ไทยเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ครั้งแรกในประเทศไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 19, 2010 11:02 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ไทยเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา “Latin Business Forum 2010” ครั้งแรกในประเทศไทย

หวังพัฒนาศักยภาพนักลงทุนไทยบุกตลาดลาติน-อเมริกา

สำนักผู้แทนการค้าไทย และศูนย์ SEA-LAC Trade Center มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนา หัวข้อ “Latin Business Forum 2010” เป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยการประชุมสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้แทนระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในกลุ่มอาเซียนและลาติน-อเมริกา เพื่อให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทย อาเซียน และกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกา โดยหวังว่า การประชุมสัมมนาครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มในการพัฒนาเป็น Annual Platform ต่อไป เพื่อเป็นเวทีส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิภาคลาติน-อเมริกา ในฐานะเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงที่จะเป็นแหล่งทรัพยากร ตลาดการค้าการลงทุนแห่งใหม่ของไทย และเป็นสะพานเชื่อมทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคอื่นที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับภูมิภาคลาติน-อเมริกา รวมทั้งมีส่วนช่วยในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจโลก

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า การจัดงานครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2543 ระหว่างเวลา 08.30 น. — 18.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน เวลา 09.00 น.- 09.15 น. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ไทยมีต่อภูมิภาคลาตินอเมริกา และความตั้งใจจริงในการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงลึกด้านการค้าและการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ร่วมงานฯ ไว้ 5 กลุ่ม ได้แก่ ตัวแทนจากภาครัฐ ตัวแทนจากภาคเอกชน ตัวแทนจากภาคการศึกษา ตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ และสื่อมวลชน

วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ คือ เพื่อพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองภูมิภาคในภาครัฐ เอกชน และการศึกษา พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ทางการค้าการลงทุน สำหรับการวางแผนงานและพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันต่อไปในอนาคต เพื่อกระตุ้นความสนใจ ความรู้ ความเข้าใจทางทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดเสรีทางการค้า และความเป็นไปได้ในการทำการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา และสื่อมวลชน เพื่อร่วมกันหาแนวทางในเปิดตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมในการทำการค้าการลงทุนระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อเตรียมความพร้อมกับการเปิดเสรีทางการค้าโลกในระดับภูมิภาคและระดับประเทศระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

การประชุมสัมมนาฯ จะแบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ 1 ผู้นำทางด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนจากทั้งฝั่งลาติน-อเมริกา และอาเซียน จะมาเปิดเผยถึงนโยบายทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาค และแนวโน้มทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ส่วนที่ 2 ผู้เชี่ยวชาญทางนโยบายการค้าเสรีจากทั้งอาเซียนและลาติน-อเมริกา จะมาให้มุมมองถึงการปรับใช้FTA กับการพัฒนากลยุทธ์การค้า พร้อมกับโอกาสและอุปสรรคที่สามารถเกิดขึ้นในการทำการค้าระหว่างสองภูมิภาค ส่วนที่ 3 การให้ความรู้ศักยภาพทางการลงทุนระหว่างสองภูมิภาค ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม และส่วนที่ 4 นักธุรกิจชั้นนำผู้ผ่านประสบการณ์ทางการค้าระหว่างสองภูมิภาคจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการพัฒนาธุรกิจการศึกษา โดยจะเน้นถึงวิธีรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่เหมาะสมของการเปิดตลาดในลาติน — อเมริกา และกลยุทธ์ในการแข่งขันเพื่อเพิ่มการขับเคลื่อนทางการค้า

“การจัดสัมมนาใสครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศลาติน-อเมริกา จำนวน 7 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา เม็กซิโก ปานามา คิวบา บราซิล ชิลี และเปรู กระทรวงการต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย ASEAN Foundation และธนาคาร Inter-American Development Bank (IDB) นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท Hunton&Williams ประจำสำนักงานกรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บริษัทเบทาโกร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัทสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทโอสถสภา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทแอร์โรคลาส จำกัด บริษัทง่วนสูน จำกัด บริษัทสแปน มารีน จำกัด บริษัท Kovic Kate (international) จำกัด และบริษัทไท้เฮง แมชชีนนารี จำกัด โดยคาดว่า การสัมมนาในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างสองภูมิภาคนี้มากขึ้น บนพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน สร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างสองภูมิภาค ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนกิจกรรมและความร่วมมือด้านสังคม วัฒนธรรม และการศึกษาระหว่างสองภูมิภาคมากขึ้น และยังเป็นการแลกเปลี่ยน เผยแพร่ความเรู้ในด้านต่างๆ ระหว่างสองภูมิภาคมากขึ้นในทุกระดับได้แก่ ระดับรัฐ ระดับองค์กร ระดับธุรกิจ และ ระดับประชาชน” นางนันทวัลย์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.utcc.ac.th/latinforum

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ