การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ประธานาธิบดีของประเทศเม็กซิโก นายเฟลิปเป คัลเดรอน ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเม็กซิโก เพื่อให้เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคละตินอเมริกา โดยต้องการยกระดับด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นอันดับที่ 20 ในดัชนีโครงสร้างพื้นฐานของ World Economic Forum ภายในปี ค.ศ. 2012 จึงได้มีการเร่งการลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพของโครงสร้างที่มีอยู่ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐได้สร้างภาวะเศรษฐกิจซบเซาในเม็กซิโก และได้มีผลทำให้โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยภาคเอกชนได้ถูกเลื่อนกำหนดออกไป แต่การก่อสร้างไม่ได้ถึงกับหยุดชะงับ โดยบริษัทก่อสร้างเอกชนได้หันทำการก่อสร้างในขนาดกลางแทน เช่น การสร้างศูนย์พาณิชย์ ธุรกิจอาคารที่พักอาศัยหรือโรงแรม เป็นต้น ในขณะที่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่รัฐบาลสนับสนุน เช่น การบูรณะปรับปรุงเขื่อน การสร้างหรือบูรณะโรงผลิตไฟฟ้าและการประปา การตัดเส้นทางถนนใหม่ การปรับปรุงระบบทางเดินรถไฟ และการปรับปรุงสนามบินและท่าเรือ การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และพื้นที่พาณิชย์ในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ โครงการก่อสร้างเหล่านี้ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยการก่อสร้างโดยส่วนใหญ่มักจะรวมตัวในพื้นที่เมืองใหญ่ๆ เช่น ที่ กรุงเม็กซิโกและในพื้นที่ของรัฐ Puerto Vallarta, Baja California, Monterrey, San Miguel de Allende, Guadalajara และ Riviera Maya
นอกจากการจัดสรรงบประมาณภาครัฐแล้ว รัฐบาลเม็กซิโกของเม็กซิโกยังได้รับความช่วงเหลือจากแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศ เช่น จากธนาคารโลก ธนาคาร North American Development Bank, Interamerican Development Bank, OPIC, USTDA, Exim Bank, USAID, Banobras และ FONADIN เป็นต้น
การขยายตัวของการเคหะ
ในด้านการเคหะในเม็กซิโกนั้น ปรากฏว่าได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาก ประมาณปีละ 4.5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณทั้งในระดับชาติระดับรัฐ และระดับท้องถิ่น รวมทั้งได้มีการส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุน เพื่อสร้างบ้านเรือนให้แก่ผู้มีรายได้ต่ำ เพื่อเป็นการสร้างงานและการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ
รัฐบาลของเม็กซิโกมีสถานบันที่ให้สินเชื่อเพื่อการเคหะสองสถาบันสำคัญ อันได้แก่ Infonavit (สถาบันสินเชื่อเพื่อการเคหะสำหรับแรงงานในภาคเอกชน) และ Fovissste (สถาบันสินเชื่อการเคหะสำหรับพนักงานในภาครัฐ) โดยกฎหมายแรงงานได้บังคับให้ลูกจ้างทุกรายต้องสมทบทุนร้อยละ 5 ของค่าจ้างเข้ากองทุนดังกล่าว และเมื่อลูกจ้างที่ได้สะสมเงินออมได้ระดับหนึ่งก็จะสามารถขอเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้
บริษัทรับเหมาก่อสร้างของเม็กซิโกที่เป็นขนาดใหญ่ ได้แก่กลุ่ม ICA, GEO, ARA, HOGAR, SARE, HOMEX และ URBI โดยเฉพาะบริษัท GEO และ บริษัท HOMEX นับว่าเป็นบริษัทก่อสร้างโครงการการเคหะที่ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้โครงการการเคหะขนาดใหญ่ที่กำลังได้รับการพัฒนา มีขนาดหมู่บ้านละ 10,000-20,000 หลังในพื้นที่เดียว โดยตลาดที่พักอาศัยที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุด ได้แก่ บ้านเรือนระดับกลางซึ่งมีราคาอยู่ในระดับราคาระหว่าง 28,000-50,000 เหรียญสหรัฐฯต่อหลัง
การขยายตัวของการเคหะดังกล่าวทำให้ความต้องการสำหรับวัตถุดิบ และอุปกรณ์การก่อสร้างขยายตัวในอัตราที่เทียบได้หรือมากกว่าอัตราการขยายตัวของการก่อสร้าง สภาหอการค้าอุตสาหกรรมก่อสร้างแห่งเม็กซิโก (CMIC) ได้รายงานว่า มีบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการก่อสร้างภายในประเทศ ที่เป็นบริษัทขนาดกลางและเล็ก (ลูกจ้างน้อยกว่า 50 คน) จำนวนกว่า 7,000 ราย และมีกำลังจ้างแรงงานทั้งทางตรงและทางอ้อมประมาณ 6.8 ล้านคน
ส่วนบริษัทที่เป็นผู้นำในด้านสินค้าก่อสร้างมีประมาณ 25 บริษัท อันได้แก่ บริษัท Cemex, Cementos Cruz Azul, Cementos Apasco, Eureka, Ceramica Santa Julia, Ladrillera Mecanizada, Terracon, Lamina Desplegada, Panel Rey, Vitro Fibras, Ceramica Gaya, Mosaicos Venecianos de Mexico, Fester, Laminados de Barro, Marmoles y Granitos, Cerraduras Tesa, Black and Decker, Imperquimia, Protexa, Productos Nacobre, Escaleras Rital, Vidrio Plano, Madeira Carpinteria Profesional, Recubre และ Productos Cristalum เป็นต้น
ช่องทางการตลาด
สำหรับตลาดการนำเข้าสินค้าก่อสร้างนั้น สหรัฐฯ เป็นผู้ที่ได้รับส่วนแบ่งของตลาดที่สำคัญ โดยในปี 2550 ได้มีการคาดคะเนสัดส่วนการครองตลาดการนำเข้าสินค้าก่อสร้าง คือ สหรัฐฯ ร้อยละ 60 อิตาลี ร้อยละ 10 สเปน ร้อยละ 9 จีนร้อยละ 7 เกาหลี ร้อยละ 6 ไต้หวันร้อยละ 4.5 แคนาดา ร้อยละ 2 และอื่น ๆ ร้อยละ 1.5 อย่างไรก็ดี ในปีหลัง ๆ ได้มีการนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับการก่อสร้างจากประเทศในแถบเอเชียมากขึ้น
บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเม็กซิกันกำลังค้นหาความรู้ เทคโนโลยี และวัตถุดิบทั้งในระดับราคาสูงและต่ำ ที่พร้อมติดตั้งได้สะดวกง่ายดาย และต้องการสั่งซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงเพื่อรับราคาซื้อในระดับที่ต่ำที่สุด สินค้าก่อสร้างที่มีโอกาสในการนำเข้า (ตามระหัสสินค้า HS/ ประเภทสินค้า) มีดังต่อไปนี้
7610.1001: Aluminum doors and windows 6910.10: Bathroom and kitchen fixtures 4418.1001: Windows and their frames of wood 4418.2001: Doors and their frames of wood 8512.10: Electrical fixtures 7019.9006: Electric insulating tubes 7308.3099: Steel and iron doors and windows 4418.3001: Parquet panels of wood 8203.4002: Plumbing fixtures 3925.2001: Plastic doors and windows 3920: Roofing products 7411.1001: Tubes and pipes of copper 8302.4105: Window brackets การเจาะเข้าตลาดเม็กซิโก
ในขั้นแรก จำเป็นต้องหาตัวแทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ และเครือข่ายการขายกับบริษัทก่อสร้างอยู่แล้ว ซึ่งมักจะรวมตัวกันอยู่กันในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทก่อสร้างสำคัญ ๆ ในขั้นต่อมาเมื่อมีประสบการณ์ในตลาดพอสมควรแล้ว สามารถเปิดสำนักงานตัวแทนจำหน่ายภายในประเทศเพี่อดูแลลูกค้าหลังการขาย
ผู้ผลิตสินค้าก่อสร้างที่ต้องการให้สินค้าของตนเป็นที่ยอมรับในการประมูลกับสถานบันที่เกี่ยวข้อง ควรจะลงทะเบียนบันทึกเป็นส่งมอบสินค้าด้านก่อสร้างไว้กับ INFONAVIT, FOVISSSTE, FONHAPO, PEMEX, CEF และสถาบันอาคารสังเคราะห์ในระดับรัฐ
ปัจจัยที่จะสนับสนุนการเจาะเข้าตลาดก่อสร้างที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรได้รับการพิจารณา คือ การให้เงินกู้ในลักษณะเงินช่วงเหลือในการพัฒนาประเทศหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยการผูกมัดเงื่อนไขการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย
งานแสดงสินค้าสำคัญ:
CONCRETO LATIONAMERICA http://www.concretolatinoamerica.com/
Website: http://www.saiemexico.com.mxwww/: WWW
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง:
Mexican Chamber for the Construction Industry: http://www.cmic.org/
National Chamber for Housing: http://www.canadevi.org.mx/
National Chamber for Consulting Firms: http://www.cnec.org.mx/
Construction and Housing Development Center: http://www.cihac.com.mx/
National Institute for Geography and Statistics: http://www.inegi.gob.mx/
Institute of National Housing Fund for Workers:
Government Housing Fund for Federal and State workers:
http://www.fovissste.gob.mx/
แหล่งข้อมูล:
http://www.buyusa.gov/mexico/en/building_construction.html
http://www.bis.org/ifc/publ/ifcb31c.pdf
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเม็กซิโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th