เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 17, 2010 10:20 —กรมส่งเสริมการส่งออก

“ยึดคนเป็นที่ตั้ง เปิดกว้าง และผ่อนปรนสำหรับธุรกิจเครือข่ายออนไลน์”

ปัจจุบันเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวันที่นับวันจะขาดไม่ได้ และอินเตอร์เน็ตถือเป็นเครื่องมือสื่อสารในการดำเนินการทางภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ในยุดการสื่อสารไร้พรมแดนที่ต้องการความรวดเร็วในการประกอบการ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้อาศัยระบบอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่วัฒนธรรมและพัฒนาจริยธรรมของคนในชาติ จากลักษณะเฉพาะที่กล่าวมานี้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่เพียงแต่เป็นมิติสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมในระบอบของสังคมนิยมเท่านั้น หากยังเปิดกว้างและมีการผ่อนผันข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงพัฒนาจนเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าของประชาชนในทุกระดับ เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมโดยเฉพาะคนรุ่นหนุ่มสาวได้เป็นอย่างดี

การยึดคนเป็นที่ตั้ง เปิดกว้างและผ่อนปรนสำหรับธุรกิจออนไลน์

ภายหลังจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และเริ่มปฏิรูประบบเศรษฐกิจเป็นต้นมา รัฐบาลจีนมีความพยายามในการพัฒนาทั้งภาคสังคมและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในทิศทางที่หลากหลายภายใต้ลักษณะเฉพาะทางสังคมภายในของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเอง เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการใหม่ภายใต้กรอบของสังคมโลกาภิวัฒน์ การพัฒนาของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าการประมวลผลปริมาณมหาศาล การถ่ายโอนข้อมูลที่ไร้ข้อจำกัด รวดเร็ว และตรงกลุ่มเป้าหมาย มีต้นทุนการบริหารงานที่ต่ำเมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่นๆ ทำให้อินเทอร์เน็ตในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีมานี้ จากการสำรวจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (ม.ค. 53) ปริมาณผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวนสูงถึง 384 ล้านคน เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 30 Baidu (... - ไป่ตู้ / www.baidu.com ) ถือเป็นเว็บเสิร์ชเอ็นจิ้นภาษาจีนและสัญชาติจีน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของประชากรทั่วไปของจีนภายใต้กรอบแนวคิดอนุรักษ์นิยมได้เป็นอย่างดี ไป่ตู้ มีการรวบรวมดัชนีข้อมูลเว็บไซต์ภาษาจีนมากกว่า 2,000 ล้านเว็บไซต์ จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ยอดนิยมทั่วโลกของ Alexa เมื่อเดือน พ.ย. 2009 พบว่าเว็บเสิร์ชเอ็นจิ้นไป่ตู้ อยู่ในอันดับที่ 9 ส่วนภายในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ไป่ตู้ มีสถิติยอดผู้เข้าชมเป็นอันดับที่ 1 อนึ่ง ปริมาณการเสิร์ชหาเว็บไซต์ผ่านไป่ตู้นั้น มีอัตราการเสิร์ชหาอยู่ที่ร้อยละ 74.88 กูเกิ้ลเสิร์ชอยู่ที่ร้อยละ 13.54 และยาฮูเสิร์ชอยู่ที่ร้อยละ 3.94 (ที่มา : ไป่ตู้พีเดีย http://baike.baidu.com/view/262.htm) ภายหลังเมื่อเสิร์ชเอ็นจิ้นสัญชาติอเมริกาอย่างกูเกิ้ลต้องประสบปัญหาเนื่องจากฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการประกอบการอินเทอร์เน็ตของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีการย้ายฐานเครือข่ายไปจดทะเบียน ณ ประเทศฮ่องกง โดยใช้ชื่อ www.google.com.hk นั้น ทำให้เว็บเสิร์ชเอ็นจิ้นไป่ตู้ ครองส่วนแบ่งในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเด็ดขาด จากการเปิดเผยข้อมูลของศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจีน (ซีไอเอ็นไอซี) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2010 พบว่าสถิติการเข้าสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์เสิร์ชเอ็นจิ้นไป่ตู้นั้น สามารถครองส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึงร้อยละ 81.9 ขณะที่กูเกิ้ลมีส่วนแบ่งในตลาดเพียงร้อยละ 6.7 รายงานยังระบุอีกว่า กลุ่มชาวจีนที่นิยมใช้บริการกูเกิ้ลเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้บริการสืบค้นข้อมูลภาษาอังกฤษ และจะใช้บริการไป่ตู้เมื่อต้องการสืบค้นข้อมูลภาษาจีน

ไป่ตู้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม ปี 2000 ภายใต้การนำโดย Mr. Li Yanhong และ Dr. Xu Yong โดยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แน็สแด็กปี 2005 จากลักษณะเด่นที่ไป่ตู้ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาในการค้นหา ไป่ตู้จึงมีความแพร่หลายในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ไป่ตู้สามารถทำกำไรในไตรมาสที่ 3 ของปี 2010 ประมาณ 156.4 ล้านดอลล่าร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 74.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ Mr. Li Yanhong สามารถก้าวเข้ามาอยู่ในทำเนียบมหาเศรษฐีอันดับสองของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ครั้งล่าสุด นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมต่างๆสัญชาติจีนยังได้รับการจับตามองจากผู้บริโภคทั่วโลก อาทิ โปรแกรมสนทนา QQ โปรแกรมดาวน์โหลด Xunlei โปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ต Sogou Exploror โปรแกรมฟังดนตรี Kugou / Kugoo Music โปรแกรมโหลดคลิปต่างๆ YouKu (มีลักษณะคล้าย YouTube) เป็นต้น

เถาเป่า เปิดกว้างธุรกิจออนไลน์ (www.taobao.com) ทางเลือกใหม่ในการทำธุรกิจออนไลน์ในจีน

“เถาเป่า” (... - taobao) เป็นเว็บไซต์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่ก่อตั้งในปี 2003 ภายใต้การบริหารงานของอาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในดินแดนมังกร ในอนาคตอันใกล้นี้ เถาเป่ามีแผนการจะเพิ่มศักยภาพครอบคลุมถึงประเทศญี่ปุ่นด้วย จากสมาชิกกว่า 170 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของประชากรชาวเน็ตในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เป็นทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อในเวลาเดียวกัน จึงถือได้ว่าเว็บไซต์ “เถาเป่า” เป็นเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ในขณะนี้ จากสถิติของเว็บไซต์ มีร้านค้าเปิดใหม่กว่า 5,000 ร้านทุกวัน มีสินค้าให้เลือกซื้อกว่า 300 ล้านชิ้น จากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ร้านค้ารายย่อย และรวมไปถึงสินค้าไฮเอนด์ แบรนด์เนมจากทั่วโลก โดย “เถาเป่า” มียอดการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ในปี 2009 กว่า 208,300 ล้านหยวน (หรือประมาณ 1,041,500 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 80 ของการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซทั้งหมดของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

การที่จีนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งโรงงานของโลก ที่ผลิตตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ไปจนถึงเครื่องบินโบอิ้ง เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ ซึ่งจีนมีความได้เปรียบด้านแรงงานที่มีราคาถูก และมีเครือข่ายธุรกิจขนส่งสินค้าที่สะดวกและหลากหลาย จึงเป็นแรงจูงใจในการลงทุนจากภายนอก ในปัจจุบันการประกอบธุรกิจในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เน้นความสะดวกและรวเร็ว โดยธุรกิจขนส่งสินค้ารายย่อยของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่า UPS กับ DHL เนื่องจากมีอยู่ทุกหัวมุมถนน สามารถรับส่งสินค้าในเวลาอันรวดเร็ว โดยใช้ยานพาหานะตั้งแต่เครื่องบินจนถึงจักรยานไฟฟ้า ซึ่งสามารถรับประกันการส่งอาหารสดถึงที่หมายภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ทั้งนี้ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงต้องพึ่งพา "เทคโนโลยีของโลกออนไลน์" เป็นแรงผลักดันทางธุรกิจ ในมุมมองของผู้ประกอบการ “เถาเป่า” เปิดให้บริการซื้อปลีกในจำนวนสินค้าตั้งแต่หนึ่งชิ้นจนถึงการขายส่งของปริมาณสินค้าจำนวนมากๆ โดยผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค้าขนส่งเอง ซึ่งบางครั้งสามารถต่อรองกับผู้ประกอบการได้และสามารถเลือกรูปแบบการขนส่งที่หลากหลายได้เอง จากรูปแบบธุรกิจนี้เองทำให้มีผู้ประกอบการที่ยังเป็นนักศึกษาไปจนถึงนักธุรกิจใหญ่

นอกจากนี้ “เถาเป่า” ยังเสนอรูปแบบการชำระเงิน “ได้ของก่อนจ่ายเงินทีหลัง” ซึ่ง “เถาเป่า” สร้างระบบการชำระเงินออนไลน์ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับระบบ PayPal ของ “เถาเป่า” เองขึ้นมาในชื่อ “อลีเพย์” (Alipay) โดยสามารถเติมเงินผ่านบัตรเติมเงินโทรศัพท์ ไปรษณีย์ บัญชีธนาคาร และบัตรเครดิตผ่านระบบออนไลน์ ปัจจุบันมียอดโอนเงิน 5 ล้านครั้งต่อวัน คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน และถาวร นอกจากพื้นฐานของธุรกิจดังกล่าวแล้ว “เถาเป่า” ยังมีลูกเล่นมากมาย อาทิ วัง วัง (Wang Wang) ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ประกอบการโดยตรง เป็นการเพิ่มความสะดวกและเพิ่มช่องทางสื่อสารกับผู้ขายที่เหนือว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนั้น ยังมีช่องทางติดตามสินค้าออนไลน์แบบเรียลไทม์ เช็คราคาสินค้าบนเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมีการประกวดเพิ่มสีสรรให้กับเว็บไซต์จากบุคคลภายนอก อาทิ การแข่งขันประกวดการออกแบบร้านและระบบตรวจสอบสินค้าของร้าน เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการชำระเงิน “เถาเป่า” ยังได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งชาติจีน เปิดให้บริการบัตรเครดิต (BOC - Taobao Credit Card) โดยวางเป้าหมายหลัก คือ เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการซื้อขายสินค้าด้วยการชำระเงินออนไลน์โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุดต่อการโอนเงินแต่ละครั้งนั่นเอง

อนึ่ง เพื่อเป็นการขยายตลาด และกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย “เถาเป่า” ยังเตรียมขยาย แฟรนไชส์ร้านจำหน่ายสินค้าไปยังแหล่งชุมชน โรงเรียน โดยใช้เครือข่าย WiFi เพื่อเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้ซื้อสินค้ากลุ่มเยาวชน และกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ต ได้แก่ ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีกำลังการซื้อ เป็นต้น โดยพนักงานจะดำเนินการตั้งแต่การขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าจนถึงการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้ซื้อ ข้อดีของร้านค้าชนิดนี้ก็คือ การให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกเหมือนซื้อของในร้านค้าทั่วไปจริงๆ แต่มีราคาที่ถูกกว่า และหากมีปัญหาสามารถนำกลับมาคืนหรือเปลี่ยนที่ร้านได้ทันทีอีกด้วย นอกจากนี้ “เถาเป่า” ยังวางแผนขยายธุรกิจเพื่อรองรับรูปแบบการซื้อสินค้าของชุมชนที่มีแนวโน้มขยายตัวเป็นชุมชนสมัยใหม่ด้วยการทุ่มเงินกว่า 6,800 ล้านบาท เพื่อสร้างห้างสรรพสินค้าชื่อ “เถาเป่า ซิตี้” ขนาด 450 เอเคอร์ ณ เมืองหังโจว โดยพื้นที่ชั้นล่าง จัดแบ่งเป็นพื้นที่ของร้านจำหน่ายสินค้า ผู้ซื้อนอกจากจะสามารถซื้อขายในรูปแบบเดิมแล้วยังสามารถเยี่ยมชมสินค้าจริงภายในร้านได้อีกด้วย ส่วนชั้นบนจะเป็นสำนักงานแห่งใหม่ของบริษัทฯ รองรับพนักงานเถาเป่ากว่า 15,000 คน โดยโครงการดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 4 ปีข้างหน้า

จะเห็นได้ว่า “เถาเป่า” สามารถเป็นทางเลือกที่ดีในการเปิดตลาดการลงทุนในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีการวางระบบกลไกการตลาดที่ดี เข้าถึงคนทุกระดับชั้น และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ จึงน่าจะเป็นเป็นอีกหนึ่งลู่ทางการเจาะตลาดและจำหน่ายสินค้าในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนของนักธุรกิจไทยที่น่าสนใจอีกช่องทางหนึ่งในยุคโลกออนไลน์

ข้อมูลสนับสนุน:
  • นิตยสารแม่น้ำโขง ฉบับที่ 102
  • http://www.baidu.com
  • http://www.qq.com
  • http://www.taobao.com
  • http://www.enjoychinese.net/
  • http://www.oknation.net/blog/DeepSky/2010/07/29/entry-2

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ