ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางพรทิวา นาคาศัย ที่ให้หน่วยงานในกระทรวงฯ มุ่งทำงานเชิงรุกและใช้โอกาสทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือทางการค้าระดับประเทศ และระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AEC, ASEAN+3, ASEAN+6, ฯลฯ และการใช้การตลาดสมัยใหม่ เช่น การตลาดออนไลน์และ ออฟไลน์ ควบคู่กันไป เพื่อเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเจาะตลาดและเข้าถึงลูกค้าต่างชาติให้ได้มากขึ้นและเร็วขึ้น
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ทำงานเชิงรุก มุ่งเป็นผู้นำการตลาดสมัยใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและการตลาดออนไลน์เป็นเครื่องมือ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกและเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในโลกการค้าเสรีในปัจจุบัน โดยอธิบดี นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ได้มอบหมายให้สำนักสารสนเทศการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มงานบริหารพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินโครงการ E-Commerce เพื่อเพิ่มศักยะภาพผู้ส่งออกไทยไปยังตลาดโลก ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้วบางส่วนเช่น ทำการศึกษาวิเคราะห์ระบบการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อหาจุดเด่น จุดด้อยของแต่ละ E-Market Place เพื่อหาแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งหนึ่งในแนวทางการดำเนินงานที่เป็นปัจจัยความสำเร็จคือการมีเครือข่ายพันธมิตรออนไลน์ ที่มีศักยะภาพ และปฏิเสธไม่ได้ว่า เว็ปไซต์ B2B อันดับหนึ่งของโลกตอนนี้ก็คือ Alibaba.com
Alibaba.com เป็นเว็ปไซต์ที่มีสมาชิกผู้ซื้อผู้ขายในรูปแบบการค้า B2B อยู่มากกว่า 12 ล้านคน 80-90% เป็นผู้ซื้อที่มีศักยภาพมากกว่า 240 ประเทศทั่วโลก มีสินค้าประกาศขายอยู่เป็นล้านรายการ ภายใต้การจัดกลุ่มสินค้าที่มีมากมายหลากหลายถึง 5,300 ชนิด ซึ่งแน่นอนว่าการได้เป็นพันธมิตรกับเว็บไซต์ Alibaba.com นี้จะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้มากขึ้น กรมส่งเสริมการส่งออก จึงได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ณ เมืองฮ่องกง พร้อมผู้แทนจากสำนักสารสนเทศการค้าระหว่างประเทศ เข้าพบหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Alibaba.com ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และแนะนำโครงการ E-Commerce ของกรมฯ พร้อมทั้งหาแนวทางความร่วมมือ ซึ่งผลการเจรจามีแนวโน้มที่ดีมาก ที่กรมส่งเสริมการส่งออกและ Alibaba.com จะร่วมมือกันต่อไปในอนาคตอันใกล้
สำนักสารสนเทศการค้าระหว่างประเทศ
ที่มา: http://www.depthai.go.th