การมอบรางวัล G-Mark แก่ดีไซน์เนอร์ไทยในปีนี้ เพื่อต้องการแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงการพัฒนาการออกแบบของไทยที่เน้นการใช้วัสดุที่ได้มาจากในประเทศผสมผสานกับภูมิปัญญาของไทยทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมามีกลิ่นอายของธรรมชาติและวัฒนธรรมไทยผสมอยู่
มล.คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก มร.โยชิฮารุ ซาไก ผู้จัดการฝ่าย G-Mark Award สมาคมส่งเสริมการออกแบบของอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (The Japan Industrial Design Promotion Organization-JIDPO) และ มร.Tetsuo SHIBATA ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือทางการค้า เจโทร กรุงเทพฯ (JETRO) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลสินค้าที่มีการออกแบบดี ประจำปี 2553 Good Design Award 2010 (G-Mark) แก่ผู้ประกอบการและดีไซน์เนอร์คนไทยทั้งสิ้น 64 ผลงานจาก 44 บริษัทที่ได้รับรางวัล DEmark 2010 ในประเทศไทย และส่งผลงานเข้าชิงชัยต่อในเวทีระดับโลกพร้อมตัดสินชนะเลิศได้รับรางวัลดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่ประเทศญี่ปุ่น
“รางวัลการออกแบบดี Good Design Awards (G-Mark) คือโครงการที่มุ่งเน้นการประเมินผลและการส่งเสริมด้านการออกแบบ ของสินค้า ภายใต้การจัดการโดย สมาคมส่งเสริมการออกแบบของอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (JIDPO) ต้นแบบการจัดการของรางวัลดังกล่าว คือ ระบบการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบดีเด่นหรือที่รู้จักกันใน G-Mark Award ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1975 โดย กระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการออกแบบคือปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาของคนญี่ปุ่นในช่วงที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ รางวัล Good Design Award เกิดขึ้นและเป็นที่รู้จักไปพร้อมๆ กับชีวิตความเป็นอยู่และการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นของคนญี่ปุ่น สินค้าที่ได้รับรางวัล G-Mark นั้นมีหลากหลายประเภทและที่ผ่านมา มีผลงานที่ได้รับรางวัลเป็นจำนวนกว่า 35,000 รายและยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง และการมอบรางวัล G-Mark แก่ดีไซน์เนอร์ไทยในปีนี้ เพื่อต้องการแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงการพัฒนาการออกแบบของไทยที่เน้นการใช้วัสดุที่ได้มาจากในประเทศผสมผสานกับภูมิปัญญาของไทยทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมามีกลิ่นอายของธรรมชาติและวัฒนธรรมไทยผสมอยู่” มล.คฑาทอง กล่าวเพิ่มเติม
ส่วนผลงานสินค้าไทยที่ได้รับรางวัล DEmark 2010 และรางวัล G-Mark 2010 ที่ได้นำมาจัดแสดงภายในงาน เช่น ผลงานโคมไฟอ่านหนังสือ Leer — Multi-Angle LED Lamp ของ คุณอนุรักษ์ สุชาติ จากบริษัท Aesthetic Studio จำกัด ทำจากไม้ทั้งชิ้นที่ไร้รอยต่อ เน้นการดีไซน์พิเศษของรูปทรงโคมไฟที่มีมิติหลากหลายด้าน ใช้งานและจัดวางได้หลากหลายตามความต้องการ เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ คือไม้ Veneer ในการผลิต อีกทั้งยังต้องการให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับตัวโคมที่ทำจากไม้โดยการซ่อนสวิตซ์เปิด-ปิดแบบสัมผัสไว้ใต้เนื้อไม้ที่มีความหนาเพียง 1.2 มม. หลอดไฟ LED ที่ให้แสงที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ จึงช่วยถนอมสายตาและสามารถช่วยลดการใช้พลังงานและยืดระยะเวลาการใช้งานอีกด้วย อีกหนึ่งกลุ่มผลงานสินค้าอุตสาหกรรมไทยที่ได้รับความสนใจในด้านนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยีการผลิต คือ Bathroom Design ผู้นำนวัตกรรมการผลิตและออกแบบเครื่องสุขภัณฑ์แถวหน้าของประเทศไทย ได้ส่งผลงาน PEACE อ่างอาบน้ำที่ประหยัดน้ำและสำหรับการใช้งาน 2 คน ด้วยรูปทรงการออกแบบในสไตล์ Minimalism ซึ่งเป็น Trend ในการออกแบบปัจจุบันและอนาคตอีก 3-5 ปี พร้อมระบบน้ำวนและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ ตั้งแต่การติดตั้ง ระบบการทำงานและสั่งงาน อาทิ ระบบ G-Color และ S-Spa เป็นต้น ทำให้อ่างอาบน้ำ PEACE นี้สะดุดตาโดนใจแก่ผู้พบเห็นและคณะกรรมการในงานจนได้รับรางวัลออกแบบดี G-Mark 2010 ที่ประเทศญี่ปุ่น และไม่ต้องสงสัยกับความสำเร็จและการคว้ารางวัลในครั้งนี้จากประเทศญี่ปุ่นมาครองอย่างสวยงาม ของ Bathroom Design ที่ได้คำนึงถึงและใส่ใจในทุกรายละเอียดของความต้องการ ความสะดวกสบาย และชีวิตที่มีคุณภาพของผู้บริโภค กับผลงาน ชุดตรวจจับนิรภัยอัจฉริยะ I-Zecure ชุดราวจับในห้องน้ำที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบ ฟังค์ชันการใช้งาน การเลือกสรรวัสดุในการผลิต และระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่ทำให้ I-Zecure ไม่ใช่ราวจับในห้องน้ำธรรมดา หรือเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งชิ้นหนึ่งในห้องน้ำ แต่สามารถช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุภายในห้องน้ำแก่ผู้บริโภค สุดท้ายในกลุ่มของผลงานด้านแฟชั่นที่สะดุดตา ได้แก่ เครื่องประดับ Secret Eye โดยดีไซเนอร์ได้แรงบันดาลใจจากปัญหาสายตายาวที่ไม่ใช่ปัญหาในชีวิตอีกต่อไปในการใช้ชีวิต Lifestyle คุรสามารถดูดีที่อายุ 40 อย่างที่คุณเป็นอย่างที่คุณต้องการซึ่งผู้หญิงที่มี Lifestyle ที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอและผู้หญิงที่ห่วงบุคลิกและภาพลักษณ์ จะมีปัญหาในการใช้แว้นสายตายาว เราจึกออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างมีศิลปะมีความพิเศษเฉพาะตัว The secret eye เป็นตาวิเศษที่ช่วยให้ผู้หญิงที่เกลียดการใช้แว่นโดยเฉพาะในที่สาธารณะ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นซึ่งแก่ปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันแล้วความจเป็นในการใช้แว่นโดยไม่เสียบุคลิก Laborious อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ
สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนคนไทยที่สนใจเข้าชมผลงานสินค้าไทยที่ได้รับรางวัล DEmark 2010 และรางวัล G-Mark 2010 และพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่บูธแสดงสินค้า DEmark ภายในงาน Bangkok Design Festival Fair 2010 ณ โซน Beacon ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ที่มา: http://www.depthai.go.th