นาย Pedro Alejandro Diaz Hartz ประธานสภาข้าวของเม็กซิโก (Comite Nacional del Sistema Producto Arroz) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 เรียกร้องให้มีการควบคุมการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศในประเทศเม็กซิโก รวมทั้งการกำหนดราคาของ ปัจจัยการผลิตที่เป็นธรรมแก่เกษตรกรเม็กซิโก เพื่อส่งเสริมให้มีการผลิตข้าวในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ
นาย Pedro ได้กล่าวว่า ผู้ผลิตข้าวภายในประเทศเม็กซิโกในปัจจุบัน ที่มีอยู่ประมาณ 5,000 ราย เป็นจำนวนที่ลดลงจากผู้ผลิตประมาณ 25,000 รายที่เคยทำการผลิตเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศเม็กซิโกมีความต้องการบริโภคข้าวประมาณปีละ 800,000 ตันต่อปี แต่ ความสามารถในการผลิตข้าวในปัจจุบันมีเพียงประมาณ 300,000 ตัน ทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกข้าวมีมากเพียงพอ เช่น ในเขตรัฐ Veracruz, Campeche และ Chiapas เป็นต้น พื้นที่การเพาะปลูกข้าวในเม็กซิโกนับวันจะลดลง และเมื่อปีทีผ่านมา ทั้งวิกฤตการณ์ทางการเงินและสภาวะอากาศได้บีบให้มีเกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวน้อยลงถึง 24,000 เฮ็กตาร์ จึงมีความเสี่ยงสูงสำหรับการผลิตข้าวภายในประเทศที่อาจจะหาย สาปสูญไปในวันข้างหน้า
นาย Pedro ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาลเม็กซิโกไม่ได้ใส่ใจต่อการควบคุมและดูแลการนำเข้า เป็นเหตุให้มีการลักลอกการนำเข้าข้าวและถั่ว โดยร้อยละ 75 ของข้าวที่นำเข้ามาในเม็กซิโกโดยความเห็นชอบของกรมสรรพกร เป็นการนำเข้าที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของรัฐ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เม็กซิโกมีความสามารถในการผลิตข้าวได้อย่างเพียงพอกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ แต่การเปิดตลาดการนำเข้าโดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ได้มีผลกระทบต่อความสามารถในการผลิต และได้ทำลายระบบการเชื่อมโยงที่ควรมีระหว่างผู้ผลิดภายในประเทศกับตลาดผู้บริโภค จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่รัฐบาลของเม็กซิโกต้องหันมาใส่ใจดูส่งเสริมการผลิตข้าวภายในประเทศมากขึ้น
แหล่งข้อมูล: World Trade Atlas
แหล่งข่าวอ้างอิง: http://www.jornada.unam.mx/2010/11/03/index.php?section=economia&article=026n1eco
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th