SMEs - Contribution to Thai SMEs for Strengthening Thai Economy หวังสร้างผู้ประกอบการ SMEs ไทยลุยตลาดโลก
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในงานสัมมนา Symposium for Thai SMEs - Contribution to Thai SMEs for Strengthening Thai Economy ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ภายในงานนางพรทิวาเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิประโยชน์ การเจาะเข้าสู่ตลาดใหม่โดยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างไทยกับญี่ปุ่น และการศึกษาให้ทราบถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในกลุ่มประเทศ AEC เพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงในกรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรีของโลกยุคปัจจุบัน และศึกษาความเป็นไปได้ที่ไทยกับญี่ปุ่นจะเป็นหุ้นส่วนกัน และบุกเจาะเข้าสู่ตลาดของประเทศที่ 3 ด้วยกัน SMEs หรือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจของไทย ซึ่งมีจำนวนมากถึงประมาณร้อยละ 99 ของธุรกิจทั้งหมด จึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นฐานรากการพัฒนาที่ยั่งยืน และยังเป็นกลไกหลักในการฟื้นฟูและเสริมสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ โดยมูลค่าการส่งออกของ SMEs ไทยไปยังตลาดโลก 5 อันดับแรก ได้แก่ ตลาดอาเซียน ตลาดญี่ปุ่น ตลาดสหรัฐอเมริกา ตลาดฮ่องกง และตลาดจีน
“การเปิดเสรีสินค้าระหว่างไทยกับประเทศภาคีภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีได้มีส่วนช่วยให้สินค้าไทยสามารถเข้าสู่ตลาดของประเทศคู่เจรจาได้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN Economic Community: AEC) นอกจากอาเซียน จะเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไทยแล้ว ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนยังมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ใช้อาเซียนเป็นฐานการผลิตร่วม เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาคอาเซียน และพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนอย่างยั่งยืน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การบริการ แรงงาน และเงินทุน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป จึงเป็นที่คาดว่า จะทำให้มูลค่าสินค้าส่งออกของไทยไปยังประเทศคู่ค้าสามารถขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น
และตลาดญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของ SMEs ไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญและเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA ทำให้ทราบว่ามูลค่าการค้าระหว่างไทยและญี่ปุ่นมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ข้อตกลงได้มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 โดยในปี 2552 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 1,396,257 ล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นางพรทิวา กล่าวเพิ่มเติม
ที่มา: http://www.depthai.go.th