ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ (นายศิวะลักษณ์ นาคาบดี) เปิดเผยว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้อัดฉีดเงินงบประมาณแผ่นดิน เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ในปี 2554 ทั้งนี้ ซาอุฯ กำหนดเงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อการใช้จ่ายในปี 2554 ทั้งสิ้น 154.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสูงกว่าปี 2553 ถึง 11.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในจำนวนนี้ใช้เป็นงบลงทุนถึง 106.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (เกินกว่าร้อยละ 68 ของเงินงบประมาณฯ ทั้งหมด) โดยเน้นการลงทุนส่วนของโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษาสำหรับประชาชน เพื่อเป็นการสร้างงานให้กับกลุ่มคนหนุ่มสาว
ทางการซาอุฯ ใช้เงินในหลายๆ ด้าน ที่สำคัญพอสรุปได้ดังนี้ 1) ด้านการศึกษาและฝึกอบรม 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เช่น การสร้างสถานศึกษาใหม่ และฟื้นฟูสภาพโรงเรียนเก่า 2) ด้านสาธารณสุขและสังคม 18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการสร้างโรงพยาบาล ศูนย์กีฬา ศูนย์จัดหางานต่างๆ 3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเกษตร การประปา ใช้เงิน 13 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เช่น สร้างโรงแยกน้ำ เพิ่มเติม การหาแหล่งน้ำ การสร้างเขื่อน/บ่อ กักเก็บน้ำ 4) ด้านการคมนาคม และการสื่อสาร ใช้วงเงิน 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการสร้างถนนเพิ่ม 6,600 กม. สร้างสนามบินใหม่ 4 แห่ง ปรับปรุงท่าเรือที่มีอยู่ให้ดีขึ้น
สำหรับ ปี 2553 ทางการซาอุฯ รายงานว่า GDP (Nominal) เพิ่มขึ้นเป็น 435 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ทางด้านการค้า ซาอุฯ ได้ดุลการค้า 149 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มีการส่งสินค้าออกทั้งสิ้น 236 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าร้อยละ 23 มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น 87 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าร้อยละ 0.7
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าซาอุฯ มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีนโยบายที่จะลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประชาชนมีแนวโน้มที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัว ปัจจัยเหล่านี้น่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยมายังซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้าน/สำนักงาน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น/ตู้แช่ เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆในบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์การเรียนการสอน อะไหล่เครื่องจักร ยานยนต์ รวมทั้งกลุ่มสินค้าอาหารด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2553 (มค.-พย.) ไทยส่งสินค้าออกไปยังซาอุฯ ทั้งสิ้น 1,961 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.96 สินค้าที่ส่งออกไปซาอุฯ ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ (1,033 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เหล็กและเหล็กกล้า (93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ข้าว (85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน (78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ตู้เย็น/ตู้แช่ (64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และอาหารทะเลแปรรูป (56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์
ที่มา: http://www.depthai.go.th