กระทรวงการคลังเม็กซิโกได้ออกกฎระเบียบฉบับใหม่ จากเหตุผลของการที่รัฐบาลเม็กซิโกไม่สามารถแก้ไขปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มค้ายาเสพติดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างเหตุผลการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินเหรียญสหรัฐฯ ในลักษณะเงินสดในประเทศเม็กซิโก เพื่อป้องกันการฟอกเงินจากกลุ่มค้ายาเสพติด และเพื่อป้องกันการอุดหนุนทางการเงินแก่การผู้ก่อการร้ายในประเทศ โดยกฎระเบียบดังกล่าวได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2552 และได้มีการกำหนดระยะเวลาการปรับตัวรวม 90 วัน ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้ครบกำหนดไปแล้ว และเมื่อในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2532 กฎระเบียบดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
กฎระเบียบได้กำหนดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในลักษณะเงินสดตามธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ การรับฝากเงินสดที่เป็นเหรียญสหรัฐ การรับชำระหนี้สินเป็นเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งการจ่ายค่าบริการต่าง ๆ ซึ่งจะไม่สามารถกระทำได้เป็นเงินสดในรูปเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ ธนาคารต่าง ๆ จะไม่สามารถให้บริการแลกเปลี่ยนเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ ต่อบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นลูกค้าธนาคาร (ที่มีบัญชีกับธนาคาร) สำหรับลูกค้าธนาคารที่เป็นบุคคล มีการควบคุมจำนวนเงินที่แลกเปลี่ยนได้ไม่เกิน 4,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนต่อคน หากไม่เป็นลูกค้าของธนาคาร และมีถิ่นที่อยู่อาศัยในเม็กซิโกจะทำการแลกเปลี่ยนเงินสกุลเหรียญฯ ได้ไม่เกิน 300 เหรียญฯ ต่อคนต่อวัน หรือ 1,500 ต่อเดือนต่อบุคคล หากเป็นชาวต่างชาติ จะสามารถแลกเงินสดได้ไม่เกิน 1,500 เหรียญฯ ต่อเดือน
ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลในพื้นที่เขตชายแดนรัฐ Baja California และ B.C. Sur ตลอดจนพื้นที่ที่เป็นเขตเศรษฐกิจ สามารถทำการแลกเปลี่ยนได้แต่จำกัดจำนวนได้ไม่เกิน 7,000 เหรียญฯ ต่อเดือน ซึ่งยกเว้นสำหรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจการค้าขายสามารถทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลเหรียญสหรัฐฯ ได้โดยไม่จำกัดจำนวนแต่จะต้องผ่านระบบบัญชีของธนาคารเท่านั้น (ไม่เป็นเงินสด)
ข้อกำหนดดังกล่าว มีผลบังคับใช้กับกิจการโรงแรม และร้านค้าที่ขายสินค้า duty free ต่างๆ ด้วย การผลกระทบดังกล่าว จะส่งผลต่อนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาประเทศเม็กซิโก ซึ่งประเทศพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวกว่า 18 ล้านคนต่อปี และจะสร้างความไม่สะดวกแก่นักท่องเที่ยว ที่จะซื้อสินค้าจากกิจการร้านค้าทั่วไป อาทิ ในบางกรณีความจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินสดกับโรงแรมที่พัก หรือการเดินทางโดยติดวันสุดสัปดาห์ในประเทศ นอกจากนี้จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจต่างประเทศที่มาลงทุนในประเทศ และสถานทูตทั่วไปที่ใช้เงินตราต่างประเทศและมีการโอนเงินต่างประเทศเข้าออกซึ่งรวมถึงการปฏิบัติงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเม็กซิโกด้วย ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการค้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในตลาดมืดมากยิ่งขึ้น
ภาวะความล้มเหลวของรัฐบาลเม็กซิโกที่จะแก้ไขปัญหาการค้ายาเสพติดและเกิดความรุนแรงการสังหารระหว่างแก็งค้ายาเสพติดด้วยกันและประชาชนทั่วไป ได้ทำให้มีการเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 23,000 รายตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีผู้บริหารระดับสูงของประเทศ อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะฯ เครื่องบินตกเสียชีวิตในกรุงเม็กซิโก นายกเทศมนตรีโดนการลักพาตัวและสังหารไปแล้ว 5 ราย รวมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปเป็นจำนวนมาก ความรุนแรงที่แต่เดิมจะเกิดตามชายแดนของประเทศเม็กซิโก ได้ขยายไปสู่ทั่วประเทศ อาทิ เช่นเมือง Cuanavaca หรือ San Luis Potosi ซึ่งเป็นเมืองรอบนอกกรุงเม็กซิโก ประชาชนไม่กล้าออกนอกบ้านเพราะกลัวความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น และความรุนแรงดังกล่าวได้เข้าไปสู่ตามชายแดนของประเทศสหรัฐอเมริกามากยิ่งขึ้น ทำให้นางฮิลเลอรี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวแก่สื่อของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 ว่าประเทศเม็กซิโกกำลังจะกลายเป็นประเทศ โคลัมเบียเหมือนในอดีต
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th