1. ภาพรวมเศรษฐกิจ
1.1 ไซปรัสมีระบบเศรษฐกิจเสรีและมีโครงสร้างเศรษฐกิจแยกตามความสำคัญ (% ของ GDP) ดังนี้ อสังหาริมทรัพย์และธุรกรรมทางธุรกิจ (Real Estate, renting & Business activities) 19.5% อุตสาหกรรมขั้นรอง (Secondary sector) 18.3% ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก (wholesale & retail) 12.7% การประชาสัมพันธ์/(Public Administration & Defence) 10.5% , ตัวกลางทางการเงิน (Financial intermediation) 8.6% การขนส่งและการสื่อสาร (Transport, storage & communication) 7.1% ภัตตาคารและโรงแรม 6.1% การศึกษา (6%) การสาธารณะสุขและสังคม (Health & social work) 4% และอุตสาหกรรมพื้นฐาน (Primary Sector) 2.4%
1.2 อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ เหมืองแร่และซีเมนต์ ก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ รองเท้า อาหาร เครื่องดื่ม ยาสูบ
1.3 ทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ได้แก่ ทองแดง ไพไรท์ เส้นใยธรรมชาติ ยิปซั่ม ไม้ หินอ่อน
1.4 ประชากรไซปรัสนับว่ามีฐานะดีที่สุดในบริเวณเมดิเตอร์เรเนียน มีการศึกษาสูงและพูดภาษาอังกฤษได้ดี มีความเป็นอยู่ทีดีโดยมีค่าครองชีพไม่สูงนัก และมีระบบการสื่อสารและคมนาคมที่ทันสมัย
2. ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ (ข้อมูลประมาณการโดยกระทรวงการคลังไซปรัส ณ เดือน เมย. 53)
2.1 GDP value = 17,319.9 ล้านยูโร
2.2 GDP per capita = 21,179.8 ยูโร
2.3 GDP growth = 0.5% (ปี 2544=1.5%, ปี 2555-2556 =3%)
2.4 Unemployment rate = 0.7%
2.5 Inflation = 2.5%
2.6 Current Account Balance (% of GDP = -4%)
2.7 Public Deficit = 10,558.9 ล้านยูโร (61% ของ GDP)
2.8 Financial Deficit = -6.0%
3. การค้าระหว่างประเทศ
3.1 การส่งออก
ในปี 2552 ไซปรัสส่งออกสินค้าไปทั่วโลกมูลค่า 970.5 ล้านยูโร ลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งมีมูลค่าส่งออก 1,190.4 ล้านยูโร คิดเป็นร้อยละ 18.47 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เภสัชกรรม (สัดส่วน 22.5%) อุปกรณ์ Photosensitive semiconductor (12%) Halloumi cheese (8.6%) มันฝรั่ง (8%) เศษเหล็ก (6.3%) น้ำผักผลไม้ (2.2%) ยาสูบ (2.3%) ตลาดส่งออกสำคัญคือ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ได้แก่ เยอรมัน กรีซ อังกฤษ และอิตาลี (สัดส่วนตลาด 59%) รองลงมาเป็นแถบตลาดใกล้เคียงและตะวันออกกลาง ได้แก่ อิสราเอล UAE ซาอุดิอาระเบีย เลบานอน และจอร์แดน (สัดส่วนตลาด 14 %) ตลาดประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ จีน อินเดีย เวียดนาม และฮ่องกง (สัดส่วนตลาด 11%) ตลาดยุโรปอื่นๆ ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน นอร์เวย์ (สัดส่วนตลาด 6%)
3.2 การนำเข้า
ในปี 2552 ไซปรัสนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกมูลค่า 5,654 ล้านยูโร ลดลงจากปีก่อนซึ่งนำเข้ามูลค่า 7,349 ล้านยูโร หรือลดลงร้อยละ -23% สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค (สัดส่วน 34.1%) สินค้าขั้นกลางเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต (27.7%) น้ามันเชื้อเพลิง (17.6%) สินค้าทุน (10.6%) และเครื่องใช้ในการขนส่ง (9.9%)
ตลาดนำเข้าสำคัญ คือ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ได้แก่ กรีซ อิตาลี อังกฤษ และเยอรมัน (สัดส่วนตลาด 71.6%) รองลงมาเป็นกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ไทย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ (สัดส่วน 11.3%) กลุ่มประเทศใกล้เคียงและตะวันออกกลาง (สัดส่วนตลาด 8.6%) กลุ่มประเทศยุโรปอื่น (สัดส่วนตลาด 3.2%)
3.3 ดุลการค้า หน่วย : พันล้านยูโร
ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 Domestic Exports 505,290 545,355 497,083 Re-exports 577,379 622,015 484,130 Total Exports 1,082,699 1,167,370 963,213 Total Import 6,353,445 7,349,049 5,654,446 Trade Balance -5,270,776 -6,181,679 -4,691,233 4. ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ
4.1 จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2551 ส่งผลให้เศรษฐกิจไซปรัสหดตัวลงอย่างมาก และคาดว่าในปี 2553 ไซปรัสจะขาดดุลงบประมาณ -6% ของ GDP
4.2 ในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลไซปรัสได้ดำเนินการดังนี้
- เพิ่มความเข้มงวดตามโครงการป้องกันเงินทุน
- เสริมสภาพคล่องให้แก่ภาคการธนาคารเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี
- เพิ่ม ECP programme วงเงิน 2 พันล้านยูโร เพื่อใช้ในการต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจ
4.3 นอกจากนี้ รัฐบาลไซปรัสได้ออกมาตรการ Stability program (SP) เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมายคือ -4.5% ของ GDP ในปี 2554 และ-3.4% ในปี 2555 ดังนี้
4.3.1 มาตรการด้านรายจ่าย
- การค่อยๆลดมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆเมื่อเห็นว่ามีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแล้ว
- ตัดลดค่าใช้จ่ายของการประกอบการลง
- เน้นมาตรการที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคสังคม
4.3.2 มาตรการด้านรายได้
- ปรับภาษีการบริโภคน้าและอื่นๆให้สอดคล้องกับภาษีของสหภาพยุโรป
- เก็บภาษี vat ในอัตรา 5% กับสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์ยา ( ตาม EU Harmonization Tax)
- เพิ่มการเก็บภาษีประจำปีสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนประกอบการ
- เพิ่มฐานในการคำนวณและอัตราภาษีสำหรับทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ (Immovable property tax) และภาษีสรรพาสามิตรสำหรับยาสูบ
4.4 อัตราภาษี
- Personal Income tax = 20-30% (ไม่เรียกเก็บกรณีมีรายได้ต่อปีต่ำกว่า 19,500 ยูโร)
- corporate tax = 10%
- Value added tax = 15%
5. การลงทุน
ไซปรัสเป็นประเทศที่น่าลงทุนประเทศหนึ่งเนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญในด้านเหมืองแร่และเส้นใยธรรมชาติที่ใช้กันไฟ โดยมีอุตสาหกรรมหลักเกี่ยวกับแร่และซีเมนต์ การก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์รองเท้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนและอาจกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจภูมิภาคระหว่างภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาในที่สุดเนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น สนามบิน ท่าเรือ และการโทรคมนาคมที่มีการพัฒนาและก้าวหน้า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเกื้อหนุนอื่นๆ ได้แก่ การเป็นประเทศที่มี GDP ต่อหัวที่สูง มีอัตราการว่างงานค่อนข้างต่ำ (คาดว่าปี 53 จะเท่ากับ 7%) มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ (2.5%) มีระบบอัตราภาษีที่มีประสิทธิภาพ มีการทำความตกลง Double treaties กับประเทศคู่ค้ากว่า 40 ประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 2552 ไซปรัสมีการลงทุนตรง (FDI) รวมทั้งสินมูลค่า 3,620 ล้านยูโร โดยภาคอุตสาหกรรมสำคัญที่มีการลงทุนคือ ตัวกลางด้านการเงิน (58.13%) การค้าและการซ่อมแซม (23.68%) และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่นๆ (15.73%) ประเทศที่มาลงทุนที่ไซปรัสสำคัญๆ ได้แก่ ประเทศในสหภาพยุโรป (มูลค่ากว่า 2,357 ล้านยูโร) สหรัฐอเมริกา (มูลค่า 187.8 ล้านยูโร) และประเทศในแถบเอเชีย (มูลค่า 138.3 ล้านยูโร)
6. ประเด็นที่ไทยอาจหยิบยกขึ้นหารือ
หวังว่าไทยและไซปรัสจะมีความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมการต่อเรือซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพมาก และไซปรัสก็เป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านนี้ โดยมีเรือจดทะเบียนมากถึง 2,758 ลา นับเป็นอันดับ 4 ของโลก
ทั้งนี้ ข้อมูลการค้าระหว่างไทย-ไซปรัสเฉลี่ยปีละกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในช่วง 10 เดือนแรก (มค.-ตค.) ของปี 53 ไทยส่งออกไปไซปรัสมูลค่า 41.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากไซปรัสมูลค่า 2.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อาหารทะเลกระป๋องแปรรูปและปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง อัญมณีและเครื่องประดับ
สินค้านำเข้าสำคัญจากไซปรัส ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ สินแร่โลหะอื่นๆ ผักผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม
ที่มา: http://www.depthai.go.th