การเปลี่ยนระบบการเก็บภาษีของฮังการี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 30, 2010 17:15 —กรมส่งเสริมการส่งออก

เมื่อวันอังคารที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพรรคฟิแดส ได้นำเรื่องการเปลี่ยนระบบการเก็บภาษีเข้ามาเสนอ ซึ่งได้ชนะโวต และผ่านเป็นร่างกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2011 นี้

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงจากการใช้ระบบภาษีเงินได้แบบก้าวหน้า มาเป็นภาษีเงินได้แบบอัตราเดียว เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านหลายๆ ประเทศ

มีการวิจารณ์จากนักการเมืองฝ่ายค้านเป็นอย่างมากว่า ผู้มีรายได้สูงจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมกราคมนี้ ส่วนผู้ที่มีรายได้น้อยจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนครอบครัวที่มีบุตรก็จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการมีจำนวนสมาชิกในครอบครัวสามารถช่วยลดหย่อนการจ่ายภาษีได้

บุคคลธรรมดา

ปัจจุบันภาษีเงินได้แบบก้าวหน้า คิดอัตราร้อยละ 17 และ 32 ของรายได้ ตัวอย่างเช่น การเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ของผู้ที่มีรายได้ประมาณไม่เกิน 200,000 โฟรินท์ (726.27 ยูโร) ต่อเดือนนั้น จะต้องจ่ายภาษีในอัตราร้อยละ 17 ของรายได้ ส่วนผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 5 ล้าน โฟรินท์ (18,168 ยูโร) ต่อปี ต้องจ่ายภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 32 โดยแผนเก็บภาษีแบบใหม่ที่จะถูกปรับเปลี่ยนในเดือนมกราคมนี้ คือ การใช้ภาษีเงินได้แบบอัตราเดียว ซึ่งคิดอัตราร้อยละ 16 เท่าเทียมกันหมด

ในขณะเดียวกัน เงินกองทุนบำเน็จบำนาญของลูกจ้าง จะเก็บเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.5 เป็น ร้อยละ 10 ในปีหน้า นั่นหมายถึงว่า ผู้ที่มีรายได้น้อย จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ยกเว้นแต่ผู้ที่มีบุตร

อย่างไรก็ตาม จากรูปแบบการเก็บภาษีแบบ “Supergross” จากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา จะยังคงใช้อยู่ ซึ่งผู้ที่มีรายได้น้อยจะเริ่มรู้สึกถึงผลกำไรจากการเปลี่ยนระบบการเก็บภาษีนี้ในปี 2012 หมายความว่า ฐานภาษีไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เงินเดือน แต่ขึ้นอยู่กับเงินเดือน บวก เงินกองทุนบำเน็จบำนาญ กับเงินกองทุนประกันชีวิต ซึ่งในขณะนี้อยู่ในอัตราร้อยละ 27 และแผนเก็บภาษีแบบใหม่นี้ จะช่วยลดการจ่ายภาษีลงจากเดิม ได้ถึงครึ่งหนึ่งในปี 2012 และ ปี 2013

เป็นมิตรกับครอบครัว

รัฐบาลแสดงความตั้งใจในการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีบุตร ซึ่งจะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ สำหรับครอบครัวที่มีบุตร 1 — 2 คน สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 750,000 โฟรินท์ (2,728 ยูโร)ต่อปี ต่อบุตร 1 คน ส่วนครอบครัวที่มีบุตรมากกว่า 2 คนขึ้นไป จะหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2,465,000 โฟรินท์ (8,968 ยูโร) ต่อปี ต่อบุตรแต่ละคน

นั่นหมายถึงว่า ครอบครัวที่มีบุตร 1-2 คน จะทำให้มีรายรับเพิ่มขึ้นจากการลดหย่อนภาษีได้ คนละ 10,000 โฟรินท์ (36.38 ยูโร) ส่วนครอบครัวที่มีบุตรมากกว่า 2 คนขึ้นไป จะทำให้มีรายรับเพิ่มขึ้นจากการลดหย่อนภาษีได้ถึงคนละ 33,000 โฟรินท์ (119.94 ยูโร) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในปีหน้า

บริษัท

จากอัตราการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล จากร้อยละ 19 จะปรับลงเป็นร้อยละ 10 เป็นสิทธิพิเศษสำหรับทุกบริษัทที่มีเงินได้ต่ำกว่า 500 ล้านโฟรินท์ (1.81 ยูโร) ต่อปี ตั้งแต่ ปี 2013 เป็นต้นไป อัตราร้อยละ 10 นี้ จะถูกปรับให้ใช้กับทุกบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาค และเพื่อเพิ่มการสร้างงาน

สำหรับภาษี “Crisis Tax” ที่เรียกเก็บจากบริษัทที่มียอดรวมงบดุลมากกว่า 50 พันล้านโฟรินท์ (181.82 ล้านยูโร) เช่น ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจสื่อสาร ธุรกิจพลังงาน และ ธุรกิจขายปลีก โดยเรียกเก็บอัตราภาษีเพิ่มจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 0.53 ของยอดรวมงบดุล ซึ่งได้มีการประกาศใช้ โดยนายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ โอบาน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ทำให้บรรดาธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ต้องรับภาระภาษี เป็นจำนวน 8 พันล้านโฟรินท์ (29.08 พันล้านยูโร) เพิ่มจากเดิมตามที่ตกลงกันไว้ถึง 200 พันล้านโฟรินท์ (727.02 ล้านยูโร)

ด้วยเหตุนี้ เป็นผลทำให้ธนาคาร K&H จะตัดรายจ่าย ด้วยการให้พนักงานออกจากงาน จำนวน 215 คน ธนาคาร Erste จะให้พนักงานออกจากงาน จำนวน 250 คน แม้ว่าธนาคาร K&H จะประกาศผลกำไรหลังหักภาษีแล้ว ในระยะ 9 เดือนแรก เป็นเงิน 16 พันล้านโฟรินท์ (58.4 พันล้านยูโร) แล้วก็ตาม แต่ในไตรมาส 3 ธนาคารขาดทุน 7 พันล้านโฟรินท์ (25.55 ล้านยูโร) ส่วนธนาคาร FHB ในไตรมาสที่ 3 กำไรหลังหักภาษีนั้น 277 ล้านโฟรินท์ (1.006 ล้านยูโร) ซึ่งลดลงถึง ประมาณ 80% เมื่อเปรียบเทียบจากปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์หลายคนแสดงความคิดเห็นว่า การเปลี่ยนระบบการเก็บภาษีในรูปแบบใหม่นี้ จะมีผลดีในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวนั้นยังน่ากังวลใจในความยั่งยืนของกลยุทธ์

ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้กล่าวกับพรรคฟิแดส ให้ช่วยกลับไปคิดว่า “ลดภาษีเพื่อคนรวย” ในระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา

ที่มา: หนังสือพิมพ์ The Budapest Times ( 22 November — 28 November 2010 )

สคร. ณ กรุงบูดาเปสต์

ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ