แกะกล่องของขวัญปีใหม่แขก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 15, 2010 11:13 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ แต่ที่แน่ๆ จะดูพฤติกรรมการบริโภคของชาวโรตีต้องไปดูช่วงดิวาลีปีใหม่แขก ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 ที่แขกช้อปกันอย่างดุเดือดทั้งประเทศอินเดีย เชื่อหรือไม่ว่ายอดขายของทุกบริษัทช่วงดิวาลีมีสัดส่วนถึง 35% ของยอดขายตลอดทั้งปีเลยทีเดียว แต่ปีนี้น่าจะสูงกว่านั้นมาก

ช่วงปลายฝนต้นหนาวของอินเดียมีเทศกาลมากมาย อาทิ เช่น นวราตรี ธุรคาบูชา วันพระลักษมี และวันดิวาลี วันนี้เราจะไปแอบดูว่าแขกเขาซื้อของขวัญอะไรกันบ้างในเทศกาลดิวาลีนี้

1. เผาเทียนเล่นไฟ ตั้งแต่เดือนตุลาคมยาวไปถึงวันดิวาลี บรรดาแขกจะออกมาเผาเทียนเล่นไฟหน้าบ้านกันทุกคน อย่างน้อยที่สุดก็เป็นประทัดยักษ์ตับใหญ่ 5 เส้นเป็นอย่างน้อย นอกจากนั้นก็มีสินค้าอื่นๆ ก็ขายดีเช่นกัน พลุและประทัดเป็นสินค้ายอดนิยม แต่ชาวโรตีจะฉลองกันสนุกยิ่งขึ้นถ้าผู้ประกอบการไทยเข้าไปร่วมแจมด้วย และส่งสินค้าแจ่มๆ ไปขายประเภท พลุ พลุดาวกระจาย พลุเสียง ตะไล ไฟพะเนียง สายธาร อักษรสวรรค์ พลุร่ม พลุฟ้าลั่น พลุร่ม ควันสี พลุสายรุ้ง ตะไลติดร่ม ลูกหนูหวีด บั้งไฟหางเล็ก โคมลม โคมไฟ โคมยี่เป็ง บั้งไฟหาง พลุเอฟเฟคหน้าเวที พลุชุด พลุเค้ก และดอกไม้ไฟ น่าจะดีไม่น้อย เพราะแขกนั้นเผาเทียนเล่นไฟกันไม่เกรงใจอาม่ากันเลย

2. ไฟคริสต์มาส ไฟระย้า ไฟประดับ โคมไฟ ก็ขายดีมาก

3. รถยนต์ รถยนต์ทุกค่ายมียอดขายพุ่งกระฉูดสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 53% เมื่อเทียบกับดิวาลีปีก่อน โดยเฉพาะผู้นำตลาดอย่างมารูติซูซูกิขายได้ถึง 1.19 แสนคัน นับเป็นยอดขายสูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมา

4. มอเตอร์ไซค์ ก็ขายดีเช่นกัน ยอดขายในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 1 ล้านคันในการขายเพียงเดือนเดียว ผู้นำตลาด 3 รายได้แก่ ฮีโร่-ฮอนดา บาจาจ และทีวีเอส ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้ยอดขายเพิ่มขึ้น 35%

5. สินค้าคงทน (durable goods) เช่น ตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี ต่างก็ขายดี โดยมีการขยายตัวประมาณ 24-40% สำหรับโซนีได้เทสินค้ารุ่นใหม่แกะกล่องป้ายแดง 3D Bravia, Cyber-Shot digital cameras, home theatre systems, Blu-ray players และ PlayStation ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในภาพรวมทีวี LCD และLED ดิวาลีปีนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 100% เลยทีเดียว

6. ของหวานและขนมขบเคี้ยว ขายดีมากกว่าทุกปี จนทำให้หลายบริษัทขายจะเกลี้ยงสต๊อกกันเลยทีเดียว โก๋แก่ ทองการ์เด้น ถั่วเจดีคู่ และสเน็คของไทยน่าจะลองไปทำตลาดกันดู

7. อัญมณีและเครื่องประดับ ร้านทองและร้านเพชรจะมีคนแน่นร้านเป็นปลากระป๋องแทบทุกร้าน ใครมีทองสวยๆ น่าจะลองไปขายแขกช่วงปีใหม่ดิวาลีนี้ เพราะสาวแขกชอบทองมากที่สุดโดยคิดเป็นมาร์เก็ตแชร์ถึง 90% ของตลาดเครื่องประดับเลยทีเดียว

8. อาหาร แน่นอนงานเฉลิมฉลองจะขาดอาหารไม่ได้ บรรดาร้านอาหารไทยช่วงนี้จะขายดีเป็นพิเศษ นอกจากนั้นก็จะเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปของไทย อาทิเช่น Lobo, รอยไทย ชาวเกาะ เส้นหมี่ไวไว ฯลฯ ก็ขายกันเกลี้ยงร้าน เพราะกระแสความนิยมอาหารไทยมีสูงมากในอินเดีย

9. เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ไม้อัด และไฟเบอร์บอร์ด —คนอินเดียนิยมซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ช่วงดิวาลี สมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทยได้ไปสำรวจตลาดมาแล้ว และเห็นว่าตลาดอินเดียมีศักยภาพสูงไม่แพ้ตลาดจีนเลย บรรดาแขกทั้งหลายแย่งกันซื้อไม้ยางพาราไทยเหมือนกันแย่งของฟรีเลยทีเดียว

นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนกล่าวว่า ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคมีสูงขึ้น โดยสถาบัน Nielsen Global Consumer Confidence Study ได้แถลงว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2553 สูงถึงระดับ 129 เพิ่มจากเดือนมกราคม 2552 ที่อยู่ที่ระดับ 99 นอกจากนั้นยังมีปัจจัย 5 ด้านที่เกื้อหนุนให้ดิวาลีปีนี้ของขายดีเป็นพิเศษ ได้แก่

1. รายได้เพิ่มขึ้น ในปีนี้ผลประกอบการของทุกภาคส่วนเศรษฐกิจล้วนมีการขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ ภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโต 8% ภาคเกษตรขยายตัว 5% ภาคบริการและ IT ก็มีผลการประกอบการดีเช่นกัน เป็นผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น เงินเดือนและโบนัสก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ประชาชนต่างมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นโดยถ้วนหน้า

2. ผลจากความมั่งคั่ง เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น ความมั่นใจในการจับจ่ายก็มีมากขึ้นเช่นกัน การตัดสินใจซื้อก็เร็วขึ้น รูดปื้ดๆ กันอย่างไม่ต้องเกรงใจแม่บ้าน ราคาที่พักอาศัยปรับตัวสูงขึ้นในทุกๆ เมือง ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 25% Nielsen Global Consumer Confidence Study กล่าวว่าคนชั้นกลางและชั้นกลางระดับบนของอินเดียกว่า 83% ของกลุ่มศึกษากล่าววว่า สถานะทางการเงินของพวกเขาอยู่ในระดับ “ดี” และ “ดีเลิศ” ส่งผลให้มีการจับจ่ายซื้อหาสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้นกว่าเดิม

3. อั้นมานานในช่วงปี 2008-2009 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก ทำให้ระดับความมั่นใจของการบริโภคของคนอินเดียตกต่ำ งานหายาก เงินเดือนไม่ขึ้น โบนัสน้อย บางคนตกงาน ดอกเบี้ยงเงินกู้สูง ชาวโรตีต้องรัดเข็มขัดกันสุดๆ แต่มาบัดนี้เศรษฐกิจอินเดียกำลังเป็นขาขึ้น นักการตลาดส่วนใหญ่เห็นว่าในเทศกาลอื่นๆ ของอินเดียที่กำลังจะมาถึง เช่น คริสต์มาส ปีใหม่ ปงกอล และอูกาดี ยอดขายสินค้าก็น่าจะดีไม่แพ้ดิวาลีเช่นกัน

4. BRIC เฟื่องฟู ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ (รวมทั้งสหรัฐและญี่ปุ่น) ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แบรนด์ดังระดับโลกจึงต่างหันไปลงทุนในประเทศ BRIC มากขึ้น เช่น อินเดีย เพื่อรักษาการเติบโตและความมั่นคงของธุรกิจในประเทศเหล่านี้ที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปีนี้จึงได้เห็นปรากฎการณ์การขยายการลงทุนของแบรนด์ดังระดับโลกจำนวนมากในอินเดีย อาทิเช่น มีบริษัทนาฬิกายี่ห้อดังกว่า 50 รายได้เข้าไปขยายการลงทุนและการตลาดในอินเดียอย่างคึกคัก ได้แก่ Swatch, Timex และ Seiko สำหรับมารูติซูซูกิ ก็เพิ่มการขายในประเทศเป็น 90% เหลือส่งออกเพียง 10% ขณะที่ฮุนไดก็ปรับลดการส่งออกลงถึง 22% และหันมาจับตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน

5. ความมั่นคงทางการเมือง ในปี 2553 นี้เป็นปีที่การก่อความไม่สงบมีน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นกบถเหมา หรือกลุ่มแบ่งแยกดินเดนกาเรงตานาก็มีความเคลื่อนไหวน้อยกว่าปีอื่นๆ ทำให้ผู้บริโภคมีความั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

ในขณะที่เศรษฐกิจของอินเดียกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น กรมส่งเสริมการส่งออกจึงไม่ได้รอช้า โดย ในปี 2554

กรมส่งเสริมการส่งออกโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนจะใช้กลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น อาทิเช่น การจัดงาน Thailand Trade Exhibition 2011 ที่เมืองเจนไน ช่วงเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 100 ราย เข้าร่วมงาน India International Leather Fair 2011 ช่วงเดือนมกราคม 2554 เนื่องจากเจนไนเป็นฐานใหญ่ในการผลิตเครื่องหนังและรองเท้าของอินเดีย นอกจากนั้น สำนักงานฯ จะเข้าร่วมงาน Interior & Exterior Show (13-16 มกราคม 2554), Global Home Produx Expo 2011 (25 -27 มีนาคม 2554), India International Build Expo 2011 (1-3 กรกฎาคม 2554) เพื่อเปิดแนวรบใหม่ๆ ให้กับสินค้าไทย

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ