กฏระเบียบการนำเข้ารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ใช้แล้วของประเทศเวียดนาม

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 29, 2010 11:08 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ ได้จัดทำข้อมูลกฏระเบียบเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์กระบะ (pickups) ใช้แล้วของประเทศเวียดนาม และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ จึงขอเผยแพร่ให้ทราบ ดังนี้

1. กฏระเบียบเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์กระบะใช้แล้วของเวียดนาม

ตาม Circular No. 04 / 2006 ลงวันที่ 6 เมษายน 2006 กำหนดกฏระเบียบว่าด้วยการนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วทุกประเภท รวมทั้งรถยนต์กระบะ ดังนี้

(1) รถยนต์ใช้แล้วชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้แก่รถโดยสาร (passenger cars) รถบรรทุกสินค้า ( cargo trucks) รถยนต์กระบะ ( pickups) รถใช้งานพิเศษ(special-use cars) สามารถนำเข้าเวียดนามได้ถ้ารถยนต์ดังกล่าวนั้นมีอายุนับตั้งแต่ ปีผลิตถึงปีนำเข้าไม่เกิน 5 ปี (เช่น ปี 2553 รถที่อนุญาตให้นำเข้าได้ต้องผลิตตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ) กฏระเบียบอื่น ๆ ต้องเป็นไปตามแนวทางของการบริหารจัดการเฉพาะของแต่ละกระทรวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้ารถโดยสารต่ำกว่า 16 ที่นั่งต้องเป็นไปตาม Joint Circular No.03 / 2006 /TTLT — BGTVT-BTV-BCA ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2006 โดยกระทรวงการค้า กระทรวงขนส่ง กระทรวงการคลังและกระทรวงรักษาความปลอดภัยสาธารณะของเวียดนาม

(2) ห้ามนำเข้ายานพาหนะพวงมาลัยขวา(right-hand drive) รวมทั้งแบบแยกเป็นชิ้นส่วนและแบบดัดแปลงพวงมาลัย (converted hand-drive) ก่อนการนำเข้าเวียดนาม ยกเว้นยานพาหนะพวงมาลัยขวาเพื่อใช้งานพิเศษและใช้งานภายในพื้นที่ที่จำกัด เช่น รถเครน(crane trucks) รถขุดคูน้ำ(ditch excavators) รถกวาดถนน(road sweepers) รถสเปรย์น้ำ(water sprayers) รถบรรทุกขยะ(garbage and daily-life waste trucks) รถใช้ในการก่อสร้างถนน(road construction machines) รถโดยสารใช้ในสนามบิน(passenger buses used in airports) รถยกที่ใช้ในคลังสินค้าและท่าเรือ(forklift trucks) ยานยนต์ปั๊มคอนกรีต(concrete-pumping vehicles) และยานพาหนะใช้ในสนามกอล์ฟและสวนสาธารณะเท่านั้น

(3) ห้ามนำเข้ารถยนต์ทุกชนิดที่ได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างจากที่มีการออกแบบเดิมและได้มีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขตัวถัง ( frame number ) หรือหมายเลขเครื่องยนต์ ( engine number) โดยการตัด (chiseling) หรือดัดแปลง ( modified ) ไม่ว่าจะในกรณีใดๆและรูปแบบใดๆ

(4) ห้ามถอดส่วนประกอบรถออกขณะที่ทำการขนส่งและนำเข้า

2. ภาษีนำเข้ารถยนต์ใช้แล้ว

การนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วของเวียดนามต้องเสียภาษี 3 ประเภท ต่อไปนี้

1) ภาษีนำเข้าที่ระบุใน Decision No.23/2008/QD-BTC

2) ภาษีการบริโภคพิเศษ(Special Consumption Tax) ตามกฏหมายภาษีการบริโภคพิเศษเลขที่ 27 /2008 / QH12 วันที่ 14 พฤศจิกายน 2008 รถยนต์ที่มีความจุของกระบอกสูบ 2000cc และต่ำกว่าเสียภาษี 45% รถยนต์ที่มีความจุของกระบอกสูบมากกว่า 2000cc ถึง 3000cc เสียภาษี 50% รถยนต์ที่มีความจุของกระบอกสูบมากกว่า 3000cc เสียภาษี 60% ภาษีการบริโภคพิเศษ = 45%--50%--60% (ราคารถ+ภาษีนำเข้า) ทั้งนี้ ภาษีการบริโภคพิเศษของรถยนต์กระบะประมาณ 15%

3) VAT = 10% (ราคารถ+ภาษีนำเข้า+ภาษีการบริโภคพิเศษ)

ภาษีทั้งหมดที่ต้องจ่าย = ภาษีนำเข้า+ภาษีการบริโภคพิเศษ+ VAT

3. ข้อมูลตลาดรถยนต์กระบะใช้แล้วในประเทศเวียดนาม

ในประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2544 รถยนต์ใช้แล้วมีสัดส่วน 80-90% ของจำนวนรถยนต์ที่นำเข้าทั้งหมด รถกระบะที่ประกอบในประเทศเวียดนามได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและสามารถเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของรถกระบะใช้แล้วที่นำเข้าในตลาด เดิมคนเวียดนามนิยมใช้รถมอเตอร์ไซด์สามล้อเพื่อส่งของเพราะสะดวก ราคาถูกและสามารถเข้าไปในซอยเล็กๆ ได้ แต่ในปี 2550 รัฐบาลได้ออกกฏหมายฉบับใหม่ห้ามมิให้ใช้รถประเภทนี้ คนเวียดนามจึงเปลี่ยนมาใช้รถกระบะแทน ซึ่งจากสถิติก่อนปี 2552 ผู้บริโภคนิยมใช้รถกระบะที่ประกอบในประเทศเวียดนามเพราะราคาใกล้เคียงกับราคารถกระบะใช้แล้วนำเข้า ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเช่น Vinaxuki , Ford Ranger , Isuzu , D-Max , Premio และ Mekong เป็นต้น

ในตลาดเวียดนาม รถยนต์ที่ใช้แล้วเกรดกลางและเกรดสูงส่วนมากนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาและเยอรมัน และบางประเทศที่มีพวงมาลัยขวา(right-hand drive)(แต่น้อยมาก) ราคาจากประเทศที่ส่งออกจาก 10,000-30,000 USD มาถึงเวียดนามจะมีราคาประมาณ 40,000-120,000 USD รถยนต์ที่ใช้แล้วจากตลาดสหรัฐอเมริกาและเยอรมัน มีรูปแบบหลากหลายและเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งมีความได้เปรียบที่มีมาตรฐานคุณภาพสูง โหมดการบำรุงรักษาดี พร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานดี จึงจำหน่ายได้ดีมาก

ปัจจุบันอายุยานพาหนะของเวียดนามลดลงมาก ตามสถิติของVietnam Registry Department ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 ในจำนวนรถยนต์ 1 ล้านคันที่เข้ามาตรวจสภาพ มีอายุต่ำกว่า 10 ปี จำนวน 900,000คัน คิดเป็นสัดส่วน 90% 15 — 20 ปี จำนวน 42,000 คัน คิดเป็นสัดส่วน 4.2 %และรถที่มีอายุมากกว่า 20 ปี จำนวน 58,000 คัน คิดเป็นสัดส่วน 5.8 %

แม้ตลาดรถยนต์เวียดนามจะเป็นตลาดของรถกระบะ เพราะสามารถขนได้ทั้งคนและสินค้าซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคเวียดนาม แต่ปัจจุบันกฏหมายเวียดนามยังไม่เปิดโอกาสให้รถยนต์กระบะใช้แล้วจากประเทศไทยสามารถส่งเข้าไปจำหน่ายในตลาดได้

อย่างไรก็ตาม การที่ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของรถยนต์หลายยี่ห้อ ดังนั้นในช่วงที่เวียดนามยังปิดประตูสำหรับการนำเข้ารถยนต์กระบะมือสอง ทางเลือกในการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปประเภทปิกอัพไปยังเวียดนามจึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีมากกว่า

สคร.นครโฮจิมินห์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ