ค 11%โปแลนด์ 10%
ปัญหาอุปสรรค

1. ราคาสินค้าของไทยยังคงสูงกว่าคู่แข่ง แต่เนื่องจากเป็นที่ไว้วางใจของผู้นำเข้า มีคุณภาพดี มีการส่งมอบสินค้าตรงเวลา จึงยังเป็นที่สนใจของผู้นำเข้า

2. การประกาศใช้ระเบียบ Reach ให้ลงทะเบียนและควบคุมสารเคมีที่ใช้ในการผลิต จะทำให้เกิดปัญหากับสินค้าบางชนิดได้ และทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นบ้าง

3. คู่แข่งสำคัญ โดยเฉพาะ จีนและมาเลเชีย มีความสามารถผลิตสินค้าได้มาตรฐานมากขึ้น และมีราคาต่ำกว่าสินค้าจากไทย

4. มีสินค้าเข้าตลาดเยอรมนีมากขึ้นจากฐานการผลิตสินค้าในยุโรปกลางที่ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโดยผู้ประกอบการเยอรมัน

5. สินค้าทำด้วยยางในเยอรมนีส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงในการผลิต ซึ่งไทยยังไม่สามารถผลิตได้

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ