1. โครงสร้างอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจัดเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์มาก เป็นทั้งผู้ผลิต/ส่งออก และผู้นำเข้า จากการที่สวิสมีชื่อเสียงจากช่างฝีมือที่มีความชำนาญด้านการเจียรนัย การตกแต่งและออกแบบเครื่องประดับและการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้มีงานแสดงสิน ค้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคืองาน BASELWORLD จัดขึ้นในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ — มีนาคม เป็นประจำทุกปี ในปี 2552 สวิสส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับรวม 10,265 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็นสินค้าออกที่สำคัญอันดับที่ 7 เป็นสัดส่วนร้อยละ 5.83 ของสินค้าส่งออกทั้งหมด
2. การผลิตและการส่งออก
ในเดือนม.ค. — ส.ค. 2553 สวิสส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมูลค่า 9,734.08 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอันดับที่ 4 เป็นสัดส่วนร้อยละ 7.75 ของมูลค่าสินค้าส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.47 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฮ่องกง เยอรมนี สหรัฐ ฝรั่งเศส อิตาลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น และ จีน
3. การนำเข้า
สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับยังจัดเป็นสินค้านำเข้าหลักของสวิส ในเดือนม.ค. — ส.ค. 2553 สวิสนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับ 10,052.70 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเป็นสินค้านำเข้า อันดับที่ 3 คิดแป็นร้อยละ 9 ของสินค้าที่สวิสนำเข้าทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.76 จากช่วง เดียวกันของปีก่อน
สวิสนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับ หลักจากประเทศเวียตนาม สหรัฐ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส ฮ่องกง โดยสวิสนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยจัดเป็นอันดับที่ 24
4. การส่งออกสินค้าของไทยไปสวิตเซอร์แลนด์ ม.ค. — ก.ค. 2553
สวิสยังคงจัดเป็นตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดของไทยในช่วงเดือน ม.ค.- ส.ค. 2553 ไทยส่งออกสินค้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปสวิสเป็นอันดับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 30.91 ของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ไทยส่งออก
ระหว่าง ม.ค.- ส.ค. 2553 สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอันดับที่ไทยส่งออกไปสวิสมากที่สุดคือทองคำ มีมูลค่า 2,007.08 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 คิดเป็นร้อยละ 53.03 ของทองคำที่ไทยส่งออกทั้งหมด
สินค้าส่งออกสำคัญอื่นๆ ที่ไทยส่งไปสวิสได้แก่ เครื่องประดับแท้ที่ทำด้วยทองมูลค่า 55.51 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 22.16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552) เพชร มูลค่า 26.48 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2) พลอย มูลค่า 20.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 21.77) และเครื่องประดับแท้ที่ทำด้วยเงิน มูลค่า 2.22 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.61)
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต
ที่มา: http://www.depthai.go.th