สถานการณ์สินค้ายานยนต์และยางรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น เดือนตุลาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 12, 2010 15:09 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ความเคลื่อนไหวที่สำคัญในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่น

ยอดขายรถยนต์จากบริษัทนิสสัน ลดลงกว่าร้อยละ 30 หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกการให้มาตรการสนับสนุนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 ที่ผ่านมา แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะมิได้อยู่เหนือความคาดหมายจากฝ่ายการตลาดก็ตาม แต่ตัวเลขการจำหน่ายซึ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2553 เนื่องจากผู้บริโภครีบซื้อรถยนต์ใหม่ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลจะสิ้นสุดลง ทำให้ยอดจำหน่ายเดือนต่อมาปรับตัวลงมาอย่างน่าตกใจ อย่างไรก็ตามนิสสันจะได้วางตลาดรถแวนเล็ดยอดนิมรุ่น เซเรน่า ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตัวเลขต่างๆของนิสสันปรับตัวสูงขึ้น

ความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทย

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกที่ได้มีสัมพันธภาพกันมาเป็นเวลานานอย่างบริษัทมาสด้า มอเตอร์ จากประเทศญี่ปุ่นและฟอร์ดจากสหรัฐอเมริกา ใกล้จะยุติลงเมื่อฟอร์ดตัดสินในที่จะขายหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทมาสด้าให้กับกลุ่มซูมิโตโม และลดอัตราส่วนการครอบครองหุ้นจากร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 3 ของหุ้นมาสด้าทั้งหมด นับเป็นการปรับเปลี่ยนอัตราครอบครองหุ้นที่ลงลงมากจากเดิมที่เคยถือครองถึงร้อยละ 33.4 ในปี 2539 ฟอร์ดเลือกที่จะเดินออกมาจากมาสด้าเนื่องจากปัญหาวิกฤตการทางการเงินของตนเอง ขณะที่มาสด้าเองก็ได้ปรับปรุงการผลิตและการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆให้สามารถใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทดแทนกันได้ เพื่อสามารถปรับลดต้นทุนการผลิตได้โดยง่าย และตัดสินใจที่จะไม่ร่วมพัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริดสำหรับรถยนต์ที่จะวางจำหน่ายในปี 2554 กับฟอร์ด แต่หันไปร่วมมือวิจัยกับโตโยต้าแทน

สำหรับการแยกทางของผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง 2 รายนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานประกอบรถยนต์ของมาสด้า-ฟอร์ดในประเทศไทยแต่อย่างใด เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทได้ตัดสินใจที่จะคงการร่วมทุนและผลิต/ประกอบรถยนต์ในประเทศไทยต่อไป ซึ่งต่างกับสถานการณ์ในประเทศจีนซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ยื่นเรื่องต่อทางการจีนเพื่อดำเนินการแยกบริษัทออกจากกันแล้ว

มาสด้าตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดของตนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 หรือเป็นจำนวนการผลิต 1.7 ล้านคัน/ปี ภายในปี 2015 ซึ่งนับเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมากสำหรับมาสด้าเนื่องจากแม้แต่รถยนต์เฟี้ยตจากประเทศอิตาลีซึ่งมียอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวมอยู่ที่อันดับ 10 ของโลกยังมียอดจำหน่ายรถยนต์รายปีถึง 2.5 ล้านคัน

โตโยต้าจะเริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์โตโยต้ารุ่นพรีอุส และจำหน่ายในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งประเทศไทยกำลังจะเป็นประเทศลำดับที่สามนอกเหนือจากญี่ปุ่นและจีนที่โตโยต้าเลือกที่จะใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ ทางบริษัทตั้งเป้าหมายการขายในปีแรกระหว่าง 8,400- 12,000 คัน มีราคาจำหน่ายข้างต้นราว 1.3 ล้านบาท ส่วนประกอบหลัก อาทิ แบตเตอรี่ มอเตอร์ ยังคงต้องนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแต่เป็นการนำเข้าโดยปราศจากภาษี ตามข้อตกลงการค้าร่วมไทย-ญี่ปุ่น และในเดือนมกราคม 2554 นี้ กลุ่มประเทศผู้ก่อตั้งประชาคมอาเซียนจะได้บังคับใช้การงดเว้นการเก็บภาษีรถยนต์ระหว่างกันโดยจำกัดว่าร้อยละ 40 ของชิ้นส่วนรถยนต์จะต้องผลิตภายในประเทศ โตโยต้าพรีอุสจากประเทศไทยย่อมเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจในตลาดปี 2554 อย่างแน่นอน

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นคร โอซากา

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ