บริษัท DUCATI

บริษัท Ducati Motor Holding S.p.A. นับเป็นบริษัทอิตาเลียนที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากการผลิตรถจักรยานยนต์ที่สูงทั้งสมรรถนะ ทั้งเอกลักษณ์จากดีไซน์อิตาเลียนแท้ๆ ที่ได้รับการยอมรับจากวงการออกแบบทั่วโลก

บริษัท Ducati ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1926 โดยครอบครัว Ducati นำโดย Bruno Ducati, Adriano Ducati และ Marcello Ducati มีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองโบโลญญ่า ประเทศอิตาลี โดยมีจำนวนพนักงานทั้งหมด 1172 คน(*) และมีรายรับต่อปีอยู่ที่ 403.2 ล้านยูโร(*) ประธานบริษัทคนปัจจุบันคือ Mr. Giampiero Paoli (CHAIRMAN) และ Mr. Gabriele Del Torchio (CEO)

บริษัท Ducati ได้เปลี่ยนผู้บริหารหลายรุ่น และถูกบริหารโดยกลุ่มบริษัทต่างๆ ตลอดเวลากว่า 80 ปี

• ปี 1926-1950 บริหารโดยครอบครัว Ducati
• ปี 1950-1967 เข้ารับการสนับสนุนโดยรัฐบาล และเปลี่ยนจากบริษัทเอกชน กลายเป็นบริษัทของรัฐ และได้รับการบริหารโดยกลุ่ม IRI ทั้งนี้ในปี 1953 บริษัทถูกแบ่งออกเป็น 2 บริษัทย่อย คือ Ducati Elettrotecnica (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Ducati Energia) และ Ducati Meccanica
• ปี 1967-1978 เปลี่ยนผู้บริหารเป็นกลุ่ม EFIM (Ente Partecipazioni e Finanziamento Industrie Manifatturiere หรือ กลุ่มเงินทุนเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต) ซึ่งควบคุมการดำเนินการผลิตวันต่อวัน
• ปี 1967 — 1973 บริหารโดย Mr. Giuseppe Montano
• ปี 1973-1978 บริหารโดย Mr. Cristiano de Eccher
• ปี 1978-1985 บริหารโดย VM Group
• ปี 1985-1996 บริหารโดย Cagiva Group
• ปี 1996-2005 บริหารโดย Texas-Pacific Group ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน และปรับรูปแบบองค์กรเป็นมหาชน
• ปี 2005-2008 บริหารโดย Investindustrial Holdings SpA ซึ่งทำให้กลับมาอยู่ในความดูแลของบริษัทอิตาเลียนอีกครั้ง
• ปี 2008-ปัจจุบัน บริหารโดย Performance Motorcycles SpA และกลับมาเป็นบริษัทเอกชนเช่นเดิม

หมายเหตุ (*) ข้อมูลจากปี 2008

ประวัติการทำงานของบริษัท

โดยแรกเริ่มบริษัท Ducati เป็นบริษัทผลิตท่อสำหรับเครื่องดูดฝุ่น และอุปกรณ์ชิ้นส่วนสำหรับวิทยุ ซึ่งก่อตั้งโดยวิศวะกรชาวอิตาลี Mr. Antonio Cavalieri Ducati ภายใต้ชื่อ Societa Scientifica Radio Brevetti Ducati และเริ่มขยับขยายบริษัทเข้าสู่รูปแบบอุตสาหกรรมโดยการบริหารงานของผู้เป็นลูก นาโดย Mr. Adriano, Mr. Bruno และ Mr. Marcello Ducati ซึ่งทำให้บริษัทเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และในปี 1935 ได้มีการก่อตั้งบริษัท Ducati โดยเน้นการผลิตเครื่องรับวิทยุ เสาอากาศวิทยุ กล้องถ่ายรูป เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า เป็นต้น และก่อตั้งโรงงานขึ้นที่ย่าน Borgo Panigale ในเมืองโบโลญญ่า

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัท Ducati จำเป็นต้องเปลี่ยนการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นการผลิตอุปกรณ์เพื่อใช้ในการสงคราม ซึ่งบริษัทถูกยึดโดยทหารเยอรมันในเวลาต่อมา และในวันที่ 12 ตุลาคม 1944 โรงงาน Ducati ก็ถูกทำลายเสียหายโดยระเบิดฝ่ายพันธมิตร

เมื่อสงครามสงบลง บริษัท Ducati จึงได้เริ่มต้นการผลิตสินค้าไลน์ใหม่ โดยการซื้อมอเตอร์สำเร็จรูปสาหรับติดตั้งจักรยานจากบริษัท SIATA เพื่อมาประกอบกับโครงจักรยาน และส่งออกขายเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นแรกภายใต้ชื่อ Cucciolo ซึ่งสามารถทำยอดขายทั่วโลกได้ถึง 250,000 คัน

นับจากนั้นบริษัท Ducati ก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเรื่อยมา จนถึงปี 1954 บริษัทจึงแตกออกเป็นบริษัทย่อย 2 บริษัทคือ Ducati Elettrotecnica (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Ducati Energia) เน้นพัฒนาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามไลน์ที่ครอบครัว Ducati ได้เริ่มไว้ และ Ducati Meccanica (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Ducati Motor) ซึ่งเน้นพัฒนารถจักรยานยนต์โดยเฉพาะ และในปี 1954 บริษัท Ducati Meccanica ก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตรถจักรยานยนต์ได้ถึง 120 คันต่อวัน

ในช่วงปี 60 บริษัท Ducati กลายเป็นบริษัทแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถสร้างรถจักรยานยนต์รุ่น 250 cc ซึ่งนับว่าเร็วที่สุดในยุคนั้น ต่อมาในช่วงปี 70 บริษัทก็เริ่มสายการผลิตรถจักรยานยนต์ L-Twin เช่นรุ่น 90 V-twin และในปี 1973 ก็ได้เปิดตัว L-twin ที่มาพร้อมวาล์ว Desmodromic เป็นรายแรก

ในปี 1985 บริษัท Cagiva ได้ซื้อบริษัท Ducati และวางแผนที่จะปรับตราสินค้าใหม่โดยใช้ชื่อ Cagiva ที่เป็นที่รู้จักน้อยกว่าภายนอกประเทศอิตาลี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเก็บตรา Ducati ไว้บนผลิตภัณฑ์จักรยานยนต์เหมือนเดิม

ในปี 1996 บริษัท Texas Pacific Group ได้ทาการซื้อหุ้นจานวน 51% ของบริษัทซึ่งนับเป็นเงิน 325 ล้านดอลล์ล่าสหรัฐ ทำให้กลายเป็นเจ้าของบริษัท Ducati ที่มีสัญชาติอเมริกันเป็นรายแรก และต่อมาก็ได้กว้านซื้อ 49% ที่เหลือเพื่อถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบริษัท Ducati แต่เพียงผู้เดียว

ในปี 1999 บริษัท Texas Pacific Group ได้นาบริษัท Ducati เข้าสู่ตลาดหุ้น และเปลี่ยนชื่อเป็น Ducati Motor Holding SpA. และได้ทาการปล่อยขายหุ้นของบริษัท Ducati มากกว่า 65% สู่ตลาด แต่อย่างไรก็ตามบริษัท Texas Pacific Group ยังคงถือหุ้นส่วนที่เหลือไว้เพื่อคงสิทธิ์การดูแลบริษัท และเครื่องหมายการค้า Ducati

ในปี 2005 บริษัท Ducati ถูกซื้อกลับมาสู่นักธุรกิจชาวอิตาเลียนอีกครั้ง โดยการลงทุนของบริษัท Performance Motocycles SpA โดย Mr. Carlo และ Andrea Bonomi และปรับบริษัทกลับมาเป็นบริษัทเอกชนอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

ประวัติการผลิต

ในปี 1950 บริษัท Ducati มีหัวหน้าดีไซน์เนอร์คือ Mr. Fabio Taglioni ซึ่งดูแลการออกแบบตั้งแต่ชิ้นส่วนเล็กๆ ไปจนถึง การออกแบบเครื่องยนต์แบบ twin และยังรับหน้าที่ดูแลการออกแบบของรถจักรยานยนต์ Ducati ต่อมากว่าครึ่งศตวรรษ

ในปี 1956 Ducati ได้เปิดตัวรถรุ่น Desmo 125 GP เป็นครั้งแรก และต่อมาในปี 1963 ก็พัฒนา Ducati Apollo 1260 ซึ่งเน้นตลาดผู้ใช้ชาวอเมริกันเป็นหลัก

ในช่วงปี 1979 บริษัทได้เปิดตัวเครื่องยนต์ Pantha 500 ออกสู่ตลาด ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ Fabio Taglioni ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อมาเป็น Ducati Super Sport (SS) Series ในช่วงปี 90 และเครื่องยนต์ Ducati รุ่นใหม่ๆ ก็ได้รับการพัฒนามาจากเครื่องยนต์รุ่น Pantha นี้

ในปี 1985 Ducati ได้เปิดตัว 750 F1 และ Paso ในปี 1986 ซึ่งออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ Massimo Tamburini แต่ในช่วงปีนี้รถจักรยานยนต์ Ducati ในซีรียส์ Indiana และรถจักรยานยนต์ Cagiva ที่ใช้มอเตอร์ Ducati กลับไม่ประสบความสาเร็จมากนัก

ในปี 1997 บริษัทได้เปิดตัวรถรุ่น serie ST (Sport-turismo) ซึ่งวางตำแหน่งไว้ว่าเป็นรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตที่ใช้ง่าย ปลอดภัย และสะดวกสบายแม้จะขับขี่เพื่อการท่องเที่ยวพร้อมกระเป๋าสัมภาระ รถรุ่น serie ST นี้ประกอบด้วย ST2 (มอเตอร์ 944 cc พร้อมวาล์ว 2 ตัว ระบายความร้อนด้วยน้า), ST4 (916 cc, วาล์ว 4 ตัว), ST4S/ST4S ABS (996 cc รถจักรยานยนต์คันแรกที่มีเบรก ABS ในตัว) และ ST3 (รถในซีรียส์นี้ได้หยุดการผลิตไปในปี 2007)

ในปี 2002 Ducati ได้ผลิต Ducati 999 ซึ่งออกแบบโดย Mr. Pierre Terblanche ดีไซน์เนอร์ชาวอัฟริกาใต้ ซึ่งนับว่าเป็นจุดสิ้นสุดของรถในซีรียส์นี้ เนื่องจาก Ducati 999 ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับรถรุ่นก่อนๆ อย่างรุ่น 996 997 หรือ 998 แต่อย่างไรก็ตาม Ducati 999 ก็ยังสามารถคว้าที่ 1 จากการแข่งขัน World Superbike ได้ในการลงสนามครั้งแรก ซึ่งขับขี่โดย Neil Hodgson นักแข่งรถชาวอังกฤษ และในปีต่อก็คว้ารางวัลที่ 1ได้อีกครั้งจากนักแข่งรถชาวอังกฤษ James Toseland แต่ในปี 2005 Ducati 999 ก็ต้องพ่ายให้กับรถจากค่าย Suzuki ซึ่งขับขี่โดยนักแข่งรถชาวออสเตรเลีย Troy Corser ส่วนในปี 2006 Ducati 999 ก็กลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งจากนักแข่งรถชาวออสเตรเลีย Troy Bayliss ซึ่งเคยขับ Ducati 996 จนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 มาก่อน ในปี 2001

ในปี 2006 บริษัท Ducati ได้นารถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นรถที่พัฒนามาจากรถแข่งประเภท MotoGP เรียกว่ารุ่น Desmosedici RR รถจักรยานยนต์ในตลาดรุ่นแรกที่พัฒนามาจากรถแข่งในสนามจริง

ส่วนในปี 2007 บริษัท Ducati ได้พัฒนารถจักรยานยนต์สู่ตลาด 2 รุ่น คือ รุ่น 1098 ซึ่งเป็นรถรุ่น พัฒนาต่อมาจากรุ่น 999 ที่ออกมาสนองความต้องการของตลาดถึง 3 เวอร์ชั่นคือ 1098, 1098s และ 1098 tricolour (twin motor, 160 cv) และรุ่น Hypermotard นับเป็นครั้งแรกที่ Ducati ได้ลงมาเข้าร่วมวงการรถจักรยานยนต์ประเภทวิบากอย่างเต็มตัว

ในปี 2008 บริษัท Ducati ได้นำ Monster 695 มาปรับโฉมครั้งใหม่ โดยพัฒนาเป็น Monster 696 ซึ่งออกแบบใหม่ทั้งหมด เช่น ชุดเบรก Brembo ท่อเบรกแบบ Aeronautic แผงวงจรแบบดิจิตอล และที่วางเท้าป้องกันการไถลลื่นแบบ ATPC เป็นต้น

ข้อมูลทางการตลาด

          ชื่อบริษัท        : Ducati Motor Holding S.p.A.

ประเภทของบริษัท : อุตสาหกรรมจักรยานยนต์

          ที่ตั้ง           : Via Cavalieri Ducati 3, Bologna 40132

ก่อตั้งเมื่อ : ปี 1926

          ผู้ก่อตั้ง         : Mr. Bruno Ducati

Mr. Adriano Ducati

Mr. Marcello Ducati

ประธานบริษัท : Mr. Gabriele Del Torchio

          รายได้         : 403.2 ล้านยูโร(1)

รายได้สุทธิ : 32.3 ล้านยูโร(1)

จำนวนพนักงาน : 1,172 คน(1)

Website : www.ducati.it

ตลาดการส่งออก : Italy 76.9 ล้านยูโร(2)

USA 73.2 ล้านยูโร(2)

France 28.1 ล้านยูโร(2)

Japan 24 ล้านยูโร(2)

หมายเหตุ (1) ข้อมูลปี 2008

(2) ข้อมูลปี 2006

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th