ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ (นายศิวะลักษณ์ นาคาบดี) เปิดเผยว่า บริษัทของซาอุดีอาระเบีย จับมือกับบริษัทจากเกาหลีใต้ ทุ่มเงินลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ขึ้นในประเทศซาอุฯ คาดว่าจะผลิตรถคันแรกได้ภายในเวลาไม่เกินสองปีนับจากนี้
Riyadh Valley ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนของ King Saud University (KSU.) ร่วมกับ Digm Automotive Technologies จะจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ขึ้นที่กรุงริยาด เพื่อผลิตรถยนต์ราคาถูกคุณภาพดี เพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศในตะวันออกกลาง รวมทั้งแถบแอฟริกาเหนือรถยนต์ที่จะผลิตมีราคาประมาณ 9,000-12,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคัน
ทั้งนี้ KSU. ประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์คันแรกของซาอุฯ รุ่น Ghazal-1 ซึ่งมีการเปิดเผยต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2553 ดังนั้น KSU. จึงมีวัตถุประสงค์สำคัญในการดำเนินการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ นั่นคือ การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสถาบันการศึกษาเข้าสู่เอกชน และเป็นการนำประเทศก้าวเข้าสู่ Knowledge-based economy อีกด้วย KSU. โดย Riyadh Valley จะเป็นผู้ลงทุนในบริษัทใหม่ร้อยละ 10 บริษัท Digm จากเกาหลีใต้ ลงทุนร้อยละ 30 ที่เหลือจะระดมเงินทุนจากรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนของซาอุฯ
จากการศึกษาความเป็นไปได้ในแง่ธุรกิจ KSU. พบว่าตลาดมีความต้องการค่อนข้างสูงสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ในประเทศซาอุฯ และประเทศใกล้เคียงในตะวันออกกลางและประเทศในแถบแอฟริกาเหนือ ซาอุดีอาระเบีย เพียงประเทศเดียวตลาดรถยนต์มีมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณร้อยละ 25 มีการนำเข้ารถยนต์มากกว่า 5 แสนคันต่อปี
การที่ซาอุฯ ผลิตรถยนต์ขึ้นในประเทศ จะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยไปยังซาอุฯ เพียงใด ยังไม่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น สำนักงานฯ เห็นว่าประเทศซาอุฯ ยังไม่มีการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอะไหล่รถยนต์ภายในประเทศมากนัก ดังนั้น ในระยะแรกๆ โรงงานผลิตฯ น่าจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง ซึ่งภาคการผลิตอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในตลาดโลก จึงน่าที่จะได้รับประโยชน์จากการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในซาอุฯ ทั้งนี้ สำนักงานฯ จะได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป
ผอ. สำนักงานฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปี 2553 (มค.-พย.) ไทยส่งสินค้าออกไปยังซาอุฯ ทั้งสิ้น 1,961 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.96 สินค้าที่ส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย มากเป็นอันดับ 1 ก็คือ กลุ่มสินค้ารถยนต์และชิ้นส่วน มีการส่งออกมูลค่า 1,033 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือร้อยละ 53 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด คิดเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 31.65
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์
ที่มา: http://www.depthai.go.th