ภายในระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 เดือน ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์ลงได้เป็นมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท
นางมาลี โชคล้ำเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยหลังจากเป็นประธานในพิธีปิดอบรมโครงการลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับผู้ส่งออกปี 2553 ว่า ปัจจุบันผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวและค่าเงินบาทที่แข็งตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการแข่งขันและอัตรากำไรของสินค้าไทยในตลาดโลก การปรับเพิ่มกำไรด้วยการเพิ่มราคาสินค้าหรือการขยายตลาดทำได้ยากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้การลดต้นทุนการทำธุรกิจ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดต้นทุนได้ โดยการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องเน้นการพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ขององค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดหลักสูตร “การลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับผู้ส่งออก” ในปีนี้เป็นปีที่ 2 โดยมีผู้ประกอบการส่งออกเข้าร่วมโครงการทั้งหมดกว่า 22 ราย และเป็นที่น่ายินดีว่าภายในระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 เดือน ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์ลงได้เป็นมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดต้นทุนจากการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและการลดภาระการเช่าคลังสินค้า ซึ่งเป็นหมวดต้นทุนโลจิสติกส์ที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศไทยรองจากต้นทุนการขนส่ง และการเข้าร่วมโครงการนี้ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้ประกอบการไทยที่ได้เล็งเห็นประโยชน์จากการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทย” นางมาลี กล่าวเพิ่มเติม
ที่มา: http://www.depthai.go.th