เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์
ในช่วง 8 เดือนแรกปี 2553 นี้ (ม.ค.-ส.ค.) การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ในเยอรมนียังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง มียอดการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ ในประเทศมียอดขายอุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็คทรอนิกส์เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 41,629 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 โดยเป็นการขายในประเทศมูลค่า 18,875 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 และในต่างประเทศ 21,125 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.0 สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้ามียอดขายรวมทั้งสิ้น 42,018 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 เป็นการขายในประเทศ 22,003 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 และในต่างประเทศมูลค่า 20,015 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3
สินค้าส่งออกของไทย
ตามสถิติกรมศุลกากรไทย มูลค่าการส่งออกสินค้ารายการนี้ของไทยไปเยอรมนียังคงเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 เดือนแรกปี 2553 มีการส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่า 226.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.9 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 70.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 114.3 เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าให้สัญญานเสียงแสงมูลค่า 36.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.4 สำหรับเครื่องอิเล็คทรอนิกส์ มีการส่งออกเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 592.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีการส่งออกเป็นมูลค่า 392.1 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 รองลงมาเป็น วงจรพิมพ์ มูลค่า 52.6 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.0 แผงวงจรไฟฟ้า มูลค่า 52.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 ตลาดทั้งในประเทศและจากต่างประเทศยังคงมีความต้องการสินค้ารายการนี้สูงต่อเนื่องเพิ่อการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปและส่งออกไปต่างประเทศ เยอรมนีจึงต้องการสินค้าประเภทชิ้นส่วนและส่วนประกอบมากขึ้นซึ่งเป็นสินค้าส่งออกของไทย ประกอบกับประเทศผู้ผลิตสำคัญๆ ในยุโรป โดยเฉพาะไอร์แลนด์ มีปัญหาด้านการเงิน เริ่มขาดสภาพคล่องการกู้ยืมเงิน ทำให้มีสินค้าส่งออกลดน้อยลง ส่งผลให้การส่งออกสินค้ารายการนี้ของไทยสามารถขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ปัญหาอุปสรรค
1. สินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่มีมเป็นผลผลิตของกิจการข้ามชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริการ ทำให้มูลค่าของการส่งออกจะเป็นไปตามนโยบายของบริษัทข้ามชาติเหล่านี้
2. สำหรับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบ สำหรับการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป ได้แก่ แผงวงจร วงจรพิมพ์ และชิ้นส่วนของเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น การส่งออกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจะขึ้นอยู่กับความต้องการสินค้าสำเร็จรูป
3. ประเทศไทยยังไม่มีความสามารถในการผลิตสินค้า High Tech แบบใหม่ๆ ที่ตลาดมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
4. วัตถุดิบและชิ้นส่วนต่างๆ ได้แก่ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ยังคงมีแนวโน้มราคาลดต่ำลง
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th