ตลาดรถยนต์อินเดียเติบโตปีละ 25% โดยมีซูซูกิเป็นผู้นำตลาดตลาดกาล ตามติดมาด้วยฮุนได ส่อแววธุรกิจส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไทยมีโอกาสรุ่งในตลาดนี้
นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนเปิดเผยว่า เดือนพฤษภาคาที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกของรถยนต์มารูติซูซูกิของอินเดียที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 1 แสนคันต่อเดือน และถือเป็นครั้งแรกของตลาดอินเดียด้วย นอกจากนั้นมารูติซูซูกิยังทำลายสถิติที่ตนเองทำไว้เมือเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ที่ยอดขาย 96,650 คัน รถที่ติดอันดับยอดนิยมขายดีเป็นรุ่น Alto, Swift, DZire และEeco ส่วนตลาดมอเตอร์ไซค์ ฮีโรฮอนด้าก็สามารถทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4.36 แสนคันต่อเดือน ทุบสถิติของตนเองที่เคยทำไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2552 ที่ระดับ 4.15 แสนคัน สะท้อนถึงเศรษฐกิจอินเดียที่ฟื้นตัวแล้ว
เป็นที่คาดว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์อินเดียจะยังคงรักษาระดับนี้ไว้ได้ตลอดไตรมาสแรกของปีนี้ (เมษายน —มิถุนายน)โดยมีมารูติซูซูกิเป็นผู้นำตลาดมียอดขายในอินเดีย 90,041คัน (พ.ค. 52) และมียอดการส่งออก 12,134 คัน (พ.ค. 52) ส่วนฮุนไดคู่แข่งตลอดกาลของมารูติซูซูกิมียอดขาย 46,808 คัน(พ.ค. 52) ขยายตัว 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า การส่งออกลดลง 2% ด้วยยอดขาย19,657 คัน(พ.ค. 52) ขณะที่การขายในประเทศขยายตัว 15% ด้วยยอดขาย 27,151 คัน สาเหตุสำคัญเนื่องจากยอดขายในอินเดียดีเกินคาดทำให้ฮุนไดจำเป็นต้องจำกัดการส่งออกลง ขณะที่ฮุนไดมีข้อจำกัดเรื่องการหยุดการผลิตในช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อการซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปี ส่วนยอดขายของทาทามอเตอร์ในเดือนมี.ค. 52 ก็เพิ่มขึ้นถึง 39 % ด้วยยอดขาย 21,326 คัน สำหรับรถจักรยานยนต์ก็ขายดีทุกยี่ห้อเช่นกันไม่ว่าจะเป็นฮอนดา บาจ๊าจ ทีวีเอส ยามาฮ่า หรือมาหินดรา
อุตสาหกรรมยายนต์อินเดียมีแนวโน้มต้องนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เติบโตตามอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ทัน ส่งผลให้มีการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสให้กับชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเข้าไปทำตลาดได้มากขึ้น อีกทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ยังเป็นสินค้าที่อยู่ในบัญชีลดหย่อนภาษีของ FTA อาเซียน-อินเดียด้วย จึงคาดว่าปี 2553 จะเป็นปีทองของการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไทยไปอินเดีย
ที่มา: http://www.depthai.go.th