บริษัท Mexichem เป็นบริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ก่อตั้งเมื่อปี 2541 จากการรวมตัวของบริษัท Quimica Pennwalt และบริษัท Polimeros de Mexico โดยได้รับการลงทุนเพิ่มจากผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ บริษัท Elf Atochem จากประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนชาวเม็กซิกันในนามบริษัท Grupo Empresarial Privado Mexicano และในปีถัดมาได้ร่วมทุนเพิ่มกับกลุ่มอุตสาหกรรม Camesa
สินค้าเคมีภัณฑ์ที่บริษัท Mexichem ประสบความสำเร็จด้านการตลาดในตอนต้น ๆ ได้แก่ สินค้าเคมีที่ใช้ในการผลิตแก๊สและน้ำมัน การผลิตเหล็ก และที่ใช้กับเครื่องมือผลิตภัณฑ์ ด้านการสื่อสาร นอกจากนี้แล้ว ยังมีการผลิตสินค้าพีวีซีและโซดาไฟ ซึ่งในระยะแรกมีราคาแข่งขันได้ไม่ดีนัก เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูง ภาวะเศรษฐกิจซบเซาในตลาดภายในของประเทศเม็กซิโกและสหรัฐฯ ในช่วงปี 2543-2532 ได้ผลักดันให้บริษัทฯ หันไปให้ความสนใจในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ และได้มีการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรม Camesa ได้ร่วมทุกับบริษัท Total ประเทศฝรั่งเศส ซื้อหุ้นทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นเดิม และซื้อกิจการของบริษัท Quimica Fluor และบริษัท Compania Minera Las Cuevas ซึ่งเป็นผู้ผลิต fluorspar สำคัญของโลก ทำให้บริษัท Mexichem เป็นผู้ผลิต hydrofluoric acid ที่ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาทั้งสอง ส่วนในกิจการด้านการผลิต PVC ได้ขยายตัวโดยการการซื้อกิจการบริษัท Grupo Primex ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีวีซี ที่สำคัญในประเทศเม็กซิโก
การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัท Mexichem โดยการซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องการกับผลิตสารเคมีต่าง ๆ ในประเทศเม็กซิโก รวมทั้งการซื้อกิจการในประเทศบราซิล และอาร์เจนตินา และการขยายสินค้าไปครอบคลุมการผลิตสารเคมีที่เกี่ยวกับการทำความเย็นต่างๆ ทำให้บริษัท Mexichem ลดต้นทุนการผลิตและจัดการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้บริษัทฯ รักษาการแข่งขันภายในตลาดที่กว้างใหญ่ได้ โดยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ใช้เงินทุนในการซื้อกิจการต่าง ๆ ไปประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2552 ศาลแพ่งของเม็กซิโกได้ไต่สวนคัดค้านการซื้อกิจกการด้านพีวีซีในเม็กซิโกโดยอ้างกฏหมายป้องกันการรวมตัวของกิจการในลักษณะผูกขาด แต่ในที่สุด บริษัทฯ ก็สามารถซื้อกิจการเพิ่มได้อีก 2 แห่งในปีนั้น โดยได้มีข้อตกลงว่าจะไม่ทำการขยายการลงทุนในด้านการผลิตท่อพีวีซีในตลาดเม็กซิโกเพิ่มเติม บริษัทฯ จึงหันไปแสวงหาโอกาสการขยายตัวในการผลิตพีวีซีในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และได้เข้าซื้อกิจการด้านพีวีซีใน ประเทศเปรูในปี 2553 ซึ่งยกสถานะให้บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตท่อพีวีซีและ vinyl resins ที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานการผลิตสารเคมีทั้งหมด 40 กว่าแห่งรวมทั้งโรงงานในสหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่นและไต้หวัน
บริษัท Mexichem ได้แถลงข่าวในเดือนพฤศจิกายน 2553 ว่าได้เตรียมแผนงานการขยายตัวต่อไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรปในอนาคต ยอดขายของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปี 2553 มีมูลค่า 2.157 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552
http://www.mexichem.com/English/historia.html
http://www.plasticsnews.com/headlines2.html?id=20432
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th