ความเป็นมา
ตามที่สคร.ชิคาโกรายงานเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2553 การปรับปรุงพระราชบัญญัติ ความปลอดภัยสินค้าอาหารของสหรัฐฯ (FDA Food Safety Food Safety Modernization Act หรือ S.510) และ ปัจจุบัน วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้มีมติเห็นชอบผ่านกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 73-25 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553
ความคืบหน้า
สคร.ชิคาโกใครขอเรียนรายงานความคืบหน้าของกฎหมาย ดังนี้
1. วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ตัดการขอเพิ่มระเบียบข้อบังคับเพื่อให้ US FDA เข้มงวดกับสินค้าอาหารทะเลนำเข้า ซึ่งตั้งเป้าหมายไปยังสินค้ากุ้งนำเข้าจากต่างประเทศ ของวุฒิสมาชิก Mary Landrieu พรรค Democrat รัฐหลุยส์เซียน่า ออกจากพระราชบัญญัติความปลอดภัยสินค้าอาหาร (Food Safety Modernization Act) ฉบับใหม่นี้แล้ว
2. สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (House of Representatives) ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 212 — 206 รับรองพระราชบัญญัติความปลอดภัยสินค้าอาหารฉบับของวุฒิสภา เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ และส่งกลับไปให้วุฒิสภาเห็นชอบเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อที่จะนำเสนอให้ประธานาธิบดีลงนาม ภายในสิ้นปี 2553 และให้มีผลบังคับตามกฏหมายในปี 2554
3. สหรัฐฯ จะใช้งบประมาณ 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในดำเนินการปรับปรุงและบริหารในการเพิ่มความปลอดภัยของสินค้าอาหารภายใต้กฎหมาย Food Safety Modernization Act ในช่วงระหว่างปี 2554 — 2558 โดยจะผนวกไปกับกฎหมาย Omnibus Spending Bill ซึ่งผ่านมติเห็นชอบของรัฐสภาสหรัฐฯ เรียยร้อยแล้ว
ความเห็น/ข้อพิจารณา
กฎหมายฉบับนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ผลิต/ส่งออกสินค้าในต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการมากขึ้น อีกทั้ง กฎหมายจะเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาดสินค้า อาหารของไทยไปยังสหรัฐฯ ดังนั้น ภาครัฐ และ องค์เอกชนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าอาหารเพื่อการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ควรพิจารณาดำเนินการดังนี้
1. ศึกษารายละเอียดข้อกำหนดและระเบียบของกฎหมาย โดยดูได้จาก Website www.govtrack.us/congress/billtext.xpd?bill=s111-510 และเผยแพร่ให้แก่ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกสินค้าอาหารของไทยไปยังสหรัฐฯ ได้รับทราบและปฏิบัติได้ถูกต้อง
2. พิจารณาเชิญเจ้าหน้าที่ FDA สหรัฐฯ มาบรรยายและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฏหมาย ความปลอดภัยสินค้าอาหารฉบับใหม่ของสหรัฐฯ แก่ผู้ผลิต/ส่งออกไทยสินค้าอาหารของไทยได้รับทราบ เพื่อเตรียมการและการปฏิบัติได้ถูกต้องต่อไป
3. พระราชบัญญัติความปลอดภัยสินค้าอาหารฉบับใหม่ เปิดช่องให้ US FDA สามารถใช้ Third Party ให้บริการตรวจโรงงานอาหาร ดังนั้น ประเทศไทยควรพิจารณาทำข้อตกลงกับ FDA สหรัฐฯ ขอให้หน่วยงานของรัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องกับการรับรองโรงงาน เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ และรับรองโรงงานของไทยในด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหาร ให้ตรงตามที่กฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ผลิต/ส่งออกไทย
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th